วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567

เขาคือบรรพบุรุษน้อยของผม 2 เล่มจบ

 


เขาคือบรรพบุรุษน้อยของผม 2 เล่มจบ

ผู้แต่ง : ซุ่ยหมาง

ผู้แปล : More Chinese

สำนักพิมพ์ Lilac


ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

พระเอก เฉาเฟิง เป็นชนกลุ่มน้อย(เผ่าเหมียว) อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารห่างไกลความเจริญ ฐานะทางบ้านยากจนมากกก แต่พระเอกหัวดีเรียนเก่ง พ่อนายเอกเป็นนายธนาคารได้พบพระเอกขณะเดินทางไปทำโครงการในถิ่นทุรกันดาร เห็นพระเอกแม้แต่รองเท้าก็ยังไม่มีใส่ เลยรับอุปการะช่วยส่งเสียค่าใช้จ่ายค่าเรียนให้พระเอก พ่อนายเอกอยากพาพระเอกมาอยู่ที่บ้านด้วยตั้งนานแล้ว แต่ติดที่ลูกชายหรือนายเอกไม่ยอมสักที จนแม่พระเอกเสีย พ่อก็เลยให้พระเอกมาอยู่ด้วยกันและย้ายมาเรียนในตัวเมือง

วันแรกที่นายเอกพบพระเอก คือน้องเห็นพระเอกแต่งตัวโทรมๆ เสื้อผ้าก็เก่าสีซีดๆ ผิวก็คล้ำดูสกปรกมอมแมมเลยเข้าใจผิดคิดว่าอีกฝ่ายเป็นขอทานก็เลยให้เงินไปซื้อไอติม พระเอกก็อาย แต่ไม่กล้าบอกว่าตัวเองเป็นใคร เพราะตอนนั้นยังพูดจีนกลางไม่ค่อยชัด แถมนายเอกยังดูดีมาก เปล่งประกายสุดๆ ช่างแตกต่างจากตัวเองยิ่งนัก

ตอนแรกนายเอกยังไม่ค่อยชอบพระเอก เลยสั่งไม่ให้พระเอกบอกใครเรื่องที่อยู่บ้านเดียวกันและให้ทำเป็นไม่รู้จักกันตอนอยู่ที่โรงเรียน  พระเอกก็เชื่อฟัง นายเอกว่าไงก็ว่าอย่างนั้น ...พระเอกคือมาจากหลังเขาจริงๆ ใสซื่อมาก ไม่รู้ว่าโลกภายนอกเขาใช้ชีวิตกันยังไง เข้าสังคมก็ไม่ค่อยเก่ง ตอนนายเอกพาไปตัดผมพระเอกยังไม่รู้เลยว่าที่นอนสระผมต้องหันหัวไปทางไหน ไม่เคยเห็นทีวี แต่พี่แกก็พยายามเรียนรู้และค่อยๆ ปรับตัวนะ ตั้งใจเรียนเป็นเด็กดี พยายามรบกวนพ่อนายเอกให้น้อยที่สุด เวลาพ่อนายเอกจะให้เงินค่าขนมหรือนายเอกซื้อของอะไรให้ก็ไม่เอา เว้นแต่นายเอกกับพ่อจะบอกว่าเป็นของเหลือไม่ใช่แล้วหรือได้มาฟรี พระเอกถึงจะยอมรับ พระเอกเป็นคนประหยัดมาก แต่ใจป้ำกับนายเอกสุดๆ ของตัวเองซื้อแบบลดราคาแต่ของนายเอกคือต้องดีที่สุด 

อยู่ไปอยู่มานายเอกก็เห็นว่าพระเอกนิสัยดีจริง ทั้งยังทำอาหารอร่อยด้วย เลยค่อยๆ เปิดใจยอมรับและติดพระเอกมากขึ้นเรื่อยๆ พระเอกก็ตามใจน้องฝุดๆ เช่นรู้ว่านายเอกชอบกินเกาลัดที่ขายอยู่นอกโรงเรียนก็จะแอบปีนรั้วออกไปซื้อมาให้ ตอนที่พระเอกไปมีเรื่องกับคนอื่นแล้วเขาตามมาเอาเรื่อง พระเอกก็ไม่ยอมบอกครูแต่เลือกไปเคลียร์เองเพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับนายเอกด้วย พระเอกไม่อยากให้ใครรู้ พอไปถึงเจออีกฝ่ายยกพวกมาเป็นสิบแต่พระเอกมาคนเดียว ตอนแรกนึกว่าต้องเลือดตกยางออกแน่ๆ แต่ไม่จ้า พระเอกคือชักมีดมาจี้คอตัวต้นเรื่องแล้วขู่เลย ฝั่งนั้นเห็นพระเอกใจเด็ด บวกกับสภาพร่างกายที่สูงใหญ่ข่มคนได้เลยกลัวและรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับนายเอกตามที่พระเอกบอกอีก... คือตอนวันเกิดนายเอก นายเอกนัดเพื่อนเก่า(ที่เป็นเด็กไม่ค่อยดี) ออกมาเลี้ยงข้าว แล้วก็เล่มนเกมที่ใครแพ้ต้องถูกตบหน้า พระเอกแวะเอาของมาให้แล้วเห็นตอนที่นายเอกโดนลงโทษพอดีเลยนึกว่าถูกรังแก ก็เลยพุ่งเข้าไปต่อยคน อีกฝ่ายเลยผูกใจเจ็บพระเอก แต่นายเอกไม่รู้นึกว่าไม่มีไรแล้ว

ก่อนหน้านี้พระเอกเข้าใจผิดคิดว่านายเอกชอบผู้ชาย (แต่จริงๆ นายเอกไม่ได้ชอบ แต่เป็นเพื่อนน้องที่อยู่เมืองนอกต่างหากที่ชอบ) ตอนแรกพระเอกไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้ไม่เคยเจอเลยไปค้นหาข้อมูลเองในเน็ตและปรึกษาคนอื่น ค้นไปค้นมารู้ตัวอีกที อ้าว..กลายเป็นตัวเองที่ชอบนายเอกซะงั้น พระเอกเลยพยายามหาอย่างอื่นทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง เช่นไปทำงานพาร์ตไทม์ แต่นายเอกเป็นเด็กติดคน ก่อนหน้านี้ติดพ่อแต่พอพระเอกดีด้วย(มากๆ) เลยติดพระเอกแทน พอรู้ว่าพระเอกไม่อยู่บ้าน ตัวเองอยู่คนเดียวตื่นมาไม่เจอใครน้องก็ขอให้พระเอกเลิกทำงานดีได้ไหม(เดี๋ยวน้องจ่ายค่าจ้างให้เอง) พระเอกรักน้องมากเข้าใจปมในใจน้องที่ขาดความรัก เพราะตอนน้องอยู่กับแม่ แม่ก็งานเยอะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ตอนน้องอยากเจอน้าอยากให้น้ามาหาก็ถึงขนาดยอมเรียนเปียโนที่ตัวเองไม่ได้ชอบ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากน้า ตอนมาอยู่กับพ่อ ช่วงแรกๆ ก็แกล้งป่วยเพื่อให้พ่อกลับบ้านมาอยู่ด้วย สุดท้ายพระเอกเลยลาออก ...

หลังจากนั้นพ่อก็จะให้ญาติคนหนึ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านด้วย พระเอกไปแอบได้ยินเลยรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินก็เลยขอย้ายออกไปอยู่หอพักของโรงเรียน พ่อพระเอกไม่อยากให้ไปเพราะรู้ว่าลูกตัวเองติดพระเอกมากขนาดไหน เลยบอกให้พระเอกเป็นคนไปบอกนายเอกเอง ตามคาด พอนายเอกรู้ก็โกรธมาก งอนไม่ยอมพูดกับพระเอกและไม่ไปกินข้าวตอนพักกลางวันด้วย...

ต่อมาญาติที่มาอยู่ด้วยก็บังเอิญไปเห็นตอนที่พระนายกอดกันก็เลยตกใจ ช็อก ไม่ยอมกลับบ้าน พอพ่อนายเอกโทรไปถามก็เอาแต่บอกให้คนในบ้านไปตรวจเอดส์ (ความรู้ติดลบมาก การศึกษาสำคัญจริงๆ) นายเอกรู้แล้วว่าญาติต้องเห็นแน่ๆ เลยไปลองพูดหยั่งเชิงพ่อดู ปรากฏว่าพ่อก็เปิดกว้างไม่ดูคัดค้านอะไร นายเอกเลยเบาใจ แต่ที่ไหนได้พอพ่อรู้ว่าพระนายชอบกันคือองค์ลงเลยจ้า รับไม่ได้ โมโหมาก โกรธพระเอกมาก ยื่นข้อเสนอว่าระหว่างให้นายเอกไปเรียนเมืองนอกแล้วพระเอกย้ายโรงเรียนแต่ไม่ส่งกลับบ้านเดิม(ยังส่งเสียเหมือนเดิม) กับนายเอกอยู่ต่อแต่ไล่พระเอกออกไปแทน จะเอาอันไหน ตอนแรกนายเอกคิดว่าบางทีพ่ออาจจะโกรธไม่นานอาจยังมีหวัง แต่พอน้องไปรู้ว่าแฟนสาวพ่อกำลังท้องบวกกับรู้เรื่องเพื่อนตัวเองที่ถูกพระเอกข่มขู่ไม่ให้เข้าใกล้ตนเ ทีนี้น้องเลยตัดสินใจไปเลยจ้า...

8 ปีผ่านไป นายเอกก็กลับมาเมืองจีนอีกครั้งเพราะเรื่องพ่อ ส่วนพระเอกก็กลายเป็นอาจารย์ในมหาลัยฯ เป็นนักวิจัย แถมยังป๊อปมากด้วยทั้งในหมู่ผู้หญิงผู้ชาย สูงใหญ่คมเข้ม หล่อแบบแบดๆ จนต้องใส่แว่นเพื่อให้คนกล้าเข้าใกล้ ถึงจะหาเงินได้เยอะแล้วแต่ก็ยังทำตัวสมถะเหมือนเดิม บ้านไม่ซื้อรถไม่ขับ ใส่เสื้อผ้าตลาดนัด ชอบซื้อของตอนลดราคา ...ช่วง 8 ปีที่ผ่านมาพระเอกจะส่งจดหมายไปให้ทั้งพ่อนายเอกและนายเอกอยู่เสมอ ต่อให้ไม่เคยได้รับจดหมายตอบกลับเลยแต่ก็ไม่เคยท้อ พยายามสืบหาข่าวนายเอกอยู่ตลอด (พระเอกออกนอกประเทศไม่ได้เพราะงานวิจัยที่ทำสำคัญมาก รัฐบาลจึงไม่อนุญาตให้ออกนอกประเทศ) วันหนึ่งพ่อนายเอกเจอมรสุมชีวิตแล้วป่วยหนักด้วย พระเอกเลยลาออกจากที่ทำงานเก่าเพื่อกลับมาดูแลพ่อนายเอก มาแอบจ่ายค่ารักษาให้ แต่ต้องดูแลแบบห่างๆ แบบแอบๆ เพราะคุณพ่อไม่อยากเจอพระเอก ไม่ยอมรับความช่วยเหลือใดๆ จากพระเอกทั้งนั้น

ตอนนายเอกได้เจอพระเอกอีกครั้ง น้องก็เข้าใจผิดคิดว่าพระเอกคงแต่งงานแล้ว แต่เข้าใจผิดได้ไม่นานหลังจากนั้นก็เข้าใจกัน นายเอกย้ายมาอยู่ในบ้านพักอาจารย์ของพระเอก พอเห็นสภาพที่พักและการแต่งตัวของพระเอก น้องก็นึกว่าพระเอกจน (แต่จริงๆ พระเอกรวยแล้วนะ) ความจริงพระเอกแค่ไม่ยอมใช้เงินกับตัวเองแต่เก็บไว้รอให้นายเอกกลับมาใช้เฉยๆ พอคนกลับมาพี่แกก็ซื้อบ้านซื้อรถ ให้บัตรนายเอกไว้รูด สายเปย์คลั่งรักฝุดๆ รอนายเอกกลับมาตลอดไม่เคยมองใครเลย...





วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ชีวาไม่สูญเปล่า

 


ชีวาไม่สูญเปล่า

ผู้แต่ง : อวี๋เฉิง

ผู้แปล : เทียนซ่างเตี้ยวเซี่งอิง

สำนักพิมพ์ Muzes Books


ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

น้องเงือกที่อยากตอบแทนบุญคุณ กับแม่ทัพหนุ่มที่ขาพิการ ...นายเอกเป็นเงือก สมัยที่ยังเปลี่ยนร่างไม่ได้น้องเคยได้พระเอกช่วยชีวิตเอาไว้ เลยตั้งใจว่าหากวันใดที่กลายร่างเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์แล้วก็จะขึ้นบกเพื่อไปตอบแทนบุญคุณพระเอก

พระเอกถูกคนลอบทำร้ายขณะรบจนทำให้ขา 2 ข้างพิการ ก่อนหน้านั้นแม่ก็เพิ่งเสีย พอแม่เสียพ่อก็ยกอนุขึ้นมาเป็นภรรยาเอก อนุก็อยากให้ลูกตัวเองได้สืบทอดตำแหน่งของสามีแทนบุตรชายคนโตหรือพระเอก(ซึ่งเป็นบุตรชายสายตรง) เลยวางแผนร้ายสารพัดเพื่อกำจัดพระเอกทิ้ง

นายเอกสวมรอยมาแต่งงานเป็นภรรยาพระเอกแทนบุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้านที่เป็นเจ้าสาวตัวจริง เจ้าสาวตัวจริงไม่ยอมแต่งเพราะได้ข่าวว่าพระเอกหน้าตาอัปลักษณ์ ซ้ำยังพิการ หัวหน้าหมู่บ้านรักลูกสาวมากก็เลยยอมหาคนมาแต่งแทนลูก ในวันแต่งงานนายเอกได้เข้าประตูข้าง(แบบอนุ) ไม่ใช่ประตูใหญ่(แบบภรรยาเอก) เพราะพระเอกไม่ได้อยากแต่งไม่ได้สนใจ แค่เข้าพิธีพอให้เสร็จๆ ไปงั้น หลังทำพิธีเสร็จก็แยกไปนอนในห้องหนังสือ ปล่อยให้นายเอกนอนในห้องหอคนเดียว

เช้าวันรุ่งขึ้นตอนไปยกน้ำชาคารวะผู้ใหญ่นายเอกก็ได้รับรู้ถึงความเป็นอริของแม่เลี้ยงกับน้องชายต่างมารดาของพระเอก ได้รู้ว่าแม่เลี้ยง(อนุที่ถูกยกขึ้นมา) กับน้องชายต่างมารดาต่างก็ไม่ชอบพระเอก คอยจ้องแต่จะวางแผนร้ายเพื่อกำจัดพระเอกให้พ้นทางอยู่ตลอด ที่เร่งให้พระเอกแต่งงานก็เพราะอยากให้ลูกตัวเองได้แต่งงานสักทีก็แค่นั้น (ตามธรรมเนียมต้องให้คนพี่แต่งก่อน) 

นายเอกเป็นเงือกสามารถพูดคุยกับปลาได้ ว่างๆ น้องก็ชอบแอบลงไปแช่น้ำในสระจนได้เป็นเพื่อนกับปลาหลีที่อยู่ในจวนสองตัว ปลาหลีในสระก็จะคอยเล่าเรื่องในจวนเรื่องที่พระเอกเกือบถูกคนผลักตกสระให้นายเอกฟัง ...คือตั้งแต่พระเอกเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น พี่แกก็เปลี่ยนกลายเป็นคนเย็นชาไม่ชอบพูดและไม่ยิ้มอีกเลย แถมยังไม่ไว้ใจใครกลายเป็นคนขี้ระแวง เพราะตั้งแต่ขาพิการก็โดนคนลอบทำร้ายมาเยอะ พ่อแท้ๆ ก็ไม่ค่อยสนใจ ย่าที่เหมือนจะดีแต่สุดท้ายก็เลือกให้ค่ากับชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเป็นหลัก อย่างตอนที่พระเอกถูกน้องต่างแม่พุ่งมาจะแทงมีดใส่ แต่นางเอกอยู่ด้วยพอดีเลยเอาตัวเข้ามาบังจนได้รับบาดเจ็บแทน คนในบ้านโดยเฉพาะพ่อกับย่าอะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าใครเป็นคนทำแต่ก็ทำเป็นเฉยปิดเรื่องไว้ เพราะไม่อยากให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหาย ปล่อยคนผิด(ลูกอนุ) ให้ลอยหน้าลอยตาต่อ แล้วจะไม่ให้พระเอกกลายเป็นคนไม่ไว้ใจใครและเย็นชาได้ไง!

สาวใช้ข้างกายพระเอกก็ถูกแม่เลี้ยงซื้อตัว ลอบวางยากำหนัดในน้ำชาพระเอกเพื่อหวังจะได้เป็นอนุ แต่นายเอกมาเจอก่อนเลยได้ช่วยพระเอกปลดปล่อย ...จากนั้นพระเอกก็ไปค้นเจอผงขาวๆ ในเสื้อผ้านายเอก เมื่อผสมกับคำให้การของคนอื่น พระเอกเลยเข้าใจว่านายเอกเป็นคนลอบวางยา ก็เลยต่อว่านายเอกต่อหน้าบ่าวไพร่ ส่วนนายเอกก็ไม่กล้าบอกว่านั่นคือเกล็ดเงือกของตนเองที่เอามาบดทำเป็นยาเพื่อใช้รักษาขาพระเอก น้ำท่วมปากมากพูดความจริงไม่ได้ (เพราะราชวงศ์นี้เคยจับเงือกมาฆ่าเพื่อศึกษาเรื่องที่เงือกอายุยืนกับสกัดทำน้ำมันเงือก ถ้าให้ใครรู้ว่านายเอกเป็นเงือกคือน้องตายแน่ๆ)  

แต่พอความจริงเฉลยพระเอกก็มาขอโทษนายเอกนะ พระนายเริ่มชอบกัน (นายเอกชอบพระเอกก่อน พยายามหาทางรักษาขาพระเอกโดยการดึงเกล็ดเงือกตัวเองมาบดเป็นยาแล้วแอบผสมในน้ำชาของพระเอก) แต่เพราะเรื่องขา (ที่พระเอกกำลังสืบหาว่าใครคือคนลอบทำร้ายพี่แก) กับเรื่องในบ้านของพระเอกที่ชักจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนพระเอกกลัวว่านายเอกจะได้รับอันตรายเหมือนครั้งที่โดนน้องต่างมารดาแทงในตอนนั้นอีก เลยคิดจะส่งนายเอกออกไปอยู่ที่อื่นก่อน แต่พระเอกไม่บอกเหตุผล ทำให้นายเอกเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกอยากกลับไปหาคนรักเก่าที่เพิ่งหย่าร้าง พระเอกก็กลัวนายเอกไม่ยอมไปเลยเปิดโปงเรื่องที่นายเอกสวมรอยแต่งงานมาแทนคนอื่นให้ที่บ้านรู้ นายเอกเสียใจมากเลยไปต่อรองเพื่อขอเพิ่มเวลาอีก 3 วัน จากนั้นก็เร่งทำเสื้อผ้ากับเย็บปักสิ่งของต่างๆ เตรียมไว้ให้พระเอก เพราะรู้ว่าตนเองกำลังจะไม่อยู่แล้ว ...คือแบบไม่อยู่จริงๆ เพราะน้องกะจะใช้หยวนตันของตัวเองรักษาขาให้พระเอก ก่อนจะรักษาน้องก็ไปจ้างให้คนเขียนหนังสือหย่าเตรียมไว้พร้อม พอรักษาเสร็จก็กลายเป็นฟองอากาศหายไปทันที ToT ...

ป.ล. ไม่ต้องห่วงจบดีจ้า น้องยังไม่ขิตจ้า เพียงแต่ไม่สามารถกลายร่างเป็นเงือกแล้วกลับลงทะเลได้อีก แถมร่างกายก็อ่อนแอลงเพราะเสียแหล่งกำเนิดพลังชีวิตไป ส่วนพระเอกพอจัดการเคลียร์ทุกอย่างเสร็จพี่ก็ออกจากตระกูลไปอยู่ข้างนอกคนเดียว ไปตั้งตระกูลใหม่ จากนั้นก็ออกเดินทางตามหานายเอก...




วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

หนึ่งปรารถนาหวนชะตารัก


หนึ่งปรารถนาหวนชะตารัก

ผู้แต่ง : อู๋อวี้

ผู้แปล : ตังตัง

สำนักพิมพ์ Princess


ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอกเป็นคนทำศพ ต้องดูแลร้านต่อจากปู่ที่จากไป นางเอกเคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตายแต่ได้พระเอกพูดเกลี้ยกล่อมก็เลยเปลี่ยนใจยอมมีชีวิตอยู่ต่อ นางเอกแอบชอบพระเอกมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็รู้ว่าตัวเองเอื้อมไม่ถึง พระเอกอยู่สูงเกินไป เลยขอแค่ได้แอบมองอยู่ไกลๆ และได้เห็นพระเอกมีความสุขก็พอใจแล้ว  

พระเอกเป็นลูกอนุที่ถูกหมางเมินไม่มีใครสนใจ แต่พี่แกมีเสียงสวรรค์ที่สามารถขับกล่อมหรือเกลี้ยกล่อมให้คนคล้อยตามได้ พระเอกจึงออกจากตระกูลมาเปิดร้านข้างนอก และได้ใช้เสียงของตัวเองช่วยชีวิตรัชทายาทเอาไว้ นับแต่นั้นชื่อเสียงของพระเอกจึงยิ่งดังเลื่องลือไปไกล ได้ทั้งตำแหน่งขุนนางและยังได้เป็นคนโปรดของรัชทายาทอีกด้วย คนในตระกูลเห็นพระเอกมีชื่อเสียงเป็นที่นับหน้าถือตาก็มาขอร้องให้กลับเข้าตระกูล และยกให้พระเอกเป็นผู้นำตระกูล

พระเอกมีคนรักที่กำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่ช้า แต่พี่แกดันมาถูกฟ้าผ่าตายในวันที่ขึ้นเขาไปเก็บดอกไม้ตามคำร้องขอของคนรักซะก่อน พอตาย คนที่บ้านก็ส่งศพไปที่ร้านของนางเอก พอนางเอกเห็นร่างคนในโลงก็ร้องไห้เสียใจ ก่อนจะพบความจริงอันน่าเหลือเชื่อว่าจริงๆ แล้วพระเอกยังไม่ตาย หนำซ้ำร่างกายยังตั้งครรภ์อีกด้วย...ชาลาล่าาา

เป็นแนวเทพ เซียน ปีศาจ ฝ่าด่านเคราะห์ ช่วงแรกๆ ขำ หลังๆ เริ่มเครียด พระเอกก็ท้องจริงตามเรื่องย่อไม่จ้อจี้จ้า ...ตอนที่รู้ว่าท้องพระเอกก็สติแตกอยู่แป๊บนึงก่อนจะค่อยๆ ทำใจยอมรับความจริงได้ จากนั้นก็ขอหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านนางเอกชั่วคราวจนกว่าจะคลอด ระหว่างนั้นพี่แกก็มีความหวังอยู่ตลอดว่าจะได้กลับไปใช้ชีวิตและแต่งงานกับญาติผู้น้องหรือคนรักอีกครั้ง  ส่วนนางเอกแม้จะชอบพระเอกมากแค่ไหนแต่ก็ไม่คิดฉวยโอกาส และไม่คิดบอกให้อีกฝ่ายรู้ มีแต่ความปรารถนาดีอยากให้พระเอกได้กลับไปอยู่กับคนรักโดยเร็ว เวลาคนรักพระเอกมีเรื่องเดือดร้อนนางเอกก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือทุกครั้ง แม้ว่าสุดท้ายตัวเองจะเป็นฝ่ายที่ต้องเจ็บตัวหรือถูกเขาผูกใจเจ็บก็ตาม ...

เพราะหลังจากที่พระเอกตาย อริคู่แค้นของพี่แกก็ส่งคนไปสู่ขอคนรักพระเอกมาเป็นภรรยาเพื่อเอาคืน (เพราะตอนพระเอกมีชีวิตอยู่สู้ไม่ได้ เลยมาเอาคืนตอนคนตายแล้ว) ตอนแรกคนรักพระเอกไม่อยากแต่งก็เลยถูกอีกฝ่ายตามตอแย พอนางยิ่งหนีหรือปฏิเสธอีกฝ่ายก็ยิ่งไล่ตามเหมือนแมวจับหนู นางก็เลยเรียกนางเอกมาช่วย เพราะเห็นว่าใบหน้านางเอกมีรอยแผลอัปลักษณ์ที่ทำให้คนหวาดกลัว ซึ่งนางเอกก็ตามไปช่วยทุกครั้งเพราะเห็นแก่พระเอก ...ทว่ามีทีหนึ่งพระเอกก็ตามไปช่วยด้วยเพราะห่วงคนรัก แต่พอคนรักได้เห็นสภาพพระเอกก็สติแตกรับไม่ได้ เอ่ยถ้อยคำทำร้ายจิตใจมากมาย และขอตัดความสัมพันธ์ทันที ต่อให้พระเอกสามารถกลับมาเป็นปกติได้ก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีก อย่ามาเจอกันอีกเพราะนางรับไม่ได้ ไม่ว่าพระเอกจะอธิบายยังไงนางก็ขอบายลูกเดียว 

ต่อมาคนที่ไล่ตามจีบนางก็หันมาชอบนางเอกแทน ส่วนพระเอกก็เริ่มมีใจให้นางเอกแล้วเช่นกัน พอไม่มีใครเอานางเลยสักคน นางก็เริ่มโกรธแค้นและโทษนางเอก พยายามหาทางแต่งกับอริคู่แค้นเก่าของพระเอกอีกครั้งให้ได้... วางแผนบีบน้ำตาให้รัชทายาทสงสารจนสุดท้ายก็ได้แต่งสมใจ แต่พอแต่งไปอีกฝ่ายกลับไม่แตะต้องไม่สนใจนาง วันๆ เอาแต่วิ่งไปหาคนอื่น แถมไม่นานหลังจากนั้นพระเอกก็กลับมาเป็นปกติและมีชื่อเสียงยิ่งกว่าเดิม ...ทุกอย่างผิดพลาดไปหมด คนใหม่ไม่สนใจ ส่วนคนรักเก่าก็มีรักใหม่ไม่เอานางแล้ว 

นางเลยอยากกลับไปหาพระเอกอีกครั้ง พยายามวางแผนชั่วมากมายสารพัดเพื่อให้ตัวเองได้กลับไป และกำจัดนางเอกให้พ้นทาง แบบไม่น่าเชื่อว่าสตรีธรรมดาที่ไม่มีภูมิหลังใหญ่โตอะไรเลยจะทำได้ถึงขนาดนี้ พอถูกจับได้ก็บีบน้ำตาทำตัวน่าสงสารไม่ยอมรับ กู่ไม่กลับแล้วจริงๆ ขนาดถูกไล่ไปเป็นนักพรตแล้วก็ยังไม่ยอมหยุด บีบจนนางเอกเข้าสู่ทางมารเกือบไม่ได้กลับมา พวกพระเอกก็ไม่จัดการนางให้เด็ดขาดไปตั้งแต่ต้น ไม่รอบคอบไม่จับตาดูนางให้ดีๆ หรือเห็นว่าเป็นสตรีอ่อนแอเลยคิดไม่ถึงว่านางจะทำได้ถึงขั้นนี้ จนเรื่องราวมันบานปลายใหญ่โต ทำเขาเดือดร้อนเกือบตายกันทั้งเมืองเพราะคนคนเดียว... เหอๆ




วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2567

หนึ่งเขนยเคียงปฐพี 2 เล่มจบ 


หนึ่งเขนยเคียงปฐพี 2 เล่มจบ 

ผู้แต่ง : จื่อเวยหลิวเหนียน

ผู้แปล : ตังตัง

สำนักพิมพ์ Princess


ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

แนวจอมยุทธ์ ยุทธภพ ราชสำนัก พระเอก ซูเสวียน เป็นจอมยุทธ์ฝ่ายธรรมะ ศิษย์เอกของสำนักใหญ่สำนักหนึ่งที่เพิ่งลงจากเขาออกไปหาประสบการณ์ ระหว่างทางได้ประสบพบเจอกับภัยพิบัติที่ทำให้ผู้คนอดอยากไม่มีจะกิน รวมถึงเรื่องราวมากมายทั้งดีและไม่ดี ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนและสังหารโจรชั่วที่ก่อกรรมทำเข็ญ ทำให้ถูกพรรคพวกของกลุ่มโจรชั่วโกรธแค้นตามไล่ล่าสังหารจนต้องหลบหนี ส่วนนางเอกเป็นคุณหนูกุลสตรีในห้องหอ บุตรสาวคนเล็กของท่านอ๋องแห่งหลางหยาที่แสนสูงศักดิ์ 

ตอนนั้นนางเอกอายุ 13 ขณะเดินทางออกจากบ้านไปเยี่ยมพี่สาวที่แต่งงานไปยังเมืองอื่น นางก็ถูกคนโฉด1(ในยุทธภพ) หมายตาโดยไม่รู้ตัว แต่โชคดีที่พระเอกสังเกตเห็นก่อนจึงทำให้นางรอดพ้นจากการถูกโจรชั่วลักพาตัวไปได้หนึ่งครั้ง... ทว่าแต่ช้าแต่... ต่อมาก็เกิดภัยพิบัติ นางเอกออกมาข้างนอกพอดีแล้วเกิดพลัดหลงกับบ่าวไพร่ผู้ติดตามเลยถูกคนจับไปเป็นเสบียงอาหาร (ตอนนั้นบ้านเมืองอดอยาก ชาวบ้านต้องขุดรากไม้และแลกลูกกันกิน) พอหนีออกมาได้ นางก็ดันไปปะกะจอมโฉด1 เจ้าเดิม... หลังจากนั้นชีวิตของคุณหนูผู้สูงศักดิ์ก็ประหนึ่งร่วงตกสู่ขุมนรก นางเอกถูกจับกรอกยาทำให้เป็นใบ้ ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ ทำลายความมั่นใน จนทำให้นางไม่กล้าขอให้ใครช่วยเหลือ ... ทว่าในขณะที่กำลังสิ้นหวังถึงขีดสุด ใครบางคนก็หานางพบ และพานางออกมาจากขุมนรกนี้...

พระเอกเห็นนางเอกถูกโจรชั่วจับตัวไป แต่เพราะตอนนั้นกำลังสู้ติดพันกับคนอื่นอยู่เลยทำให้ตามไปช่วยไม่ทัน แต่พอสู้เสร็จพี่ก็รีบไล่ตามมาตลอดจนสุดท้ายก็ช่วยคนออกมาได้สำเร็จ ...จากนั้นก็เป็นมหากาพย์การหนีและพานางเอกส่งกลับบ้าน เล่มแรกนี่เป็นเหมือนช่วงอัพเลเวลของพระเอกเลย คือพระเอกอะเป็นคนมีพรสวรรค์ในด้านวรยุทธ์ เป็นกล้าไม้ชั้นเลิศของสำนัก อาจารย์ในสำนักรู้ว่าพระเอกเก่งแต่ยังขาดประสบการณ์ รู้ดีว่าศิษย์คนนี้เกลียดความอยุติธรรม ทนเห็นคนถูกรังแกไม่ได้ เลยเตือนๆ พระเอกเรื่องพวกนี้เวลาลงจากเขา เพราะในยุทธภพยังมีพวกโจรชั่วที่จิตใจอำมหิตเหลือคณาที่ฝีมือเหนือกว่าและไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วยอยู่อีกมาก ....แต่เชื่อมะ ทุกคนที่อาจารย์เตือนมา...พระเอกคือเข้าไปซัดด้วยหมดจ้าา55

คือไม่ใช่ว่าพี่แกหลงตัวเองหรือทะนงว่าตัวเองเก่งอะไรนะ เพียงแต่เป็นคนดี(มากก) ทนเห็นคนถูกรังแกไม่ได้จริงๆ ต่อให้ตอนนั้นฝีมือจะยังอ่อนกว่าสู้เขาไม่ได้ก็ตาม (เพิ่ง 16 ปี) แต่เห็นคนถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาอะ จะให้พี่ปล่อยผ่านได้ไง อย่างที่ตามไปช่วยนางเอกนั่นแหละ อีกฝ่ายเก่งกว่าแล้วไง คนกำลังจะตายต่อหน้าจะไม่ให้เมินเฉยไม่ทำอะไรได้เหรอ?? แบบนั้นมันไม่ใช่นิสัยพระเอกไง คนอื่นอาจทำได้แต่พระเอกคือทำไม่ได้จ้าาา  ไม่ได้ตามไปเพราะหลงใหลในรูปโฉมหรือหวังชื่อเสียงใดๆ แค่อยากช่วยคนบริสุทธิ์จริงๆ ขนาดนางเอกถามชื่อยังไม่บอกเลย กว่านางเอกจะรู้ชื่อเสียงเรียงนามรู้ว่าผู้มีพระคุณเป็นใครก็ผ่านไป 3 ปี

พระเอกเรื่องนี้คือหล่อทั้งภายนอกและภายในจริงๆ ดีงามทั้งกาย วาจา ใจ เป็นคนเก่ง ฉลาด จิตใจไม่ซับซ้อน เข้าถึงง่าย ไม่เย็นชา ส่วนนางเอกถึงจะเป็นคุณหนูในห้องหอเจ้าน้ำตาไปบ้าง แต่ก็อ่อนหวานและมีจิตใจที่แข็งแกร่ง จิตใจดีไม่มีความอิจฉาริษยา เข้าใจในตัวพระเอกและไม่เคยอยากให้พระเอกเปลี่ยนแปลงอะไร คนภายนอกหรือครอบครัวนางเอกอาจจะมองว่าพระเอกไม่คู่ควรกับนางเอก แต่นางเอกกลับรู้ดีว่าตัวนางเองต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเขา เขาสูงส่ง เขาดีเกินไป ส่วนนางกลับช่วยอะไรเขาไม่ได้ นอกจากเป็นภาระและตัวถ่วง...

สองคนนี้เวลาอยู่ด้วยกันแล้วคือดีมาก หวานมาก ไม่มีทะเลาะตัดพ้อหรืองอนเงินใดๆ (ฉาก nc มีนิดหน่อยแต่ภาษาสวยมาก) แรกๆ นางเอกคือมีใจอยู่ฝ่ายเดียว แถมเป็นฝ่ายสารภาพรักก่อนด้วย เพราะด้วยภาระที่หนักหนา ไหนจะเรื่องความต่างระหว่างชนชั้น พระเอกจึงไม่ได้ตอบรับนางเอกอยู่นาน กระทั่งนางเอกเกือบจะอายุ 20 หลังจบเหตุการณ์ที่พระเอกตามมาช่วยนางเอกประลองฉิน นางเอกก็ตัดสินใจไปหาพระเอกอีกครั้งเพื่อบอกการตัดสินใจของตัวเอง ว่าในภายภาคหน้านางจะไปสมัครเป็นนักพรตเพื่อกล่อมเกลาจิตใจที่สำนักของพระเอกนะ นางไม่หวังจะได้แต่งงานกับพระเอกหรอก แค่ขอได้เจอพระเอกบ้างก็ยังดี ...หลังจากนั้นพระเอกก็จูบคนเลยจ้า บอกว่าจะไปเป็นนักพรตทำไม ตัวเขาไม่ได้เป็นนักพรตเสียหน่อย แล้วก็ตกลงกันว่ารอให้นางเอกออกจากการไว้ทุกข์เมื่อไรพระเอกก็จะพาคนไปสู่ขอตามธรรมเนียมนะ...

จากนั้นข่าวที่พระนางคบกันก็ไปถึงหูตัวร้าย อิท่านโหวที่แอบชอบนางเอกมาตั้งแต่เด็กคือโกรธแค้นพระเอกมากกก (โกรธเพื่อออ?) เลยวางแผนลอบทำร้ายพระเอกโดยที่พระเอกและใครๆ ไม่ระแคะระคายสงสัยเลยสักนิด สุดท้ายพระเอกก็สติฟั่นเฟือนเกิดอาการคลุ้มคลั่งไล่ฆ่าคนในตอนที่ไม่ได้สติ และกลายเป็นศัตรูกับคนเกือบทั่วทั้งยุทธภพ

จริงๆ คืออิฝ่ายตัวร้ายน่ะแค้นที่ถูกพระเอกทำลายแผนการมาหลาบรอบเลยอยากกำจัดพระเอกทิ้ง เพราะก่อนหน้านี้มันมีสำนักอธรรมสำนักหนึ่งชื่อว่าสำนักเจามู่ผงาดขึ้นมา ผงาดโดยการไล่ฆ่าทำลายสำนักอื่นที่เห็นต่างไม่ยอมสวามิภักดิ์ืตน  จนทำให้ยุทธภพตอนนั้นเหมือนตกอยู่ในนรก สำนักต่างๆ บ้างถูกทำลายบ้างถูกกลืนกิน ไม่มีใครกล้าต่อกรเพราะทุกคนที่กล้าสู้ล้วนถูกสังหารตายหมดอย่างโหดเหี้ยม ในงานชุมนุมกระบี่มีสำนักธรรมะหนึ่งถูกอิพรรคเจามู่หมายหัว พอถูกหมายหัวเพื่อนฝูงก็หายเรียบเพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย คนในสำนักคือหน้าเศร้ารู้ว่าไม่รอดแน่... หารู้ไม่ว่าพระเอกกำลังตามปกป้องอยู่ อิพรรคเจามู่ก็พยายามกันพระเอกออกไปเพราะรู้ว่าพระเอกเก่งมาก (หลังช่วยนางเอกเสร็จพระเอกก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ จนเก่งกว่าอาจารย์และเก่งที่สุดในยุทธภพ ถ้าไม่หมาลอบกัดพระเอกก็ชนะขาดอะ) หลังจบงานชุมนุมกระบี่ยุทธภพก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อิพรรคเจามู่ก็เลยยิ่งแค้นและอยากกำจัดพระเอกสุดๆ 

เล่ม 1 ว่าสนุกแล้ว เล่ม 2 ยิ่งไม่แผ่ว โคตรสนุกมันมากกก ลุ้นแทบทุกตอนว่าจะเกิดอะไรขึ้นในหน้าถัดไป คาดเดาอะไรไม่ได้เลยจริงๆ นักเขียนเขียนเก่ง เขียนดีมาก คนแปลก็แปลดีมากเช่นกัน(ขอชื่นชมจริงๆ) เป็นแนวยุทธภพที่สนุกมาก การเมืองการต่อสู้เข้มข้น ลุ้นสุดๆ แต่ก็ยังไม่ทิ้งเรื่องความรักนะ มีทั้งความรักแบบคนรัก รักแบบศิษย์พี่ศิษย์น้อง สายสัมพันธ์ของลูกศิษย์กับอาจารย์และเหล่าสหาย คู่พระนางดีงาม คู่ลูกศิษย์ก็ดีไม่แพ้กัน ตัวละครมีมิติ มีครบทุกรส พล็อตแน่นเจ้มจ้นมาก ชอบมากจริงๆ ...

ในเล่ม 2 เราจะได้รู้สักทีว่าใครคือบอสที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี้ คราวนี้จะได้เจอทั้งศึกนอกศึกในเลยจ้า มีศพเดินได้ที่ฆ่าแล้วไม่ตาย มีกู่และพิษร้ายสารพัด และยังมีเรื่องการก่อกบฏบลาๆ เยอะแยะมากมาย สรุปสั้นๆ สนุกมากกกก อ่านเถอะ^0^



วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2567

บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน 2 เล่มจบ 

 


บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน 2 เล่มจบ 

ผู้แต่ง : เทียนอ้าย

ผู้แปล : อวี้

สำนักพิมพ์ แจ่มใส


ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

แนวสงครามการสู้รบแย่งชิงแผ่นดิน อยู่ในช่วงยุคสมัย 5 ชนเผ่า แผ่นดินยังไม่รวมเป็นหนึ่ง บางตัวละครในเรื่องมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์

นางเอก มู่เฉิน เป็นชาวฮั่น บุตรสาวตระกูลมู่ มารดาเป็นอนุ ถูกบิดาทอดทิ้งไม่เหลียวแลปล่อยให้นางกับแม่และน้องสาวถูกภรรยาเอกและบุตรสาวของภรรยาเอกดูถูกรังแก ...ตอนแรกนึกว่าเรื่องภายในบ้านนางเอกจะมีมากกว่านี้ซะอีก แต่เอาเข้าจริงคือมันผ่านไปไวมาก55 เปิดเรื่องมาได้ไม่กี่หน้านางเอกก็ถูกเทวทูตแห่งเขาปี้ลั่วเลือกแล้วพาขึ้นเขาไปศึกษาศาสตร์แห่งกษัตริย์ตามตำนานที่กล่าวเอาไว้เรียบร้อยแว้วว ตามตำนานที่ว่าในทุกๆ 20-30 ปีไปจนถึง 200-300 ปีจะมีเทวทูตแห่งเขาปี้ลั่วลงมายังโลกมนุษย์เพื่อคัดคนที่มีความสามารถไปศึกษาศาสตร์แห่งกษัตริย์บนเขาปี้ลั่ว ...นางเอกถูกพาไปตอน 9 ขวบ ผ่านไป 7 ปีพอได้ลงจากเขานางก็รีบกลับบ้านไปตามหาแม่กับน้องก่อนเลย แต่กลับต้องพบว่าคนที่ตนเฝ้าถวิลหามาตลอดล้วนไม่อยู่แล้ว แม่ตาย ส่วนน้องสาวก็หนีออกจากบ้านไปเป็นอนุใครไม่รู้ที่แคว้นอื่น แถมตัวเองก็ยังถูกคนหมายหัวต้องการตัวเพราะเรื่องศาสตร์แห่งกษัตริย์นั่นด้วย 

พระเอก มู่หรงชง เป็นอดีตเชื้อพระวงศ์ของแคว้นเยียนที่ล่มสลาย มีใบหน้างดงามยิ่งกว่าอิสตรีจนทำให้ฮ่องเต้แคว้นฉินหลงใหล ...พระนางได้พบกันโดยบังเอิญในระหว่างที่นางเอกกำลังตามหาน้องสาว จากนั้นพระเอกก็ได้ช่วยนางเอกเอาไว้อีก นางเอกก็เลยตัดสินใจว่าจะติดตามพระเอกเพื่อช่วยฟื้นฟูแคว้น ...ฮ่องเต้แคว้นพระเอกยอมสวามิภักดิ์ต่อแคว้นฉิน เชื้อพระวงศ์ของแคว้นเยียนรวมถึงราษฎรเลยถูกเกณฑ์มายังแคว้นฉินเกือบหมด ส่วนตัวถ้าไม่นับเรื่องที่ฮ่องเต้แคว้นฉินทำแบบนั้นกับพระเอก เราว่าพี่แกก็เป็นฮ่องเต้ที่ใจกว้างอยู่นะ ไม่สังหารพวกเชื้อพระวงศ์แคว้นอื่นที่มาสวามิภักดิ์ไม่พอ ยังกล้าให้ตำแหน่งขุนนางที่สำคัญกับคนต่างแคว้นอีกต่างหาก ขุนนางคนสนิทข้างกายก็เตือนแล้วเตือนอีก บอกว่าอย่าเก็บคนพวกนี้ไว้ให้สังหารทิ้งเสียไม่งั้นวันหน้าจะมีปัญหาตามมา แต่พี่แกก็ไม่ฟังไม่เชื่อ สุดท้ายก็... นั่นแหละ

ในเรื่องก็จะเน้นไปที่สงครามการสู้รบ เพราะอยู่ในช่วงกลียุค ไปที่ไหนก็เจอแต่สงครามการก่อกบฏ มีทั้งการทรยศหักหลัง พี่น้องอาหลานฆ่ากันเอง ไม่มีที่ไหนสงบสุขเลย พระนางก็มีเรื่องให้เข้าใจผิดกันจนต้องแยกจากกันไปนานหลายปี หลังปรับความเข้าใจกันได้ก็ยังต้องเผชิญกับสงครามและเรื่องราวอีกมากมายในยุคสมัยที่แผ่นดินร้อนเป็นไฟ ต้องผ่านการทรยศหักหลังจากคนสนิทที่ไว้ใจ ฝ่าคมดาบทะเลเลือด สุดท้ายเพียงขอแค่ให้คนที่ตนเองรักได้อยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงวันที่บ้านเมืองสงบสุขเท่านั้นพอ แต่กว่าจะถึงวันนั้นบอกเลยลากเลือดมากกก 

อ่านจบแล้ว... ส่วนตัวรู้สึกว่าปมศาสตร์แห่งกษัตริย์ หรือเรื่องที่นางเอกถูกพาขึ้นเขาปี้ลั่วนี่จริงๆ ไม่ต้องมีก็ได้นะ55 เพราะเอาจริงๆ มันก็ไม่ได้มีใครให้ความสนใจขนาดนั้น แบบถึงขนาดต้องลงไม้ลงมือฆ่ากัน หรือพยายามแย่งชิงตัวคนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนแรกก็แอบนึกว่าหลังนางเอกลงจากเขามานี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ต้องฉลาดมากๆ หรือมีวรยุทธ์สูงแน่ๆ เลย แบบต้องเก่งอย่างใดอย่างหนึ่งนี่แหละ แต่ก็... ไม่เห็นมีไรเลย วรยุทธ์ไม่มีส่วนบุ๋นก็ธรรมดา (ช้านผิดเองที่ไปคาดหวัง ช้านผิดเองงง) ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แถมมันก็มีหลายทีที่นางเอกก็สังเกตเห็นความผิดปกติอะไรบางอย่างเจอก่อนจะเกิดเรื่องด้วยนะ แต่นางก็ชอบปล่อยผ่านไม่ให้คนไปตรวจสอบอะ เพราะคิดว่าคงไม่มีไร แต่สุดท้ายมันก็มี(ทุกที) อย่างตอนที่เห็นแผ่นหลังนางกำนัลคนหนึ่งในวังแล้วรู้สึกคุ้นๆ แต่ก็ปล่อยผ่าน หรือตอนที่เห็นม้าดีในโรงเตี้ยมที่พักแล้วรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ตรวจอะไรต่อ ผิดวิสัยคนที่เจออะไรมาเยอะ แบบมันน่าจะมีความระมัดระวังมากกว่านี้ไหมอะ ส่วนตัวเราเลยรู้สึกว่าถึงเรื่องมันจะดูหนักแต่ก็ยังไม่ค่อยสุดเท่าไร...