วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

อุบายรักลิขิตเสน่หา 4 เล่มจบ

 

อุบายรักลิขิตเสน่หา 4 เล่มจบ

ผู้แต่ง : เหวยเหอจ้งจื่อ

ผู้แปล : เบบี้นาคราช

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

พระนางเรื่องนี้เป็นคนหน้าตาดีมากๆ ทั้งคู่ ดีเวอร์ แบบนึกไม่ถึงว่าจะมีคนหน้าตาดีขนาดนี้อยู่ในโลก ซึ่งบางทีการที่หน้าตาดีเกินไปมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีซะเท่าไร โดยเฉพาะกับนางเอกเรื่องนี้ ... 

คือปกติสตรีในยุคโบราณที่ยังไม่ได้ออกเรือนเวลาไปข้างนอกบางคนก็จะสวมหมวกม่านปิดบังใบหน้าใช่เปล่า แต่ของนางเอกเรื่องนี้หมวกม่านก็เอาไม่อยู่นะจ๊ะ ก้าวเท้าออกจากบ้านแต่ละทีก็มีคนมารุมออรอดูอยู่ที่หน้าประตูบ้านแล้วอะ เหมือนมีปาปารัสซี่คอยติดตามดักซุ่มเฝ้าดูการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด พอออกจากบ้านปุ๊บก็จะมีคนส่งข่าวบอกคนอื่นๆ ต่อ ทำให้มีคนแห่ตามไปดูนางกัน นางเอกเลยตัดปัญหาด้วยการไม่ออกไปไหนหรือออกจากบ้านให้น้อยที่สุด 

แต่ขนาดไม่ออกเรื่องก็ยังเข้ามาหา ทำให้นางเอกชื่อเสียงเสียหาย และพลอยทำให้ไม่มีมารดาบ้านไหนอยากให้นางแต่งเข้ามา เพราะกลัวจะเดือดร้อนกลัวว่าจะนำภัยมาสู่ครอบครัว เห็นได้ชัดก็ตอนที่องค์ชายรองถูกใจนางเอกอะ พอพ่อนางเอกรู้ก็ต้องรีบหาคู่ครองให้ลูกเพื่อจะได้รีบแต่งออกไป ตอนแรกคนที่จะได้แต่งคือเพื่อนพระเอก พระเอกก็ยังมาถามเพื่อนเลยว่าแน่ใจเหรอว่าจะแต่งกับนางเอก? แน่ใจว่าจะสามารถรับมือกับปัญหา(จากองค์ชายรองและเหล่าผึ้งภมรทั้งหลายที่หมายปองนางเอก) ที่อาจจะตามมาในอนาคตได้? ทว่าสุดท้ายเพื่อนก็ไม่ได้แต่ง แต่ถึงกระนั้นนางเอกก็ไม่คิดจะแต่งกะองค์ชายรองอยู่ดี พ่อนางเอกเลยต้องรีบมองหาคู่ครองคนใหม่ให้ แต่บ้านที่เคยไปดูๆ พูดคุยเอาไว้พอรู้ว่านางเอกถูกองค์ชายรองหมายตา ทุกคนก็รีบปฏิเสธ+บอกปัดกันทันที เพราะกลัวอิทธิพลขององค์ชายรองลูกรักฮ่องเต้ 

ซึ่งจริงๆ องค์ชายรองก็ไม่ได้หลงรักหรือชอบนางเอกหรอก เพียงแต่ชอบของสวยๆ งามๆ พี่แกเลยอยากได้นางเอกมาสะสมไว้เหมือนสิ่งของชิ้นหนึ่ง คิดว่านางเอกจะง่ายเหมือนคนอื่นๆ ที่เคยเจอมา แค่มีอำนาจมีเงินทุกคนก็จะยอมสยบอยู่ใต้ฝ่าเท้าตัวเอง แต่ปรากฏว่านางเอกไม่ใช่แบบนั้น หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม พอเป็นแบบนี้องค์ชายรองเลยยิ่งคลั่ง อยากได้คนเขามาครอบครองโดยไม่สนใจวิธีการหรือความถูกผิด

แต่ก็ต้องขอบคุณองค์ชายรองนะจ๊ะ เพราะแผน(ชั่ว) ขององค์ชายรองนี่แหละพระนางเขาถึงได้ลงเอยกัน55 เพราะไม่งั้นอาจจะยาก เพราะเดิมทีสองคนนี้เขาไม่ถูกกันมาก่อน เจอหน้าทีไรเป็นต้องได้จิกกัดเหน็บแนมกันตลอด แบบไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่ พระเอกคือหนึ่งในจำนวนคนน้อยนิดที่ไม่ได้ชอบหรือหลงใหลในรูปร่างหน้าตาของนางเอก ส่วนนางเอกก็คือหนึ่งในจำนวนคนอันน้อยนิดที่ไม่ได้ชอบพระเอกเช่นกัน ...

แต่เพราะแผนขององค์ชายรองกับน้องสาว(พี่น้องมหาประลัย) ที่กะจะวางยาพระนางแล้วจับคนเขาขึ้นเตียง แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นการทำให้คนอื่นเขาได้ครองคู่กันซะอย่างนั้น ...ก่อนจะขึ้นเตียงกันนางเอกมีถามพระเอกก่อนด้วยนะว่ามีคนรักหรือยัง? อนาคตจะรับอนุไหม? ที่บ้านจะว่ารึเปล่า? เสร็จเรื่องแล้วเจ้าจะมาสู่ขอข้าใช่ไหม? ...พระเอกบอก ไม่มี ไม่รับ ไม่ว่า ได้ข้าแต่ง55

หากใครคิดว่าพอพระนางตกลงแต่งงานกันแล้วองค์ชายรองจะปล่อยมือ บอกเลยคุณคิดผิดจ้า55 เขาได้แต่งกันตั้งแต่เล่มแรกก็จริง แต่กว่าจะได้แต่งโถถถถ ไม่ตายก็บุญแล้ว🤣 องค์ชายรองทั้งส่งคนมาลอบฆ่าพระเอก ส่งคนมาเผาเรือน แถมพอถึงวันแต่งก็ยังแอบบุกเข้าห้องหอจะไปทำมิดีมิร้ายเจ้าสาวเขาอีกนะ กระทั่งเขาแต่งไปแล้วก็ยังไม่เลิกรา ยังวางแผนไปลักพาตัวคนเขามาขังไว้อีกนะ แถมอิพ่อฮ่องเต้ก็ไม่ลงโทษอะไรลูกด้วย แค่ตักเตือนด้วยคำพูดแต่ไม่ลงโทษแบบแรงๆ อะไรเลย ลำเอียงโคตรๆ ลูกชายคนโปรด นางเอกถึงได้กลัวเพราะฮ่องเต้ให้ท้ายลูก ขนาดพ่อนางเอกเป็นถึงผู้ตรวจการมีตำแหน่งขั้นสามนะ แต่เจอคู่กรณีแบบนี้ก็ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนไม่สามารถไปฟ้องร้องเอาผิดกับใครได้ ไม่มีใครกล้ายุ่ง ได้แต่หลบหลีกหาวิธีป้องกันตัวเองไป หากหลบได้ก็ดีหลบไม่ได้ก็ถือว่าซวย

เราว่าดีนะที่แต่งกับพระเอก ถ้าเป็นคนอื่นจะกล้าสู้+ปกป้องนางเอกได้ถึงขั้นนี้ไหม ถึงไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก แต่พอแต่งแล้วพระเอกก็รับผิดชอบ+ปกป้องนางเอกอย่างสุดกำลังล่ะนะ ไม่หวาดกลัวต่ออำนาจขององค์ชายรอง ไม่ยอมจำนน ไม่คิดขายเมียกิน ถ้าเป็นคนอื่นจะทนไว้หรือโดนขนาดนี้ ถึงเขาไหวแต่ครอบครัวเขาจะรับไหวหรือ ทว่าพระเอกนี่ถูกวางแผนร้ายใส่กี่รอบก็ไม่เคยกลัว ไม่คิดว่านางเอกเป็นตัวปัญหาหรือคิดปล่อยมือ แถมพี่แกยังสนับสนุนให้นางเอกได้ทำในสิ่งที่ชอบด้วย นางเอกอยากเรียนรู้อะไร อย่างเช่นวรยุทธ์ ยิงธนู ขี่ม้า พระเอกก็พร้อมสนับสนุน อยากให้นางเอกได้ใช้ชีวิตในแบบที่ชอบ มีอิสระ อยากไปไหนก็ไป ไม่ต้องหวาดกลัวหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยอีก

ลืมบอก! พระเอกเป็นจ้วงหยวนนะ สอบได้ที่หนึ่งทุกสนามจนได้รับสมญานามว่า ลู่หกหยวน (ได้ที่ 1 ทั้งหกสนาม) บ้านพระเอกเป็นชาวยุทธ์ พระเอกเลยเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ไม่มีใครรู้ว่าพระเอกมีวรยุทธ ไม่รู้ว่าพื้นเพพระเอกมาจากครอบครัวชาวยุทธ์ บวกกับพระเอกไม่เคยแสดงฝีมือให้ใครเห็นด้วย มีอะไรวิ่งหลบอย่างเดียว55(แต่หลบแบบพลิ้วนะ) เพราะมาจากครอบครัวชาวยุทธ์มั้งพระเอกถึงค่อนข้างเปิดกว้าง ไม่ยึดติดในกรอบจารีตประเพณี ไม่คิดว่าผู้หญิงพอแต่งงานแล้วจะต้องอยู่กับบ้านเลี้ยงลูกเท่านั้น(แน่นอนว่าถ้านางเอกชอบแบบนั้นพระเอกก็ไม่ได้ว่าอะไร) ...อย่างนางเอก พระเอกรู้ว่านางเอกชอบเรียนหนังสือแล้วก็เรียนได้ดี แต่ติดที่เป็นสตรีเลยสอบรับราชการเหมือนบุรุษไม่ได้ ทางเลือกสำหรับผู้หญิงสมัยโบราณมีน้อยมาก ส่วนพ่อนางเอกก็หัวเก่า เป็นคนดีรักลูกก็จริง แต่ก็ยึดติดอยู่ในกรอบของจารีตประเพณี ว่าสตรีต้องไม่ยุ่งเรื่องงานของบุรุษ ต้องเรียนเย็บปัก ดีดพิณ วาดรูปบลาๆ พอแต่งงานก็ต้องเชื่อฟังสามีอยู่บ้านเลี้ยงลูก 

แต่พระเอกคือเรียกให้นางเอกมาช่วยงานเป็นที่ปรึกษาเลยจ้า ปกติขุนนางจะจ้างที่ปรึกษามาช่วยงาน ช่วยเขียน ช่วยคัดลอกฎีกานั่นนู่นนี่ แต่พระเอกคือไม่จ้างให้เมียช่วยจ้า เพราะรู้ว่าเมียชอบงานแบบนี้ แรกๆ นางเอกก็จะถามตลอดว่าข้าทำได้หรือ อ่านได้หรือ ให้ข้าช่วยเขียนจะดีหรือ ห้องหนังสือท่านข้าเข้าได้จริงหรือ เพราะตอนอยู่ที่บ้านพ่อนางเอกจะไม่ให้ยุ่งเรื่องพวกนี้เลย(เพราะเป็นสตรี) แต่พระเอกคือได้ทุกอย่าง อยากทำไรทำโลด

พระนางเรื่องนี้เขาผัวร้องเมียรับ คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันทุกเรื่อง เป็นคนฉลาด+มีเหตุผล เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก พระเอกเจ้าเล่ห์ ไม่ยึดติด เป็นคนมีอุดมการณ์ มีเป้าหมาย ไม่เย็นชาไม่หยิ่ง รู้วิธีเข้าสังคมและรับมือคน ไม่แข็งแต่ก็ไม่อ่อน เวลาอยู่กับนางเอกจะยิ่งกะล่อนเจ้าเล่ห์ แต่ก็เป็นสุภาพบุรุษนะ ไม่เผด็จการ ไม่เคยบังคับหรือฝืนใจนางเอก แรกๆ เวลาจะจูบยังขออนุญาติก่อนเลย พอแต่งแล้วก็ใช่ว่าจะร่วมหอเลย แต่พี่แกรอให้นางเอกยินยอมพร้อมใจก่อน หลังๆ พอมีใจให้กัน+คุยกันเข้าใจแล้วก็แทบจะจูบกันทุกวัน พระเอกชอบจูบ(นางเอก)มาก จูบไม่เลือกที่(หมายถึงที่บ้านนะ55) จูบบ่อยจนเป็นเรื่องปกติธรรมดา55 มีมาให้ฟินเรื่อยๆ ส่วนนางเอกในด้านความรู้สึกความรักนี่เป็นเหมือนผ้าขาว ความรู้สึกช้า ซื่อจนน่ารัก ไร้เดียงสามาก 

ส่วนเรื่องานของพระเอกก็น่าติดตามไม่แพ้กัน ตอนแรกพระเอกเป็นขุนนางนางขั้นหก(ตำแหน่งอะไรลืม55) หลังพระนางแต่งกันองค์ชายรองก็ไปขอให้พระเอกมาเป็นอาจารย์สอนองค์ชาย เดิมทีพระเอกทำงานไม่เคยถูกใครเขียนฎีกาฟ้องร้องนะแต่พอมาเป็นอาจารย์สอนองค์ชายเท่านั้นแหละ...หึๆๆ (องค์ชายรองกะเล่นพระเอกอยู่แล้วไง) แต่พระเอกก็แบบมาดิ่ เขียนมาก็เขียน(ด่า)กลับไม่โกง เขียนจนมีคนแอบคัดลอกเอาไปเผยแพร่เอาไปรวมเล่มเลยจ้า ด่าแบบผู้ดีด่าแบบสุภาพแต่ทำให้คนอยากตายมันเป็นยังไง เอาเซ่! 

...หลังจากนั้นพระเอกก็ไปทำงานที่ต่างเมือง ไปสืบเรื่องการทุจริตโกงกินที่เมืองหนึ่ง อันตรายมากเพราะเบื้องหลังการโกงกินนี้มีคนใหญ่คนโตหนุนอยู่ ใครคิดสืบใครคิดเปิดโปงตายหมดไม่เหลือ ไปๆ มาๆ เลยไม่มีใครกล้าแตะ เพราะมันพัวพันไปถึงองค์ชายรองและครอบครัวสนมรักฮ่องเต้ แต่พระเอกกล้า ส่วนนางเอกก็สนับสนุนสามีเต็มที่ พอพระเอกยื่นฎีการ้องเรียนปุ๊บฮ่องเต้ก็ไม่พอใจส่งเข้าคุกหลวงปั๊บทันที ฮ่องเต้ก็ไม่ไหวจะเคลียร์ หลังๆ เวลาคุยกับนางเอกพระเอกเลยไม่เรียกอีกฝ่ายว่าฮ่องเต้และ แต่เเรียกชื่อแซ่เต็มของฮ่องเต้เลย ดีก็ให้เกียรติไม่ดีก็...หึๆ คือพี่แกไม่ได้มาทำงานเป็นขุนนางเพื่อหวังชื่อเสียงลาภยศหรือหลับหูหลับตารับใช้ทำตามคำสั่งใครจ้าาา แรกๆ อาจทำเพราะอยากมีอำนาจสูงสุดเพื่อจะได้กำหนดชีวิตตนเอง แต่พอมีเมียแล้วพี่ก็อยากเปลี่ยนโลกนี้เพื่อให้เมียอยู่อย่างมีความสุขมากกว่า55 มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการอะไร เป็นคนสบายๆ สไตล์ชาวยุทธภพ😎👌

พอออกจากคุกมาได้ก็ถูกลดขั้นแล้วเนรเทศไปทำงานที่ชายแดน นางเอกก็ตามไปด้วย ไปอยู่ที่เมืองชายแดนแม้จะลำบาก แต่นางเอกกลับมีความสุขและอิสระมากกว่าตอนอยู่เมืองหลวงซะอีก ไม่ต้องห่วงเรื่องรูปโฉม ไม่ต้องกังวลเรื่ององค์ชายรอง จะไปไหนก็ได้ ทั้งได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคย+ไม่กล้าทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะมีพระเอกสนับสนุนอยู่ด้วยแหละ มีสามีที่เปิดกว้างพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ นางเอกถึงได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้ค้นพบความสุขของตัวเอง และมีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น 

" ...ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำอะไรอะไรอยู่ โลกนี้ใจกว้างต่อบุรุษอย่างยิ่ง ทว่าใจร้ายกดดันสตรีเกินไป แต่ข้าหวังว่าโลกจะใจดีต่อเจ้าสักนิด" 

หวังว่าเจ้าจะไม่มีความผิดหวังค้างในใจ

หวังว่าเจ้าจะไม่ต้องรู้สึกเสียใจในเรื่องใด

หวังว่าเจ้าจะเป็นตัวของตัวเอง มีชีวิตอิสระบนโลกนี้ เปลี่ยนเป็นมีความเข้มแข็งมากพอ ไม่ต้องสนใจคำติฉินนินทาเหล่านั้น


แต่พอเมืองเริ่มพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ เจ้าเมืองคนเก่าที่ไม่เคยโผล่หัวมา(ตั้งแต่พระนางย้ายมา) ก็มาแสดงตน🙄 กะมาชุบมือเปิบแย่งผลงานพระเอก แต่พระเอกก็หาแคร์ไม่ ดีซะอีกจะได้มีเวลาพักผ่อน แต่ไม่นานก็เกิดสงคราม และอิท่านเจ้าเมืองก็ทิ้งเมืองชิ่งหนีไปก่อนคนแรกเลย ส่วนพระนางไม่หนี อยู่ช่วยกันปกป้องเมือง หลังจบเหตุการณ์นี้แม่ทัพที่ยกทัพมาช่วยถึงขนาดอยากให้พระเอกเปลี่ยนจากบุ๋นมาเป็นบู๊แทน แบบเห็นแวว55 ...จากนั้นก็ได้กลับเมืองหลวง คราวนี้ชื่อเสียงของพระเอกยิ่งโด่งดังเป็นที่เลื่องลือทั้งจากเรื่องยื่นฏีกาทัดทานถวายฮ่องเต้ แล้วก็มาเรื่องที่ปกป้องเมืองชายแดน ซึ่งไม่ว่าจะตกอับสักกี่ครั้งพระเอกก็ฟื้นตัวกลับมาได้เสมอ แถมยังเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม ส่วนตัวนางเอกก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปตั้งแต่ที่ได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกับพระเอกเหมือนกัน เปลี่ยนเป็นคนที่เข้มแข็งมีความมั่นใจ ไม่ต้องคอยใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังหลบซ่อนหรือหวาดกลัวองค์ชายรองอีกต่อไปแล้ว

ส่วนองค์ชายรองกับสนมรักฮ่องเต้ หลังโดนฟ้องร้องเรื่องทุจริตครานั้นก็ถูกลดความสำคัญลง แต่ใจจริงๆ ฮ่องเต้ก็ยังรักเหมือนเดิมแหละ เพียงแต่ต้องกลบเกลื่อนชั่วคราวเพื่อลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่สองแม่ลูกไม่เข้าใจ พอฮ่องเต้หมางเมินก็หวาดกลัวเกรงว่าตัวเองจะหมดอำนาจและถึงขั้นไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้ (แบบนี้แหละอยู่ในราชวงศ์ สูงต่ำขึ้นอยู่กับความโปรดปรานของฮ่องเต้ ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง) ...จะว่าไปองค์ชายรองก็เป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่งนะ เกิดมาแบบไม่ค่อยสวย ชาติกำเนิดไม่ดี แม่เป็นลูกขุนนางต้องโทษ ได้เสียกันตอนแม่อยู่ที่วัด พอลูกเกิดมาก็บอกใครไม่ได้ว่าใครคือพ่อ แบบทั้งท้องก่อนแต่ง+ท้องไม่มีพ่ออะ แล้วในสมัยโบราณคิดดูเป็นแบบนี้จะโดนหนักขนาดไหน พ่อก็ต้องแอบเลี้ยงลูกเมียเอาไว้นอกวังไม่มีสถานะใดๆ ให้ เพราะตอนนั้นพ่อยังไม่ได้บัลลังก์ พอได้ก็ต้องรอจนกว่าบัลลังก์มั่นคงถึงมารับตัวสองแม่ลูกกลับไป เลยทำให้ลูกถูกคนกลั่นแกล้งหยามเหยียดต่างๆ นานา กลายเป็นปมในใจที่แก้ไม่หาย แม้ต่อมาจะมีทุกอย่างแล้วก็ตาม แต่สภาพจิตใจก็ยังไม่ค่อยปกติ ปัญหาไม่ได้ถูกแก้แค่ถูกกดเอาไว้ เมื่อฟางเส้นสุดท้ายขาดผึงทุกอย่างที่เพียรพยายามควบคุมกดเอาไว้เลยระเบิดออกมา


📍อุบายรักลิขิตเสน่หา 4 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/1VrSgFMoiU








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น