วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567

ลูบคมองครักษ์สวมรอย เล่ม 3-6 (6 เล่มจบ)

 

ลูบคมองครักษ์สวมรอย เล่ม 3-6 (6 เล่มจบ) 
ผู้แต่ง : จิ่วเยวี่ยหลิวหั่ว (九月流火)
ผู้แปล : เม่นน้อย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

กว่าจะได้กลับมาอ่านต่อยาวนานเหลือเกิน55 พระเอกก็ยังคงหน้าหนา ลูกเล่นแพรวพราวหน้าไม่อายเหมือนเดิม เรื่องกลับดำให้เป็นขาว กลับผิดให้เป็นถูกไว้ใจพี่ลู่ได้ค่ะ...

เล่มสามจะเป็นการเดินทางออกจากเมืองหลวง พระเอก พระสนมนางใน รวมถึงขุนนางและผู้ติดตามอีกมากมายต้องยกขบวนตามเสด็จติดตามฮ่องเต้กลับบ้านเดิม ระหว่างนั้นก็มีทั้งเรื่องไฟไหม้ เรื่องคดีคนหายจนนำไปสู่การพบเหมืองทองที่ถูกปกปิด สรุปไม่ว่าจะไปที่ไหนที่แน่ๆ คือต้องมีเรื่องและมีคดีให้พระนางได้ตามสืบทุกครั้ง พระเอกก็เริ่มรุกนางเอกหนักขึ้น (ไม่อยากเป็นพี่ชายแว้วว) กำลังวางแผนเรื่องแต่งงาน พร้อมๆ กับหลอกกินเต้าหู้นางเอกทุกครั้งที่มีโอกาส ส่วนพระรองแม้จะรู้แล้วว่าน้องสาวบุญธรรมตัวเองอยู่กับพระเอก แต่มันก็...สายไปเสียแล้ว 

เล่ม 4 ความทรงจำนางเอกกลับคืน แต่มาวันไหนไม่มา ดันมาวันที่เข้าพิธีแต่งงานกันพอดีด้วยนะ55 พอรู้ว่าตัวเองถูกหลอก นางเอกก็ขอให้ทุกอย่างเป็นโมฆะ จากนี้ทางใครทางมัน จะย้ายออกไปอยู่อื่นไม่ขอเกี่ยวข้องกันอีก แต่มีหรือที่อิพี่ลู่จะยอม ต่อหน้าก็ทำเป็นรับปากแต่ในใจลอบวางแผนเอาไว้เสร็จสรรพ ให้ตายก็ไม่มีวันปล่อยคน ต่อให้นางเอกจะฉลาดมีไหวพริบหรืออ่านสีหน้าคนเก่งแค่ไหน แต่เมื่อมาเจอคนเจ้าเล่ห์หน้ามึนอย่างพระเอกก็ต้องจอด ตามไม่ทัน55 สุดท้ายทุกอย่างก็อยู่ในแผนการที่พระเอกวางไว้ หนีไปไหนไม่พ้น ...ส่วนพระรองก็กินแห้วตั้งแต่ต้นจนจบ พลาดแล้วพลาดเลย สิ่งที่เสียไปแล้วไม่มีวันหวนคืน ดีที่สุดท้ายพี่แกก็ตระหนักได้ ไม่ดึงดันต่อ ได้แต่อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ มองคนเขารักกันอย่างเจ็บๆ (แม้แต่ตอนพิเศษตอนสุดท้ายพี่ก็ยังไม่สมหวังเล้ยยย น่าฉงฉาน คนไม่ใช่คู่ยังไงก็ไม่ใช่คู่สินะ)

หลังรู้ความจริงนางเอกจะย้ายออก แต่พระเอกก็อ้างเหตุผลบลาๆ เพื่อให้นางเอกยอมอยู่ในบ้านที่ตัวเองซื้อไว้ให้ (บอกเลยยย อย่าคิดเถียงกับพระเอกเรื่องนี้ เหตุผลดีแค่ไหนก็สู้ความหน้าหนาของพี่แกไม่ได้ กลับดำเป็นขาว หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองได้หมด55) จากนั้นก็มีเรื่องฮ่องเต้ถูกลอบปลงพระชนม์  พระเอกเห็นว่าเกี่ยวกับตำหนักในตัวเองเป็นบุรุษคงไม่สะดวก เลยใช้ข้ออ้างนี้ไปขอให้ฮ่องเต้เรียกนางเอกเข้าวังมาช่วยสืบคดี คนในวังเห็นความสามารถนางเอก รู้ว่าแค่คำพูดเดียวของนางก็สามารถตัดสินความเป็นความตายของตัวเองได้ก็เกิดหวาดกลัว หากไม่ได้สืบคดีก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรือเข้าไปพูดคุยกับนางเอกเลย แต่ฮ่องเต้กลับชื่นชอบความสามารถนี้ มองว่าสะดวกดีเหมือนเครื่องจับเท็จ

หลังออกจากวังทั้งสองคนก็กลับมาคืนดีกัน(เร็วมากเดือนเดียวเอง)  ตอนแรกพระเอกขอโอกาสแก้ตัว ตกลงกันว่าจะให้เวลานางเอกสามเดือนเพื่อพิจารณาใหม่แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะอยู่หรือจะไป (แต่จริงๆ พระเอกมีทางเลือกให้แค่ทางเดียวคือนางเอกต้องอยู่ข้างกายตัวเองเท่านั้น ไม่มีความคิดจะปล่อยคนไปแต่แรกอยู่แล้ว ทำเป็นพูดจามีเหตุผลไปงั้นแหละ สตอมาก55) พอคนกลับมาสิ่งแรกที่พระเอกทำก็คือเข้าหอจ้าาา ตอนเขาโกรธต้องแอ๊บทำเป็นสุภาพบุรุษมานาน พอเคลียร์กันได้อิพี่จัดเต็มทบต้นทบดอกไม่ขาดแต่เกินได้55 (เรื่องนี้เข้าหอกันบ่อย พระเอกขยันมาก แต่ไม่บรรยายมาก ให้ไปจินตนาการกันเอาเอง55) 

เนื้อเรื่องอยู่ในยุคของฮ่องเต้เจียจิ้ง หนึ่งในฮ่องเต้ของราชวงศ์หมิง (ปู่ของฮ่องเต้ว่านลี่ในหวังทงองครักษ์เสื้อแพร) ดังนั้นบางเหตุการณ์และบางตัวละครในเรื่องจึงเคยเกิดขึ้นและมีตัวตนอยู่จริง เช่น แม่ทัพชีจี้กวง อวี๋ต้าโหยว และมหาอำมาตย์จางจวีเจิ้ง ...พระเอกเป็นองครักษ์เสื้อแพร เป็นมือขวาคนสนิทที่ฮ่องเต้ไว้วางใจและได้ทำงานใกล้ชิดฮ่องเต้มากที่สุด มีหน้าที่คอยสอดส่องจับผิดขุนนาง รับฟังคำสั่งโดยตรงจากฮ่องเต้เพียงผู้เดียว ชื่อเสียงฉาวโฉ่ มีแต่คนสาปส่ง เป็นที่รังเกียจของขุนนางน้อยใหญ่ในราชสำนัก อายุยังน้อยแต่ก้าวหน้าเร็วตำแหน่งสูง ซ้้ำยังเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ จึงเป็นธรรมดาที่พวกขุนนางจะไม่ชอบและอิจฉาริษยาพี่แก แต่ก็ได้แค่นั้น เพราะสุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรหรือสามารถสั่นคลอนตำแหน่งพระเอกได้ ใครอยากฟ้องร้องก็ฟ้องร้องไปเลยพี่ไม่แคร์  

แต่พระเอกก็เก่งจริงมีความสามารถจริงๆ เหมาะสมกับตำแหน่งแล้วแหละ ที่นางเอกได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยสงบสุข ไปสืบคดีในวังได้อย่างราบรื่นไม่ถูกเจ้านายตำหนักในเก็บซะก่อนก็เพราะทุกคนกลัวไม่กล้าหาเรื่องพระเอกนี่แหละ แต่พระเอกก็ไม่เคยใช้อำนาจในมือไปกลั่นแกล้งหรือทำร้ายใครส่งเดชนะ ...ส่วนฮ่องเต้ก็สมกับที่เป็นฮ่องเต้ ถึงจะลุ่มหลงในลัทธิเต๋าแต่ก็ฉลาดล้ำลึก มองการณ์ไกล ขี้ระแวง ถึงไม่ไว้ใจใครแต่ก็รู้จักวิธีใช้คน ไม่ได้เลือกหรือตัดสินจากความดีเลวแต่มองที่ผลประโยชน์สูงสุดเป็นหลัก ในคดีที่พระนางช่วยกันสืบหลายครั้งที่แม้จะเจอตัวผู้ทำกระทำผิดแล้วแต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้เลือกที่จะป่าวประกาศหรือลงโทษเดี๋ยวนั้น แต่เลือกที่จะเก็บเอาไว้ก่อน รอพลาดซ้ำอีกทีหรือมีอะไรมากระตุ้นก็ค่อยลงมือจัดการทีเดียว 

ในเรื่องนี้นอกจากเรื่องความรัก ก็มีเรื่องการเมืองการแย่งชิงอำนาจ และการไขคดีนี่แหละที่พลาดไม่ได้ น่าติดตาม พระเอกมีหน้าที่สืบและตามหาความจริงมาให้ฮ่องเต้ ส่วนจะเอาผิดลงโทษหรือไม่ก็แล้วแต่เบื้องบนตัดสินใจ พระเอกไม่ยุ่งไม่ก้าวล่วง มองขาดมาก เข้าใจความคิดของฮ่องเต้ แต่ก็ไม่ทำตัวอวดฉลาด จะได้เห็นวิธีการใช้อำนาจ การใช้คน การต่อสู้ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ซึ่งสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างดี โดยเฉพาะตอนเกิดสงครามในช่วงเล่มสุดท้าย และตอนไปปราบโจรสลัดวอโคว่

อ่านแล้วได้แต่ถอนหายใจยาวๆ กว่าจะปราบสำเร็จการเมืองเยอะมาก  เกี่ยวพันโยงใยกับอำนาจและผลประโยชน์ของหลายฝ่ายหลายกลุ่ม รู้ทั้งรู้แต่ก็ทำไรไม่ได้ เพราะพวกขุนนางในท้องที่สมรู้ร่วมคิดรวมหัวช่วยกันปกปิด แถมยังมีพวกตำแหน่งสูงๆ ในเมืองหลวงคอยช่วยอยู่เบื้องหลังอีกต่างหาก สงสารก็แต่ขุนนางน้ำดีที่ตั้งใจทำงานและชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ที่ต้องรับกรรม สุดท้ายฮ่องเต้เลยต้องส่งพระเอกไปจัดการ ส่งพระรองที่เป็นแม่ทัพและเป็นชนชั้นสูงขุมกำลังใหญ่อีกขั้วหนึ่งลงไปควบคุม ...ช่วงสองเล่มหลังการเมืองเจ้มจ้นมากขึ้น จะได้เห็นอุบายของพวกขุนนางในราชสำนักที่พยายามจะกำจัดฝ่ายตรงข้าม พลาดปุ๊บซ้ำปั๊บ จ้องแต่จะถวายฎีการ้องเรียน พวกแม่ทัพที่กำลังรบติดพันถ้าไม่มีคนช่วยพูดหรือถูกร้องเรียนมากๆ เข้าก็ต้องถูกเรียกตัวกลับมากะทันหัน แผนการรบที่กำลังจะสำเร็จหรือวางไว้ก็เป็นอันพังไม่อาจสานต่อ มันก็จะวนๆ อยู่แบบนี้แหละ บ้านเมืองเลยไม่ไปไหนสักที 

ป.ล. เราชอบพระรองเรื่องนี้อยู่อย่าง แม้เรื่องความรัก เรื่องในเรือนหลังของตัวเองจะล้มเหลว แต่พี่แกก็ไม่เคยผิดต่อชาติบ้านเมืองหรือแผ่นดินตัวเองนะ ทำหน้าที่จนถึงที่สุด... เอาจริงๆ ก็เข้าใจพี่แกอยู่ว่าทำไมต้องเลือกแต่งงานทางการเมือง เพราะแม้จะเป็นท่านโหวตระกูลแม่ทัพแต่ก็ยังใหม่อยู่ ไม่ได้มีอำนาจมาก  คนในตระกูลก็ไม่มีใครโดดเด่นหรือพึ่งได้ พอได้เกี่ยวดองกับตระกูลใหญ่ๆ ที่มีอำนาจหรือมีสายสัมพันธ์อะไรแบบนี้ เวลาตัวเองไปรบมันก็มีคนช่วยพูดช่วยแย้งต่อหน้าฮ่องเต้ให้ ได้มีโอกาสแสดงฝีมือไม่ต้องรอนาน ก้าวหน้าเร็ว และมีคนคอยส่งข่าวไปบอกให้รู้ล่วงหน้าเวลาเกิดเรื่อง จะได้ไม่ตกข่าวและมีเวลาเตรียมพร้อมรับมือ ...เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะโดนยัดข้อหา รบอยู่ดีๆ คือต้องกลับมาและ อ่านแล้วก็แอบเจ็บใจแทนพี่แกตอนท้ายสุด ...T^T

ป.ล. ส่วนเมียพระรองก็น่าเห็นใจไม่แพ้กัน ได้แต่งกับคนที่เรารักแต่เขาไม่รักเรา สุดท้ายก็ต้องอยู่อย่างทุกข์ตรม เป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งของตระกูลที่มีไว้เพื่อใช้เกี่ยวดองอำนาจ หมดประโยชน์เมื่อไรก็มีคนพร้อมแทนที่คุณเสมอ สามีไม่รัก ครอบครัวก็ไม่สนใจ มีประโยชน์เมื่อไรถึงจะสน...





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น