วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

อย่าหยิ่งนักเลย + แด่เธอ...ด้วยรัก


อย่าหยิ่งนักเลย + แด่เธอ...ด้วยรัก (2 เล่มจบ)  / ผู้แต่ง : สุยโหวจู 随侯珠
ผู้แปล : ยินดี
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)
เสิ่นซี  นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยคุรุศาสตร์เอกนาฏศิลป์ สาวสวย สดใสร่าเริง 
ที่มองโลกในแง่ดีและช่างพูด เธอมีชายหนุ่มที่แอบชอบอยู่ในใจมานานเกือบสิบปีแล้ว 
ก็คือ หลินอวี้ถัง หนุ่มหล่อ สมองดีที่มีบ้านอยู่ข้างกันและเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ 
เพราะความชอบนี้เองจึงทำให้เสิ่นซีพยายามดั้นดนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับอีกฝ่ายให้ได้ 
ถึงสุดท้ายจะพลาดแต่อย่างน้อยยังได้อยู่มหาวิทยาลัยตรงข้ามกันก็ยังดี

เหอจือโจว หนุ่มรูปหล่อ บ้านรวย ไอคิวสูงคณะวิศวะ แต่นิสัยเย็นชาเข้าถึงยากมาก 
เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของหลินอวี้ถัง และเป็นคนที่ทุกคนให้ความเคารพยำเกรง
และพร้อมใจกันเรียกว่า ท่านเทพ  เพราะความหัวดีบวกกับหน้าตาหล่อเหลา
จึงไม่แปลกที่เหอจือโจวจะเป็นชายหนุ่มในฝันของสาวๆ ทุกคนในมหาลัย 
ต่อให้หน้าตาเย็นชาไม่แคร์ใครก็ยังเป็นที่ชื่นชอบและป๊อปปูล่ามากๆ อยู่ดี

แต่แล้ววันหนึ่งคนสองคนที่แตกต่างและไม่มีอะไรเหมือนกันเลย 
ก็กลับต้องมาสลับร่างและทำเรื่องใกล้ชิดสนิทสนมกันยิ่งกว่าใคร 
เด็กกากอย่างเสิ่นซีต้องมาใช้ชีวิตในร่างของท่านเทพเหอที่สุดแสนจะเย็นชาและเพอร์เฟค 
ส่วนเด็กเทพหัวดีอย่างเหอจือโจวก็ต้องมาอยู่ในร่างของเด็กสาวสมองทึบจอมโก๊ะ
ที่รักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ
เรื่องราวธรรมดาที่ไม่ธรรมดาพร้อมความเฮฮาชุลมุนวุ่นวายจึงเริ่มต้นขึ้น  …

นางเอกเรื่องนี้เป็นคนมองโลกในแง่ดี คิดอะไรเรียบง่ายไม่ซับซ้อน 
ขนาดต้องมาอยู่ในร่างของผู้ชายก็ยังปรับตัวใช้ชีวิตได้อย่างชิลๆ 
ตอนเป็นผู้หญิงก็เป็นแฟนสาวที่น่ารักช่างเอาใจใส่ ขี้อ้อน 
พอมาอยู่ในร่างผู้ชายก็พร้อมจะเป็นแฟนหนุ่มมาดแมนแฮนซั่มที่ปกป้องดูแลอีกฝ่ายได้
ขนาดทำให้คนอย่างพระเอกหวั่นไหวได้นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ (ต้องไปลองอ่านเองเน้อ55+)  
ถึงจะไม่ค่อยฉลาดแต่เมื่อเจอปัญหาก็สามารถเอาตัวรอดและแก้ไขสถานการณ์จนทำให้คนอ่านอย่างเราหัวเราะได้ทุกครั้ง  ผิดกับพระเอกที่หน้าดำคร่ำเครียดเกือบจะโมโหตายอยู่ตลอดเวลา
เมื่อได้เห็นความสบายๆ และวิธีแก้ปัญหาของนางเอก 

" จือโจว คุณช่วยอธิบายวิธีแก้โจทย์ข้อนี้ทีเถอะ "
เหอจือโจวถูกขานชื่อแล้ว เสิ่นซียืนขึ้น สมองที่เดิมทีสะลึมสะลืออยากนอนพลันปลอดโปร่งทันที 
เธอมองโจทย์ในพาวเวอร์พอยต์ แค่เครื่องหมายเธอยังไม่เข้าใจเลย
    ... เสิ่นซีกลอกตาไปมา ตั้งใจจะบอกว่าเธอตอบไม่ได้ แต่พอเห็นสายตาที่เฝ้ารอและมีเมตตา
ของศาสตราจารย์หวังกลับทนไม่ได้ เธอบอกศาสตราจารย์หวังเสียงใส
" หัวข้อนี้ผมได้ถกกับหลินอวี้ถังแล้ว ความคิดของพวกเราตรงกัน เมื่อครู่หลินอวี้ถังบอกผมว่าเขาอยากลุกขึ้นตอบมาก ดังนั้นอาจารย์ให้หลินอวี้ถังตอบเถอะครับ .. "
ศาสตราจารย์หวัง " ตกลง หลินอวี้ถัง คุณตอบสิ! "
..............................................................................................
" ฉันมาแล้ว "
เหอจือโจวมาแล้วเหรอ เสิ่นซีรีบออกจากหอพักทันที เธอมองซ้ายมองขวาก็หาเหอจือโจวไม่เจอ
เธอโทรหาเขา " นายมาแล้ว ตกลงนายอยู่ไหนกันแน่เนี่ย "
เหอจือโจวรับสายแต่ไม่พูดจา ผ่านไปครู่ใหญ่ค่อยพูดว่า " ฉันเอง วันนั้นของเดือนเธอมาแล้ว "

(จริงๆ ถ้าได้เห็นครอบครัวนางเอกแล้วก็ไม่แปลกใจหรอกรู้เลยว่านิสัยเหมือนใคร55+)  
เพราะการสลับร่างนี้เองจึงทำให้คนทั้งคู่ต้องคอยปรึกษาหารือและมีเรื่องใกล้ชิดกัน  
ประกอบกับเรื่องของพระรองก็ยิ่งทำให้ความสนิทสนมนั้นเพิ่มมากขึ้น  
พระเอกต้องกลายเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจและกลายเป็นแฟนหลอกๆ ของนางเอก จนท้ายที่สุดก็เริ่มหวั่นไหวไม่อาจห้ามใจไม่ให้ตกหลุมรักอีกฝ่ายได้ ...

เป็นเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวตอนช่วงมหาลัยจนถึงวัยทำงาน 
ออกแนวสดใสน่ารักกุ๊กกิ๊ก เนื้อเรื่องอาจดูธรรมดาแต่ก็สนุก ตลกฮา ไม่เครียด 
บอกเล่าความสัมพันธ์ของพระ-นางตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน เริ่มคบหา จนเรียนจบไปถึงขั้นสุดท้ายเลย 
ไม่มีดราม่า ไม่มีเรื่องมือที่สาม จะมีก็แค่เพื่อนขี้อิจฉาบางคนของนางเอกเท่านั้น 
มีอุปสรรคเข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หนักหนาอะไร เป็นเรื่องทั่วๆ ไปในชีวิต 
เหมือนเป็นแบบทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นาง ว่าจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรค
และจับมือจูงกันไปได้จนถึงขั้นแต่งงานไหม ในเล่มแรกจะจบลงตรงที่ทั้งสองตกลงคบกัน  
แต่หลังจากนั้นไม่นานพระเอกก็ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศซะก่อน
พอเล่มสองก็จะเริ่มเข้าสู่รักทางไกลวัยทำงาน ต้องพบกับสภาพแวดล้อมใหม่ สังคมใหม่ๆ 
ความตลกอาจไม่เท่าเล่มแรกเพราะเริ่มเข้าสู่ชีวิตจริง วัยทำงาน ที่ตามมาด้วยภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ ไม่ได้มีแต่เรื่องเรียนหรือเพื่อนเท่านั้น 
ฝั่งพระเอกไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเป็นคนวางแผนในชีวิตชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไร
จะมีก็แค่เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวนิดหน่อยเท่านั้น  
ส่วนใหญ่จะหนักไปทางฝั่งนางเอกมากกว่า เพราะนิสัยเหมือนเด็กและเป้าหมายในชีวิตยังไม่ชัดเจน ก็เลยต้องค้นหาตัวเองว่าสรุปแล้วอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร 
โดยมีพระเอกเป็นกำลังใจคอยให้ความสนับสนุน  
ซึ่งระหว่างทางก็อาจจะมีความไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกันบ้าง ต้องคอยปรับจูนเข้าหากันอยู่เรื่อยๆ
ตามประสาคนที่เป็นแฟนกันนั่นแหละเนาะ จริงๆ ก็ไม่ต้องลุ้นอะไร ไม่มีอะไรให้ลุ้นมาก
เพราะเดาได้ไม่ยากอยู่แล้วว่าจะจบแบบไหน  แค่รอดูว่าเวลามีปัญหาพระ-นางจะช่วยกันแก้ยังไง
แต่ก็ไม่ยากหรอกถ้ามีแฟนแบบพระเอกน่ะนะ ที่ทั้งหล่อรวย ฉลาดและเปย์หนัก 55+... 


ปล. จริงๆ การสลับร่างจะไม่เกิดถ้าพระรองไม่ทำให้นางเอกเสียใจ+คิดมาก
จนต้องออกไปยืนแถวดาดฟ้าเรือแล้วพลัดตกลงไปในน้ำ  
จริงๆ พระเอกก็อาจจะไม่ใช่เหอจือโจว ถ้าพระรองไม่ทำอะไรคลุมเครือไม่ชัดเจน
จนทำให้นางเอกผิดหวัง (พระรองงานดีอยู่นะ) ตอนอ่านช่วงแรกนี่โกรธพระรองมาก
แล้วตอนลงตัวอย่างให้อ่านสำนักพิมพ์ก็ตัดจบแต่ละตอนได้ลงแดงมาก ...
พออ่านไปจนจบถึงได้รู้ว่าจริงๆ พระรองน่ะรักนางเอกมากนะ 
แต่เชื่อไหมว่าไม่มีใครรู้เลยว่าคุณพี่น่ะรักนางเอกแบบคนรัก 
คือทุกคน..ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่นางเอกหรือพ่อแม่พระรอง ก็คิดว่ารักนางเอกแบบน้องสาวหมด 
เพื่อนร่วมห้องที่เห็นก็ยังคิดเลยว่าสถานะสองคนนี้ไม่ชัดเจน 
คือนางเอกน่ะชัด เห็นก็รู้เลยว่าชอบเขามากขนาดไหน แต่ของพระรองนี่ไม่รู้ว่าคิดยังไง  
จนนางเอกสลับร่างแล้วได้มาอยู่ร่วมห้อง แล้วได้เห็นท่าทางเวลาที่อีกฝ่ายคุยกับเพื่อนสนิทนี่แหละ
ถึงเริ่มตัดใจ ขนาดเราอ่านแล้วยังโกรธเลย แล้วนางเอกจะขนาดไหนชอบเขามาตั้งนาน
ถ้าไม่ได้ชอบก็บอกมาสิจะได้ไม่ยุ่ง นี่เหมือนกั๊กไว้อะ 
ไม่เหมือนพระเอกที่ไม่เคยให้ความหวังใคร ไม่เข้าใกล้ ถ้าไม่ชอบก็ไม่สนใจไม่คุยเล่น 
จัดการปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิงได้ดีมาก 
แต่พระรองนี่ดีกับทุกคนเลย ไม่ได้ดีกับนางเอกแค่คนเดียว 
จนวันที่โดนบอกเลิก ถึงได้พูดว่านางเอกเป็นแฟนตัวเอง  
แต่ที่ผ่านมานี่เงียบตลอดไม่เคยพูดแบบชัดๆ หรือบอกใครเลยว่านี่แฟนฉัน  
แล้วพอเกิดปัญหาคุณพี่ก็ใจเย็น+นิ่งเหลือเกิน แบบไม่ค่อยพยายามอะไรเลยอะ 
ถ้ารักก็ควรจะพยายามตื๊อหรืออธิบายอะไรหน่อยไหม คนเขาจะได้ไม่เข้าใจผิด
พระเอกนี่ถึงจะเย็นชาไม่เห็นหัวใคร แต่พอรักใครแล้วก็เต็มที่ไม่ปิดนะ 
พูดชัดเจนทำอะไรชัดเจน ...ก็สมควรแล้วแหละที่จะเสียนางเอกไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น