วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

การกลับมาของนางฟ้า 2 เล่มจบ

 


การกลับมาของนางฟ้า 2 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying)
ผู้แปล : ซานซาน
ปก : 幸福 
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

หนิงซี นักแสดงสาวสวยหน้าใหม่ไอคิวดี-อีคิวก็เลิศของบริษัทจิ่วจี๋ที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ...ส่วนพระเอก ฉางสือกุย หนุ่มนักธุรกิจรูปหล่อ มหาเศรษฐี ผู้สืบทอดตระกูลฉางคนปัจจุบัน เป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลมาก พระเอกหลงรักนางเอกมาตั้งนานแล้วประมาณ 8-9 ปีได้ เคยฝากคนส่งจดหมายรักไปให้ด้วย แต่นางเอกไม่รู้ ส่วนจดหมายก็ไม่เคยได้เปิดอ่าน แล้วหลังจากนั้นก็เกิดเหตุพลิกผันที่ทำให้นางเอกต้องลาออกจากโรงเรียนไปกลางคัน พอผ่านไปหกปีพระเอกถึงได้เจอนางเอกอีกครั้ง ในขณะที่กำลังเข้าฉากถ่ายหนังท่ามกลางสายฝน

หลังจากวันนั้นพระเอกก็คอยแอบตามช่วยนางเอกอย่างลับๆ มาตลอด อย่างจ้างมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าของบริษัทในเครือตัวเอง หรือฝากให้นักแสดงรุ่นใหญ่ที่เล่นหนังด้วยกันช่วยดูแลนางเอก หรือช่วยลงทุนในหนังที่นางเอกกำลังแสดงอยู่อะไรแบบนี้ ดาราบางคนที่ได้ร่วมงานกับนางเอก ก็แอบรู้สึกว่านางเอกเหมือนจะมีคนหนุนอยู่เลยทำตัวเป็นมิตรไม่กล้าหาเรื่อง แต่มีบางคนมองไม่ออก พอเห็นว่านางเอกเป็นหน้าใหม่ยังไม่ค่อยดังก็หาเรื่องแกล้ง อย่างเช่นจ้างคนไปโพสต์ในเน็ตสร้างข่าวเสียๆ หายๆ งี้ ...แต่นางเอกก็รับมือจัดการได้หมด เพราะหนักกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้วแค่นี้จะนับว่าเป็นอะไรได้ ..

เนื้อเรื่องส่วนใหญเกี่ยวกับการไต่เต้าในวงการบันเทิงของนางเอก ซึ่งตรงจุดนี้เราว่าไม่ค่อยมีอะไรดูราบรื่นดี นางเอกก็ค่อยๆ ไต่เต้าจากบทตัวประกอบมาเป็นตัวรองจนได้เป็นนางเอก เวลาทำงานก็อ่อนน้อมมีสัมมาคารวะ ไม่เรื่องมากจุกจิกเป็นมืออาชีพ ใครได้ทำงานด้วยก็เอ็นดูชื่นชอบ ถึงจะมีอุปสรรคถูกคนใส่ร้ายขัดแข้งขัดขาสร้างข่าวไม่จริงมาโจมตีในเน็ตเป็นระยะๆ แต่นางเอกก็สามารถรับมือผ่านไปได้ บวกกับมีแบ็คใหญ่อย่างพระเอกคอยช่วยหนุนหลังอยู่ ก็เลยไม่ค่อยมีดราม่าอะไรเท่าไร มาไม่นานเดี๋ยวก็ไป เพราะจุดที่หนักและดราม่าจริงๆ ในเรื่องก็คือการบูลลี่กลั่นแกล้งกันในโรงเรียนที่นางเอกโดนเมื่อตอนม.ปลาย ถึงขั้นบ้านแตก และเป็นสาเหตุให้นางเอกต้องจากบ้านไปอยู่ไกลถึงต่างประเทศ... ในตอนต้นๆ จะมีฉากที่นางเอกได้ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของอาจารย์สมัยม.ปลายแล้วได้เจอเพื่อนร่วมห้อง แต่ก็แทบไม่มีใครจำนางเอกได้แล้ว เพราะสมัยนั้นนางเอกอ้วนมาก ทว่าด้วยความที่เรียนเก่งมากด้วย จึงทำให้ถูกเพื่อนในห้องบางคนอิจฉา ต่อมาก็มีคนปล่อยข่าวลือหาว่านางเอกแอบชอบหนุ่มหล่อของห้องเรียน ก็เลยยิ่งทำให้โดนแกล้ง แล้วก็โดนหนักขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่เรื่องเลวร้ายต่างๆ ตามมา ....

เป็นเหตุผลที่ทำให้นางเอกตัดสินใจมาเป็นดารา และทำให้เธอต้องพูดปฏิเสธพระเอกไปหลายครั้งหลายคราก็เพราะเรื่องนี้ด้วย แต่พระเอกก็ไม่ยอมแพ้ ใช้ความจริงใจเข้าสู้จนนางเอกยอมเปิดใจให้และคบกันเป็นแฟน ซึ่งความจริงต่อให้ไม่มีพระเอก เราก็เชื่อว่านางเอกจะยังสามารถจัดการกับทุกอย่างได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาใครอยู่ดี แต่ก็ต้องยอมรับแหละว่าพอมีพระเอกเข้ามามันก็ง่ายและสะดวกขึ้นกว่าเดิม พระเอกเรื่องนี้อบอุ่นอ่อนโยน สายเปย์ ใส่ใจดูแลนางเอกดีมากๆ สุภาพบุรุษสุดๆ ความจริงลึกๆ เราว่าเนื้อเรื่องก็แอบหนักอยู่นะ แต่ได้ความรักของพระเอกนี่แหละมาช่วยเบรคให้มันซอฟท์ลง เป็นสถานที่พักพิงอันอบอุ่น เป็นที่พึ่งอันแข็งแกร่งโดยไม่ต้องร้องขอ ทำให้นางเอกไม่ต้องโดดเดี่ยวเดียวดายเหมือนอยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป

ตอนแรกผู้จัดการที่ดูแลนางเอกอยู่ก็ห่วงนะ กลัวว่าพระเอกจะมาคบเล่นๆ ไม่จริงจัง เหมือนพวกคนรวยหลายๆ คนที่เห็นดาราหญิงเป็นของเล่น แล้วพอมีปัญหาหรือเป็นข่าวก็จะปล่อยให้นางเอกออกรับหน้าโดนด่าอยู่คนเดียว... แต่แน่นอนว่าพระเอกไม่ใช่แบบนั้น เพราะเวลานางเอกถูกคนกุข่าวใส่ร้ายป้ายสีในเน็ต พระเอกก็จะให้คนไปจัดการไล่ลบโพสต์พวกนั้นทิ้ง และถ้าข่าวไหนเกี่ยวข้องกับตัวพระเอกด้วย พระเอกก็จะออกมาโพสต์ชี้แจงปกป้องคนเองเลย ไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบหรือให้คนเข้าใจผิดตีความกันไปเอง ผู้จัดการนางเอกเลยวางใจรู้แล้วว่าพระเอกจริงจัง ส่วนพวกคนในแวดวงไฮโซพวกนายทุน คนรอบตัวที่นางเอกต้องไปร่วมงานด้วยก็เริ่มเกรงใจและปฏิบัติกับนางเอกดียิ่งขึ้น ...

นางเอกเรื่องนี้การงานดีความรักก็รุ่ง ชีวิตเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ความจริงกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้นั้นไม่ง่ายเลย ต้องผ่านการบูลลี่ บ้านแตกสาแหรกขาด ญาติพี่น้องรุมทึ้งเหมือนผีดิบหิวโซ ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงดูตัวเอง ใช้ชีวิตคนเดียวตั้งแต่อายุสิบเจ็ด พร้อมๆ กับสืบหาความจริงเรื่องแม่ พอมาเป็นดารากำลังจะมีชื่อเสียงหน่อยก็เจอข่าวลือเสียๆ หายๆ ฟาดใส่ ตอนเรื่องในอดีตที่ตัวเองถูกแกล้งเปิดเผยออกมาก็ยังโดนคนจี้ถามอีกว่าจะให้อภัยคนที่ทำได้ไหม...เหอๆ


📍การกลับมาของนางฟ้า 2 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/3fvdrpCize




วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1-3

 

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1-3 (7 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : 
กวนซินเจ๋อล่วน
ผู้แปล : ถังเจวียน
สำนักพิมพ์ แจ่มใส 

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เรื่องราวดำเนินอยู่ในช่วงกลียุค บ้านเมืองวุ่นวายไม่เป็นปึกแผ่น มีโจรผู้ร้ายชุกชุม แค่มีหรือรวมกลุ่มกำลังพลกันได้ก็สามารถตั้งตัวเป็นใหญ่หรือเป็นฮ่องเต้ได้แล้ว ประชาชนอดอยากไม่มีจะกิน ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง จับกลุ่มกันคอยเฝ้าระวังเพื่อปกป้องคนในครอบครัวและบ้านเกิดจากโจรผู้ร้ายที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด มีตระกูลมากมายที่ถูกฆ่าล้างและต้องบ้านแตกสาแหรกขาด เป็นยุคสมัยที่ยังไม่มีระบบการจัดสอบเข้ารับราชการ แต่จะเลือกคนมาเป็นขุนนางจากความประพฤติ ความสามารถ และความดีความชอบ ไม่ว่าจะพ่อค้าหรือชาวนาก็มีโอกาสเข้ามาเป็นขุนนางรับราชการได้หมด

นางเอก อวี๋ไฉ่หลิง หญิงสาวจากยุคปัจจุบันที่มีความฝันอยากเป็นมาเฟียหญิง อดีตอันธพาลน้อยกลับใจที่ตายแล้ววิญญาณทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ เฉิงเซ่าซาง บุตรสาวคนเล็กของแม่ทัพเฉิง เฉิงสื่อ บุรุษที่คลั่งรักภรรยาและอยากตามใจลูกสาวมากก เดิมบ้านพ่อนางเอกเป็นชาวนาอยู่ในชนบท ส่วนแม่เป็นบุตรสาวของคหบดีที่มั่งคั่งและมีชื่อที่สุดในตำบล ไม่ได้เป็นตระกูลผู้ดีมีชื่อเก่าแก่แต่อย่างใด แต่เพราะบ้านเมืองในตอนนั้นกำลังไม่สงบสุข พ่อแม่นางเอกจึงต้องรวบรวมกลุ่มคนเพื่อลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเกิดตัวเอง จากนั้นก็เลือกติดตามผู้มีความสามารถมีคุณธรรม ซึ่งสุดท้ายเจ้านายที่เลือกก็ฝ่าฟันจนสามารถรวบรวมแผ่นดินและตั้งตนเป็นฮ่องเต้ได้ บ้านนางเอกจึงได้ผงาดข้ามขั้นมีหน้ามีตาขึ้นมา ส่วนพ่อก็ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นฉวี่หลิงโหว...

เล่มแรกจะปูเรื่องความสัมพันธ์ในบ้านนางเอกก่อน คือร่างที่นางเอกมาอยู่เนี่ย เดิมเป็นคุณหนูที่มีนิสัยและชื่อเสียงไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะคนที่ดูแลหรืออาสะใภ้รองจงใจอยากเลี้ยงให้เสียคน ...เนื่องจากอาสะใภ้เกลียดแม่นางเอกมาก ในตอนที่แม่นางเอกจะติดตามพ่อไปรบ อาสะใภ้ไม่อยากให้แม่นางเอกไป เลยหาคนมาทำนายจนทำให้แม่นางเอกต้องทิ้งลูกสาวหรือเจ้าของร่างนี้เอาไว้ที่บ้านในเมืองหลวงคนเดียว ...แล้วพอจะส่งคนมารับลูก อิอาสะใภ้ก็ไม่ยอมให้ไปอีก หาเรื่องมาขัดขวางทำให้เขาต้องแยกจากลูกไปเป็นสิบปี ต่อมาวันหนึ่งอาสะใภ้ก็เผลอลงโทษเจ้าของร่างนี้จนป่วยตาย วิญญาณนางเอกเลยได้มาอยู่ในร่างนี้แทน

นางเอกไม่มีความทรงจำเดิมของร่างนี้ติดตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าของร่างนี้มีพ่อแม่ไหม ไม่กล้าถาม กลัวถูกจับได้...แต่เราว่าก็โชคดีนะที่เจ้าของร่างเดิมไม่เคยใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่มาก่อน ไม่งั้นนางเอกต้องถูกจับได้แน่ๆ ว่าไม่ใช่ลูกเขา เพราะพ่อแม่ของร่างนี้ฉลาดมาก โดยเฉพาะแม่เซ้นส์แรงสุด 

หลังจากนั้นไม่นานพ่อแม่นางเอกรวมถึงพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สามที่เป็นฝาแฝดกัน และน้องชายคนเล็กก็เดินทางกลับมาก่อนกำหนด ...พอมาถึง พ่อแม่นางเอกก็คิดบัญชีกับอาสะใภ้รองก่อนเลย คือพ่อนางเอกเนี่ยมีน้องชายสองคน พ่อเป็นลูกชายคนโต มีความจำเป็นต้องออกจากบ้านไปเพื่ออนาคตของคนในครอบครัว ส่วนน้องชายคนรองรักเรียนมาก แต่ไม่อาจขึ้นเขาไปกราบอาจารย์ได้ เพราะในช่วงกลียุคต้องมีบุรุษคนหนึ่งอยู่ดูแลบ้าน เลยให้น้องชายคนเล็กไปเรียนแทน แต่พออยู่บ้านน้องคนรองกลับถูกภรรยาดูถูกต่อว่าสารพัด จนแทบจะสูญสิ้นปณิธาน แม่แท้ๆ ก็เมินไม่สนใจไม่เห็นหัว เพราะลูกสะใภ้คนรองมีประโยชน์เลยทำเป็นมองไม่เห็นสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำ เหมือนให้ท้ายอยู่กรายๆ ปล่อยให้ลูกสะใภ้ทำตามอำเภอใจ พูดจาข่มเหงสามี เลี้ยงลูกพี่ชายแบบผิดๆ ส่งลูกสาวแท้ๆ ของตนกลับไปให้บ้านเดิมเลี้ยงดู ฮุบของที่แม่นางเอกส่งกลับมา เป่าหูอะไรแม่สามีก็เชื่อ...พอจัดการเรื่องอาสะใภ้รองเสร็จ พ่อนางเอกเลยส่งน้องคนรองออกไปเรียนตามความฝันเดิม เพราะสำหรับพ่อแม่นางเอก น้องคนรองนี่แหละคือคนที่เสียสละมากที่สุด ...

แต่ถึงอาสะใภ้รองจะนิสัยไม่ดี แต่กลับมีลูกสาวที่แสนซื่อขี้กลัวและจิตใจดีคนนึง พอขับอาสะใภ้รองออกไป แม่นางเอกก็สงสารหลานสาวแสนดี กลัวนางจะถูกรังแกหรือได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจ เลยพยายามตั้งใจดูแลหลานสาวคนนี้อย่างดีประหนึ่งลูกสาวแท้ๆ ส่วนลูกแท้ๆ ก็กลายเป็นหลานสาวแทน(สินะ) จนวันหนึ่งก็เกิดเหตุทะเลาะกันเพราะเรื่องโต๊ะ จุนแม่ไม่ถามไถ่ให้กระจ่างก็เรียกนางเอกที่เป็นลูกแท้ๆ มาต่อว่าทันที เพราะมีอคติบางอย่างอยู่ก่อน จึงปักใจเชื่อไปตามนั้นแล้วว่านางเอกเป็นคนผิดชัวร์ แม้แต่พวกพี่ชายยังรับไม่ได้ ต้องพากันมาช่วยพูดแทนน้อง ยอมขัดใจแม่เพื่อช่วยน้องกันสุดฤทธิ์ ...หลังจบเรื่องนี้แม้นางเอกจะทำตัวปกติ แต่แม่ก็สัมผัสได้ว่าลูกสาวไม่ต้องการแม่อีกต่อไป มีอะไรก็คิดเองทำเองไม่เคยปรึกษาแม่ จะไปทางพ่อกับพี่ชายมากกว่า คือเอ็นดูนางเอกนะในใจจะเรียกพ่อว่า 'ท่านพ่อเฉิง' ทุกคำ แต่กลับเรียกแม่ว่า 'หัวหน้าเซียว' เนี่ยไม่บอกก็รู้ว่าสนิทใจกับใครมากกว่า...

แต่พี่สาวลูกอาเป็นคนดีนะ ดีมากๆ ไม่มีดราม่าอะไร คือพี่ก็ละอายใจรู้สึกผิดต่อสิ่งที่แม่ตัวเองทำ ก่อนหน้านี้ก็ถูกส่งไปอยู่ที่อื่นมาด้วยเลยไม่ได้สนิทสนมอะไรกับเจ้าของร่างเก่าที่นางเอกมาอยู่...หลังจบเรื่องโต๊ะไปๆ มาๆ นางเอกกับพี่สาวก็เริ่มสนิทกัน แล้วหลังจากนั้นก็มีเรื่องงานเลี้ยงที่ตระกูลอิ่น คุณหนูตระกูลอิ่นหลอกด่าว่านางเอกไม่มีพ่อแม่ ไม่รู้หนังสือ บลาๆ นางเอกโกรธ เลยงัดวิธีสมัยเป็นอันธพาลหญิงตัวน้อยออกมาใช้จัดการอีกฝ่ายซะ เจ็บทั้งคู่ จริงๆ อีกฝ่ายเจ็บหนักกว่าแต่ไม่มีใครรู้ เพราะนางเอกเล็งแต่จุดสำคัญบริเวณที่ไม่มีคนเห็น(แสบมาก) แถมคุณหนูอิ่นยังโดนที่บ้านต่อว่าซ้ำด้วยเพราะคำด่านี้ไปจี้ใจอดีตแม่ตัวเองพอดี เลยเจอที่บ้านอบรมชุดใหญ่ ดีที่หลังจากนั้นนางก็สำนึกคิดได้กลับตัวกลับใจมาขอโทษนางเอก เลิกนิสัยเดิมๆ กลายมาเป็นเพื่อนกัน และคอยช่วยพูดปกป้องนางเอกเวลามีคนมาว่าหรือมาหาเรื่อง

ต่อมาก็มีงานเลี้ยงที่จวนสกุลวั่น ซึ่งเป็นตระกูลที่สนิทกับบ้านนางเอกมากๆ (พ่อนางเอกกับแม่ทัพวั่นเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน) ตอนที่พ่อแม่นางเอกไม่อยู่ จริงๆ แม่นางเอกก็แอบทิ้งสายเอาไว้เพื่อให้คอยดูลูกและจับตาดูอาสะใภ้รองอยู่นะ เวลาที่อาสะใภ้คิดจะทำอะไรล้ำเส้นก็จะมีคนไปบอกฮูหยินผู้เฒ่าวั่นที่อยู่บ้านข้างๆ ฮูหยินผู้เฒ่าก็จะออกมาพูดดักไว้ก่อนและทำให้อาสะใภ้รองไม่กล้าลงมือ ...พอไปงานเลี้ยงสกุลวั่น นางเอกก็เจอคนมาหาเรื่องอีก(แล้ว) แล้วก็มีเหตุการณ์ที่สะพานพังเหมือนในซีรีส์อะ55 ตอนแรกนางเอกนึกว่าตัวเองทำได้แนบเนียนมาก ไม่มีใครรู้หรอก แต่จริงๆ คนรู้เยอะเลย พระเอกก็รู้ คุณชายโหลวก็แอบเห็น ฮูหยินผู้เฒ่าวั่นก็เดาออก เลยให้คนส่งจดหมายไปบอกพ่อแม่นางเอก ...นางเอกเลยถูกทำโทษ แต่นางเอกก็แมนๆ ดี ทำก็ยืดอกยอมรับ แต่ถ้าไม่ได้ทำต่อให้ตายก็ไม่ยอมก้มหัวเด็ดขาด ...จริงๆ คนที่บอกให้ลงโทษคือพ่อนะ แต่พ่อให้แม่ออกหน้ารับบทผู้ร้าย ส่วนตัวเองขอรับบทคนดีคอยปลอบ55 มีการเรียกอาสามกับอาสะใภ้สามมาตกลงให้คอยส่งสัญญาณกันด้วย ... พ่อหนอพ่อ กลัวลูกสาวไม่รัก แต่ก็อยากดัดนิสัยลูกอะ กลัวลูกจะได้ใจคิดว่าตัวเองทำแล้วไม่มีใครรู้ แล้วเดี๋ยววันหน้าจะก่อเรื่องใหญ่จนเดือดร้อน ...แต่พอเห็นลูกถูกโบยจนสลบพ่อก็วิ่งไปร้องไห้ที่ข้างเตียงลูก นางเอกจากที่ตอนแรกไม่ร้องไม่ขอความเมตตาใดๆ แต่พอตื่นมาเห็นพ่อร้องไห้เท่านั้นแหละ น้องก็ปล่อยโฮเลยจ้า....

พอเล่มสอง นางเอกได้ออกจากเมืองหลวงติดตามครอบครัวอาสามกลับไปทำงานด้วย เหมือนที่บ้านเห็นว่านางเอกไม่เคยออกไปไหนเลย ต่างจากพวกพี่ชายที่ได้เห็นโลกมาเยอะ พ่อกับแม่เลยให้นางเอกเดินทางไปกับอาสามเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ แต่ระหว่างทางดันเจอกับกลุ่มกบฏ จากที่กำลังเดินทางชิวๆ กินลมชมวิวก็กลายเป็นยกขบวนหนีตายวิ่งสู้ฟัดละทีนี้ เกือบไม่รอด ดีที่นางเอกมีไหวพริบคิดหาสถานที่ที่จะช่วยตั้งรับต่อสู้ได้ สามารถถ่วงเวลารอจนกลุ่มพระเอกมาช่วยทัน แต่ถึงจะรอดมาได้มันก็เป็นความทรงจำที่เลวร้ายมากอยู่ดี เรื่องที่ผ่านมาก่อนหน้ากลายเป็นเล็กน้อยไปเลย ทำให้นางเอกโตขึ้น ถูกสถานการณ์บีบให้ต้องแสดงความสามารถออกมา เนื่องจากอาสะใภ้บาดเจ็บ นางเอกเลยต้องดูแลจัดการทุกอย่างแทน ส่วนอาสามของนางเอกนี่แบบโชคดีโคตรรร ลูกรักของพระเจ้าใช่ไหมเนี่ย 55

ในเล่มสองนางเอกหมั้นแล้วนะ คุณชายโหลวขี่ม้าตามมาถึงที่ทำงานอาสามเลยจ้า คือชอบมากก ถึงจะรู้จุดจบของทั้งคู่อยู่แล้วก็ตามเถอะ ไม่ค่อยเจอผู้ชายที่ชอบก็บอกว่าชอบตรงๆ หรือแสดงออกชัดเจนพลังเยอะแบบนี้เลยอะ ส่วนใหญ่จะแบบเก๊กๆ นิ่งๆ เย็นชา พูดอะไรซับซ้อน ต้องอ้อมไปอ้อมมาก่อนถึงจะเข้าใจ ...อิตาคุณชายหยวนนี่ใช่เลย ทั้งๆ ที่ได้เจอนางเอกก่อนเป็นคนแรกแท้ๆ เล่มหนึ่งก็มีโอกาสบ่อยกว่าใคร คือถ้าไม่เห็นจากในซีรีส์มาก่อนจบเล่มหนึ่งเราก็คิดว่าชายหยวนเป็นพระเอกนะ55 แต่ปากชายหยวนก็อะนะ คมยิ่งกว่ากรรไกร ถ้าไม่ได้จบด้วยการทะเลาะก็จะไม่มีความสุขชิมิ ซับซ้อนอ้อมโลกสำบัดสำนวนเหลือเกินเป็นไงล่ะ พอเขาเลิกกับคนแรกตัวเองก็เสียบไม่ทันอีก เจอพระเอกตัดหน้าจ้อย55

แต่พระเอกนี่แบบอยากกรี๊ดดด ถึงจะช้าไปหน่อยแต่ก็หนักแน่น เย็นชาหน้าตายแค่กับคนอื่น แต่กับนางเอกเราว่าพี่เขาเหมือนโถน้ำผึ้งแตกอะ คือเหมือนความอบอุ่น ความใจดี ความอ่อนโยนของพี่เขามีไว้เพื่อนางเอกคนเดียวเท่านั้น ตอนที่รู้ว่านางเอกหมั้นแล้วพี่ก็ได้แต่อวยพร พอรู้ว่าในอนาคตนางเอกอยากใช้ชีวิตแบบไหนกับคู่หมั้น พี่ก็ยินดีจะหาสถานที่หรือเมืองดีๆ ให้อยู่ ฮ่องเต้เห็นว่าพระเอกปฏิบัติกับนางเอกแตกต่างจากสตรีอื่น ก็ไปเรียกพ่อนางเอกมาถามว่ามีลูกสาวกี่คน พ่อนางเอกบอกมีคนเดียว ฮ่องเต้ก็ไม่พอใจ แบบทำไมถึงมีแค่คนเดียวเล่า55 ตอนที่เขาต้องถอนหมั้น ฮ่องเต้นี่แทบอยากจะตะโกนบอกให้รีบๆ ถอนไปเลย ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวต้องได้คนที่ดีกว่านี่แน่ (มีคนรอเสียบอยู่) รีบๆ ถอนสิ ...

แต่ฉากที่นางเอกต้องชี้แจงเหตุผลการถอนหมั้นนี่เราน้ำตาไหลเลยนะ จากตอนแรกที่จะไม่ยอมถอน แต่สุดท้ายก็ต้องตัดใจทั้งน้ำตา เจ็บปวดกันไปหมด จบดีแต่โคตรเจ็บปวด เจ็บปวดกับคนที่ยังอยู่และคนที่จากไป ...

สปอยล์...คือการที่คุณหนูเหอถอนหมั้นไปแต่งกับตระกูลเซียวน่ะ ลึกๆ ก็เป็นแผนของพ่อตัวเองหรือแม่ทัพเหอด้วยนะ เพราะฮ่องเต้รู้ว่าตระกูลเซียวยังไม่ยอมสยบง่ายๆ อาจก่ออกบฏอีก แม่ทัพเหอรู้ถึงความคิดฮ่องเต้เลยกะใช้การแต่งงานนี้เพื่อจับตาดูตระกูลเซียว ก็เลยยอมให้ลูกสาวถอนหมั้นกับคุณชายโหลวง่ายๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าตระกูลสูงศักดิ์ไหนจะมาขอหมั้นก็ปฏิเสธหมด...แต่แล้วแม่ทัพเหอก็พลาดพลั้งจนต้องสละชีวิตทุกคนในตระกูลแทบทั้งหมด เศร้ามาก T^T

พอถอนหมั้นกันตอนเช้า ตอนบ่ายนางเอกก็ถูกเรียกเข้าวัง แล้วต่อจากนั้นพระเอกก็มัดมือชกขอแต่งงานต่อเลยจ้า ไม่รอแล้วเดี๋ยวพลาดอีก ..ปรับอารมณ์ไม่ทันเลยเร็วไปมั้ยคุณพี่ ฮ่องเต้ก็รีบชงทันที พอพระเอกเอ่ยปุ๊บก็จัดให้ปั๊บ โอ๊ยยยลูกรัก ไม่กลัวใครจะหาว่าลำเอียงเข้าข้างพระเอกเลย เพราะลำเอียงแบบเปิดเผยอยู่แล้ว ทั้งต่อหน้าและลับหลัง 55 ...เคยเห็นฮ่องเต้เรื่องไหนลำเอียงรักลูกบุญธรรมขนาดนี้มั้ยยย 55 ...อยากให้พระเอกแต่งงานแต่ก็ไม่กล้ายุ่ง เพราะกลัวลูกรักจะหนีไปสนามรบอีก ตอนพระนางหมั้นกันแล้ว ฮ่องเต้ก็ไม่พอใจเรื่องที่นางเอกไม่ยอมให้พระเอกค้างที่บ้าน เรียกมาต่อว่าทันที ทำไมถึงให้ค้างที่จวนไม่ได้! ดูสิรักขนาดไหน ...

ส่วนบรรดาสาวๆ ก็อกหักกันเป็นแถว พระเอกเสน่ห์แรงสุดยอด มีคนมาชอบเยอะมาก ทั้งสตรีที่ยังไม่ออกเรือนและออกเรือนไปแล้ว ขนาดไม่เคยให้ความหวังใคร วาจาก็คมกริบแทงทีเดียวจอด แต่เสน่ห์ก็ยังแรงไม่มีตก ทว่านางเอกกลับไม่ได้ชอบพี่ คือน้องเห็นพระเอกเป็นเหมือนที่พึ่งเหมือนพี่ชายที่คอยให้ความช่วยเหลือกันมากกว่า แต่ไม่คิดอาจเอื้อมเป็นอย่างอื่น เพราะพระเอกอ่านยาก มองไม่ออก ควบคุมไม่ได้ คือพอหมั้นกันเสร็จกลับมาถึงบ้าน ทุกคนในบ้านต้องมานั่งจับเข่าปรึกษากันว่าจะขอถอนหมั้นยังไงดี จะปฏิเสธฮ่องเต้ยังไง แต่สุดท้ายไม่ว่าจะพูดยังไงพระเอกก็หาเหตุผลมาประนีประนอมโต้กลับได้หมดเลย

พอหมั้นกันแล้วพระเอกก็ใส่ใจดูแลนางเอกดีมากๆ เข้าใจว่าน่าจะอยากทำมานานแล้วแต่ตอนนั้นไม่มีโอกาสเพราะคนเขามีเจ้าของแล้ว ตอนนี้มีโอกาสแล้วเลยใช้สิทธิ์คู่หมั้นได้อย่างเต็มที่และเปิดเผย ขนาดยังไม่ได้แต่งนะเพิ่งหมั้น แต่ก็เรียกนางเอกว่าภรรยาต่อหน้าคนอื่นแล้วจ้า คลั่งรักสุดๆ ตอนยังไม่ได้เข้าวังก็แวะไปหานางเอกที่บ้านแทบทุกวัน นางเอกขาดอะไรพระเอกก็จะคอยสังเกตแล้วจัดหามาให้ ไม่ใช่เฉพาะแต่นางเอกเท่านั้น แต่รวมไปถึงคนในครอบครัวด้วย ใครว่าพระเอกเย็นชา เราว่าขอแค่เป็นคนที่พระเอกรัก พระเอกก็พร้อมจะปกป้องดูแลและมอบสิ่งดีๆ ทุกอย่างให้หมด รอยยิ้มของพระเอกก็มีให้แค่นางเอกคนเดียวเท่านั้น ถ้าเห็นนางเอกทำอะไรไม่เข้าท่า พระเอกก็ไม่คล้อยตามง่ายๆ แต่จะมีวิธีพูดให้อีกฝ่ายต้องยอมถอยเอง คอยบอกสอนชี้แนะอย่างใจเย็น เห็นเย็นชาเยือกเย็นโหดๆ แบบนี้ แต่พระเอกก็กลัวนางเอกจะไม่รัก กลัวว่านางเอกจะทิ้งตัวเองไปเหมือนกันนะ ... เพราะลึกๆ ในใจนางเอกยังมีความรู้สึกอยากถอนหมั้นอยู่ตลอด น้องเลยไม่ค่อยใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับพระเอกเหมือนอย่างที่พระเอกมีให้ตัวเอง....ตอนท้ายๆ เล่มสามนางเอกเลยต้องไปไล่ถามหลายๆ คนถึงวิธีการอยู่ร่วมและปฏิบัติกับคนรัก ในจังหวะที่กำลังครุ่นคิดว่าต่อไปตนเองคงต้องเป็นฝ่ายยอมก้มหน้าเอาใจให้พระเอกก่อนล่ะมั้ง แต่จู่ๆ พระเอกก็มาหาและบอกว่า ไม่ว่าสถานการณ์ใดตนเองก็ไม่ต้องการให้นางเอกลดตัวทำเสียงอ่อน หรือทำให้ตัวเองต้องน้อยเนื้อต่ำใจ....(เหมือนรู้อะว่านางเอกกำลังคิดอะไร อ่านใจเก่ง ก็คนมันรัก) นางเอกถึงได้ตระหนักว่าความจริงแล้วในความสัมพันธ์นี้ ฝ่ายที่ยอมถอยและค้อมต่ำกว่ามาตลอดก็คือพระเอกต่างหาก ...

มีอีกตัวละครที่ออกมาตอนครึ่งเล่มสามแต่ปังมากกคือ...เยวี่ยเฟยเองจ้า ออกมาครั้งแรกก็สยบทุกคนเรียบร้อย ฉากตอนงานกินเลี้ยงภายในครอบครัวแล้วมีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของฮ่องเต้ถือวิสาสะมาแจมเพราะอยากเห็นหน้านางเอกอะ เจอเยวี่ยเฟยไล่จัดการเฉือนไปทีละคนตั้งแต่องค์หญิง องค์ชาย ราชบุตรเขย นั่งหน้าซีดกันหมด ไม่มีใครกล้าขัด เจ๋งมากก แต่อ่านจบเล่มสามแล้วไม่ค่อยค้างเท่าไรนะ ตัดจบได้แบบกำลังดี เนื้อเรื่องสนุกมาก ไม่มีตอนไหนที่น่าเบื่อเลย เรื่องความรักความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวแต่ละบ้านก็เขียนดี เรื่องสงครามก็เข้มข้น แปลดีอ่านลื่น จบเล่มสามพี่ใหญ่กับพี่รองมีคู่เป็นของตัวเองและ ส่วนนางเอกกับแม่ก็มีปะทะกันแรงๆ แค่เล่มแรกเรื่องโต๊ะ หลังจากนั้นแม่ก็ไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว มีเหล่าลูกชาย สามี อาสะใภ้สามคอยจับตาดูไม่ให้แม่ลำเอียงอยู่ แต่แม่ก็ยังต้องรับบทโหดอยู่บ้างเพราะพ่อขอ55 ขอให้แม่รับบทร้ายส่วนตัวเองรับบทคนดี (พ่อนี่แหละร้ายสุด55) แต่ความสัมพันธ์ของแม่กับนางเอกก็ค่อยๆ ดีขึ้นแหละ เหมือนเข้าใจกันเองไปโดยปริยาย ตอนต้องไปเรียนกับฮองเฮาในวังนางเอกก็ไม่ค่อยอยากไป ไม่อยากเข้าวังเพราะกฏระเบียบเยอะ แต่พอรู้ว่าไปแบบเช้าเย็นกลับได้เหมือนไปทำงาน แถมสิบวันหยุดได้ครั้งนึงก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย ยังดีกว่าให้พักอยู่ในวังเลย ส่วนกับย่านางเอกคือไม่เอาไม่เข้าหาเลย ไม่ให้อภัยแต่ไม่พูด เพราะรู้สึกว่าย่าก็มีส่วนในเรื่องที่อาสะใภ้รองทำ ...


📍ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1-3 ➡️ https://s.shopee.co.th/7KowEPGHOS



วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 4 เล่มจบ


ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 4 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying)
ผู้แปล : Hanza
ปก : Leila
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ฮวาหลิวหลี บุตรสาวคนเล็กของแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินฮวาอิ้งถิง แม่ทัพใหญ่ที่ปักหลักทำศึกปกป้องบ้านเมืองอยู่ที่ชายแดน ตระกูลฮวามีแต่บุตรชาย นางเอกที่เป็นบุตรสาวคนแรกและคนเดียวของตระกูลในรอบสามรุ่นจึงเป็นเสมือนไข่มุกของบ้าน บวกกับที่ร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เกิด คนในครอบครัวจึงยิ่งตามใจรักใคร่เอ็นดูประหนึ่งสมบัติล้ำค่า นางเอกเลยมีนิสัยเอาแต่ใจอยู่บ้างและมีฝีมือในการแสดงยืนหนึ่ง โดยเฉพาะบทคนงามผู้อ่อนแอขี้โรค...

เวลามีปัญหาหรือมีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องพูดเยอะ ไม่ต้องใช้กำลังจัดการ แค่แสร้งไอโขลกๆ สองสามทีหรือแสดงท่าทางอ่อนแอน่าสงสาร เพียงเท่านี้ทุกอย่างก็คลี่คลายหมดเรื่องแล้ว ...ใครว่าร่างกายอ่อนแอเป็นเรื่องไม่ดี ถ้าใช้ดีๆ ก็สามารถแก้ปัญหาได้มากมายและเบาแรงไปได้เยอะเลยนะ มิติใหม่แห่งวงการนางเอก สู้ด้วยการไอ 55... แถมนางยังเป็นคนดวงดีแบบสุดๆ เพราะเกือบจะตายหลายทีแต่ก็มีเหตุให้รอดมาได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้ง และบางครั้งการกระทำโดยไม่ตั้งใจของนางเอกก็ยังช่วยให้คนอื่นรอดพ้นจากความตายโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย ดวงดีมากถึงขนาดโดนคนหมายหัวอยากกำจัดอะ 55

นางเอกเรื่องนี้อาศัยอยู่ที่ชายแดนมาตั้งแต่เกิด พออายุ 15 พ่อแม่ซึ่งเป็นแม่ทัพจะวางมือแล้ว เลยส่งนางเอกกับพี่ชายคนที่สามกลับมาเมืองหลวงก่อน ระหว่างทางก็ได้เจอกับขุนนางฝ่ายบุ๋นที่ถูกลงโทษเพราะเรื่องที่ยื่นฎีการ้องเรียนใส่ความบ้านนางเอก พอนางเอกรู้ก็กะจะแกล้งแหละ แต่ไปๆ มาๆ ดันกลายเป็นการช่วยให้อีกฝ่ายรอดพ้นจากการถูกวางยาพิษซะอย่างนั้น... พอมาถึงเมืองหลวงได้ไม่นานก็ถูกเรียกตัวเข้าวัง และได้ช่วยรัชทายาทหรือพระเอกให้รอดพ้นจากการถูกลอบฆ่าอีก แถมยังได้ช่วยคุณชายสกุลหนึ่งจากการถูกคนลอบสังหารด้วย คือแบบโชคดีมากกกเวอร์ ...

ส่วนพระเอกเป็นรัชทายาท เป็นลูกที่ฮ่องเต้โปรดปราน (ฮ่องเต้เรื่องนี้ดีรักลูกทุกคน แต่รักพระเอกมากกว่าหน่อย 55) พระเอกไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับสตรีคนไหน ไม่มีใครกล้าทอดสะพานหรือกล้าเข้าใกล้เพราะเกรงกลัวความปากร้ายของพี่แก ... แต่นางเอกคือคนแรกและคนเดียวที่ทำให้พระเอกต้องแหกกฎของตัวเอง จากที่เคยพูดว่าเห็นเขาเป็นแค่น้องสาว มองเขาเป็นเจ้าลูกแมวน้อยที่มีร่างกายอ่อนแอบอบบาง ตอนพ่อถามก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไรจริงจริ๊งงง ทว่าตั้งแต่เมื่อไรก็ม่ายรู้ที่ความรู้สึกค่อยๆ เปลี่ยนไป ยิ่งตอนที่ได้รู้ว่านางเอกไปดูนักดนตรีหนุ่มรูปงามแสดงที่โรงมหรสพเท่านั้นแหละ..พี่ก็สั่งให้คนไปตรวจสอบและจัดระเบียบโรงมหรสพใหม่เดี๋ยวนั้นเลยจ้า แล้วก็ออกกฎห้ามไม่ให้นักดนตรีหรือนักแสดงชายรับแขก(สตรี) เพียงลำพังด้วยนะจ๊ะ ....ต่อจากนั้นก็กลับมาบอกพ่อว่าอยากเป็นเดรัจฉานมากกว่า ไม่อยากเป็นพี่ชายแล้ว 55 ...

แต่ตอนนั้นนางเอกยังไม่ได้ชอบพระเอกแบบคนรัก ยังเห็นพระเอกเป็นพี่ชายรูปงามผู้น่าสงสารที่กำลังเศร้าเพราะคิดถึงคนรักที่ตายจากไปเท่านั้น (นางเอกเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกมีคนที่รักอยู่แล้ว) อีกทั้งตัวนางเอกก็ไม่ได้คิดจะแต่งงานออกเรือนกับใครด้วย ความฝันในอนาคตของนางคืออยากจะเป็นคนงามผู้อ่อนแอขี้โรคที่ถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ และอยากเลี้ยงชายบำเรอที่หน้าตาดีว่านอนสอนง่ายเอาไว้ข้างกายสัก 1-2 คน ... แต่พอพระเอกรู้ก็ขอให้นางเอกรับปากว่าจะไม่เลี้ยงชายบำเรอจนกว่าจะอายุ 20 ...(กลัวนางเอกจะหาชายบำเรอมาเลี้ยงได้ก่อนตนเองจะจีบสำเร็จ 55)

พระเอกสายเปย์ เย็นชากับคนอื่นแต่ใจดีอ่อนโยนกับนางเอกแค่คนเดียว รู้ว่านางเอกยังไม่คิดอะไรกับตัวเอง ยังเป็น friend zone กันอยู่ก็ยังไม่สารภาพความในใจ แต่ไปบอกพ่อเรียบร้อยแล้วนะว่าชอบคนนี้ นี่แหละว่าที่ลูกสะใภ้ แล้วก็คอยชวนนางเอกไปนู่นมานี่หรือถ้ารู้ว่านางเอกจะไปไหน พระเอกก็จะตามไปที่นั่นด้วย มีอาหารขนมอร่อยๆ คอยเตรียมเอาไว้ให้นางเอกกินเสมอ เวลาจะเดินก็คอยจับมือเพราะรู้ว่านางเอกไม่แข็งแรง นางเอกจะทำอะไรก็สนับสนุน แบบอยากทำอะไรทำเลย ไม่ชอบใครก็จัดไป มีอะไรเดี๋ยวพี่เคลียร์เอง ...

ส่วนนางเอกก็เป็นคนฉลาดเฉลียว ช่างสังเกต  สบายๆ ไม่คิดมาก แถมยังมีวรยุทธ์ด้วยนะ (ไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิดนะจ๊ะ อิอิ)  แม้จะเจ้าเล่ห์ซุกซนแต่ก็ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น (แต่ถ้าใครมาว่าหรือพูดจาใส่ร้ายครอบครัวนางเอก อันนี้ก็อีกเรื่องนะ) ไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อน นางก็อยู่ของนางดีๆ มีแต่คนอื่นนั่นแหละที่ชอบมาหาเรื่องและชอบมาแขวะนางก่อน แต่ก็เจอนางเอกแกล้งโง่ใส่แถมด้วยการแสดงระดับดราม่าควีนเข้าไป สุดท้ายก็พ่ายแพ้กลับไปเองทุกราย เพราะภาพลักษณ์ของนางเอกคือหญิงสาวอ่อนแอขี้กลัว ขี้โรค ดังนั้นถ้านางเอกแสร้งเป็นลม บังเอิญล้ม หรือได้รับความตกใจจน(แกล้ง)เจ็บป่วยใดๆ คนทำก็เตรียมตัวซวยได้เลย เรื่องไปถึงหูฮ่องเต้หรือพระเอกเมื่อไร ตายยย! เพราะฮ่องเต้เรื่องนี้ให้ท้ายบ้านนางเอกสุดๆ 55 ปกติคนเป็นฮ่องเต้จะต้องระแวงพวกแม่ทัพเก่งๆ ใช่ปะ แต่เรื่องนี้ตรงข้ามเลยจ้า เขารักกันดี 55

พระเอกเรื่องนี้จีบเก่งหยอดเก่งมากก พระ-นางมีโมเมนต์อยู่ด้วยกันบ่อย ฉากหวานๆ มีเยอะ เวลาไทเฮาให้นางเอกเข้ามาพักในวัง พระเอกก็จะแวะเวียนมาหา+มาชวนนางเอกไปกินข้าวด้วยกัน แต่ถ้านางเอกอยู่ข้างนอกหรือไปเที่ยวไหน พระเอกก็จะหาข้ออ้างออกจากวังแล้วไปหาถึงที่เอง แรกๆ นางเอกก็ไม่รู้ตัวหรอก ความรู้สึกช้า แต่คนรอบข้างคือดูออกกันหมดแล้วว่าพระเอกคิดยังไง ... หลังๆ นี่ไม่ได้มีแต่ผู้ชายเท่านั้นนะที่ชอบนางเอก ผู้หญิงก็ชอบเหมือนกัน (เชื้อไม่ทิ้งแถวเหมือนแม่เปี๊ยบ แม่นางเอกเป็นแม่ทัพหญิง ป๊อปทั้งในหมู่บุรุษและสตรี มีแต่คนชอบ)

นอกจากเรื่องรักๆ ของพระนางก็ยังมีเรื่องการเมืองการชิงบัลลังก์ และการสืบหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังการลอบทำร้ายพระ-นาง ใส่ร้ายตระกูลนางเอก คนที่คอยกวนน้ำให้ขุ่นสร้างความวุ่นวายต่างๆ นานาอะ ดูเยอะอยู่นะ แต่ก็ไม่ได้เจ้มจ้นหรือมีดราม่าอะไร ถ้าใครชอบอ่านอะไรเบาๆ เรื่อยๆ ตลกๆ ไม่เครียดไม่หนักก็น่าจะชอบ ฮ่องเต้ก็ชิลดี ชอบฮ่องเต้เรื่องนี้ตรงที่รักลูกทุกคนเลย ไม่หวงอำนาจหรือกั๊กบัลลังก์เอาไว้ไม่ยอมปล่อยให้ลูกสักที แต่นี่คืออยากยกบัลลังก์ให้ลูกนานแล้ว แต่ลูกดันไม่อยากได้ ยังไม่อยากทำงานหนัก เลยสนับสนุนให้พ่อเป็นฮ่องเต้ต่อปายย (เออแบบนี้ก็มีนะ 55) จะให้พระเอกมาช่วยตรวจฎีกาทีคือต้องเอาเรื่องกำหนดวันแต่งกับนางเอกมาขู่ ขู่ว่าถ้าไม่มาช่วยเดี๋ยวจะเลื่อนงานแต่งออกไปนะ 55

📍ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 4 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/8V13DBuTne





วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 8-9

 


หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 8-9 (10 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย
ผู้แปล : Honey Toast
สำนักพิมพ์ แจ่มใส 

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

สองเล่มนี้มีเรื่องที่คาดไม่ถึงมาให้ลุ้นและตกใจเยอะมาก เช่นเรื่องคุณหนูเจียงกับผู้บัญชาการกององครักษ์จินหลินT^T เรื่องที่มาของอนุอารองนางเอก เรื่องพี่สาวคนละแม่นางเอก และเรื่องชาติกำเนิดของพระเอก สนุกไม่แผ่วจริงๆ (ไม่ได้โม้) อ่านมาถึงตอนนี้ยังไม่มีเล่มไหนดรอปเลย ไม่เอื่อย ไม่มีออกทะเล สนุกทุกเล่ม(สำหรับเรานะ) พี่สาวคนละแม่ของนางเอกก็ทุ่มสุดตัวจนได้เป็นอนุรุ่ยอ๋อง แต่คนที่บ้านไม่เห็นด้วยเพราะไม่มีค่านิยมให้ลูกหลานไปเป็นอนุใคร ต่อให้อีกฝ่ายจะใหญ่โตเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ก็เถอะ แต่พี่สาวคนนี้อิจฉานางเอกมากกกแบบไม่ลืมหูลืมตา อะไรก็ไม่สนแล้ว วินาทีนี้ขอแค่วันหน้าได้มีตำแหน่งสูงกว่าและสามารถเหยียบย่ำนางเอกได้ก็เป็นพอ ขนาดตอนจะคลอดลูกอาการร่อแร่ปางตายก็ยังไม่ลืมลากนางเอกมาเดือดร้อนให้ตายตกตามกันไปด้วยอีกน้อ ...กู่ไม่กลับแล้วจริงๆ

ในเล่ม 8 มีคณะทูตจากซีเจียงมาถวายของบรรณาการ องค์หญิงซีเจียงก็หาเกมมาประชันกับเหล่าสตรีชนชั้นสูงของต้าเหลียงเพื่อคิดจะหักหน้าโชว์ความเหนือ (ก็แน่ล่ะ เล่นเตรียมตัวฝึกซ้อมเตรียมคนมาอย่างดี วางแผนกันมาเรียบร้อย ขณะที่ฝั่งแคว้นนางเอกนึกว่ามากินเลี้ยงเฉยๆ) แต่สุดท้ายก็เจอนางเอกพลิกเกมกลับ อ๋องจากซีเจียงเห็นนางเอกมีหน้าตาคล้ายนางรำในวังของตนก็คิดจะวางแผนสับเปลี่ยนเอาตัวคนไปอีก (ชีวิตนางเอกนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ นะ 55) .. ต่อมาพระเอกก็ถูกเปิดโปงเรื่องชาติกำเนิด ฮ่องเต้เลยมีรับสั่งให้จับขังคุก นี่ถ้าไม่ติดว่าในเวลานี้พระเอกเป็นแม่ทัพเพียงคนเดียวที่สามารถกำจัดพวกต๋าจื่อได้ล่ะก็ พี่แกก็คงได้ถูกประหารตายไปแล้วแหละ...

ฝั่งคณะทูตซีเจียงก็ยิ้มร่า ไม่ต้องลงแรงเองฮ่องเต้ของต้าเหลียงก็จัดให้แล้ว (พวกซีเจียงก็กำลังวางแผนคิดจะกำจัดพระ-นางอยู่เหมือนกัน เพราะนางเอกฉลาดเกินไปส่วนพระเอกก็รบเก่ง เกรงว่าถ้าปล่อยสองคนนี้ไว้ วันหน้าอาจจะเป็นภัยต่อแคว้นตัวเอง) ขณะที่ถูกขังคุกพวกชาวต๋าจื่อก็บุกมา ฮ่องเต้เลยมีพระราชโองการให้พระเอกออกจากคุกเพื่อไปรบเดี๋ยวนี้ แต่คราวนี้พระเอกไม่ยอมง่ายๆ จะไม่ยอมเป็นเม็ดหมากให้ฮ่องเต้จับวางหรือฆ่าได้ตามใจชอบอีกต่อไป...จนสุดท้ายฮ่องเต้ก็ต้องยอมตามที่ขอ ....หลังจากที่พระเอกไปรบนางเอกก็ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายของอาสะใภ้รองจนสามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง แต่ตอนแรกไม่มีคนเชื่อ แล้วมีคนเอาข่าวเรื่องนี้ไปปล่อย นางเอกเลยโดนคนถล่มยับ เพราะขนาดหมอเก่งๆ ยังตรวจไม่เจอแล้วนางเอกอายุแค่เท่านี้รู้ได้ไง พอครบหนึ่งเดือนตรวจใหม่เท่านั้นแหละ...หลังจากวันนั้นบ้านนางเอกก็คึกคักขึ้นมาทันที เพราะมีแต่คนแห่มาขอให้นางเอกช่วยเรื่องตั้งครรภ์ คนที่เคยด่าเคยเขม่นบ้านนางเอกเอาไว้ก็ถึงขนาดยอมลดตัวลงมาคุกเข่าขอร้องกันเลยทีเดียว ...

แล้วก็มีเรื่องที่นางเอกถูกลักพาตัวถูกทรมานเกือบตาย พระเอกกลับมาคราวนี้เลยอยากรีบแต่งอยากรีบเอานางเอกมาไว้ข้างตัว เพราะไม่อาจไว้วางใจให้ใครอื่นนอกจากตัวเองปกป้องนางเอกได้อีกแล้ว แต่เพราะเรื่อง...และที่สำคัญคือเขายังไม่ปักปิ่นเลยคุณพี่ พระเอกเลยต้องร้องเพลงรอต่อปายยย ซึ่งขณะที่พระเอกยังไม่ได้กลับมาจากสนามรบ ฮ่องเต้ก็บังเอิญได้ยินข่าวว่านางเอกกำลังล้มป่วย จึงคิดจะให้นางเอกป่วยหนัก(ตาย)จริงๆ เพราะอยากได้พระเอกเป็นราชบุตรเขย ก็เลยส่งคนไปวางยานางเอกจ้า..#×+*&%฿%^ โอ๊ยยย เป็นไรมากปะเนี่ย (อยากเชียร์ให้พระเอกก่อกบฏจัง) แต่มีคนเอาข่าวไปบอกนางเอกก่อน แล้วไม่นานพระเอกก็วางแผนจนทำให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ตัวเองกับนางเอกได้สำเร็จ...เย้ๆ

เหลืออีกเล่มเดียวแต่ยังไม่รู้เลยว่าบอสใหญ่ตัวจริงคือใคร แล้วลูกประคำในมือนางเอกมีความหมายว่ายังไง ตกลงยี่สิบปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง มือมืดที่วางยาหวังกำจัดทายาทคนสุดท้ายของตระกูลเฉียวหรือพี่ชายนางเอกเป็นใคร รวมถึงเรื่องที่ตระกูลแม่ทัพใหญ่ถูกประหารเมื่อ 20 ปีก่อน เรื่องการตายของคนในบ้านนางเอก และคนที่ทำให้นางเอกต้องตกอยู่ในกำมือพวกชาวต๋าจื่ออีก ทั้งหมดนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกับกบฏหลิ่งหนานหรือเปล่า ....เยอะแยะไปหมด อยากอ่านเล่มสุดท้ายแล้ววว


📍หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม 10 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/8V13DR1Txy




วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน 3 เล่มจบ


คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : เข่อเล่อเจียงทัง
ผู้แปล : เสี่ยวหวา
ปก : Renmalis
สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอกเป็นบล็อกเกอร์สายอาหารที่ทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณ ในร่างของ เจียงซูเหย่า บุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอกของจวนเซียงหยางปั๋ว พอลืมตาตื่นขึ้นมายังไม่ทันได้สอบถามเรื่องราวความเป็นมาของร่างเดิม ก็ถูกยัดใส่เกี้ยวต้องแต่งงานกับพระเอกซะแล้ว พระเอก เซี่ยสวิน เป็นบุตรชายคนที่สามของเซี่ยกั๋วกง หรือทั่นฮวาหนุ่มสุดหล่อรูปงาม มากความสามารถ ที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ บุรุษที่สาวๆ ทั่วทั้งเมืองต่างหมายปองอยากได้เป็นสามี แต่กลับถูกเจ้าของร่างนี้เล่นลูกไม้สกปรกทำให้อีกฝ่ายต้องส่งคนมาสู่ขอและแต่งงานด้วยความไม่เต็มใจ นอกจากจะใช้แผนให้ได้แต่งงานกับพระเอกแล้ว เจ้าของร่างเดิมก็ยังมีชื่อเสียงฉาวโฉ่จนเป็นที่เลื่องลือ จึงทำให้เป็นที่รังเกียจของสามี บ้านสามี และใครต่อใครอีกมากมาย ทว่าอะไรๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อนางเอกเข้ามาอยู่ในร่างนี้...

ด้วยความเป็นคนชอบทำอาหาร ชอบกินของอร่อย แต่ต้องมาเจออาหารยุคโบราณที่จืดชืดและมีวิธีการปรุงเพียงไม่กี่วิธี นี่มันคือโศกนาฏกรรมสำหรับสายกินชัดๆ  นางเอกเลยรีบไปขออนุญาตทางเรือนใหญ่เพื่อจะได้เปิดห้องครัวเล็กไว้ที่เรือนตัวเอง จะได้เข้าครัวทำของกินได้สะดวกๆ ตอนแรกเรือนใหญ่จะไม่ให้เพราะเห็นว่าสิ้นเปลือง แต่นางเอกบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวควักตังค์จ่ายเอง ฝ่ายนั้นก็เลยให้เปิด (บ้านฝั่งแม่นางเอกรวยมากกก เป็นวานิชที่รวยที่สุดในแคว้น)

เรียกได้ว่ามีอาหารเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ เพราะอาหารนี่แหละจึงทำให้ผู้คนหายอคติและอยากผูกมิตรเข้าหานางเอก เริ่มจากหลานแฝดตัวน้อย และก็ตามด้วยพระเอกหรือสามีที่นอนแยกห้องกันตั้งแต่คืนวันเข้าหอ เดิมฮองเฮาคิดจะมอบสมรสพระราชทานให้พระเอกแต่งกับนางเอกตามคำขอของป้านางเอกที่เป็นกุ้ยเฟย พอพระเอกรู้ก็เลยชิงไปสู่ขอก่อน เพราะถ้าได้สมรสพระราชทานมาจะทำให้ขอหย่าไม่ได้ พอแต่งมาพระเอกเลยมีท่าทีเย็นชาไม่สนใจเมีย แยกกันอยู่คนละห้อง ...แต่พอได้ชิมอาหารฝีมือนางเอก ได้เห็นหลานชายตัวน้อยคอยตามเกาะติดนางเอกเหมือนหางน้อยๆ พระเอกก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองความคิดที่มีต่อเมียใหม่ แต่ในเวลานั้นนางเอกยังไม่ได้คิดอะไร แค่อยากได้คนช่วยกินและกำจัดอาหารไม่ให้เหลือทิ้งเท่านั้น เพราะเห็นหล่อๆ เย็นชาแบบนี้แต่ความจริงพระเกกินจุมากกกกเด้อ ยิ่งพอได้ลิ้มรสอาหารที่นางเอกทำ พระเอกก็แทบกินอาหารที่อื่นไม่ได้อีกเลย ติดใจฝีมือเมียแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไปทำเย็นชาเมินใส่เขาไว้เยอะ เลยไม่กล้าร้องขอให้เมียทำอาหารให้ หรือจะบอกให้ช่วยทำข้าวกล่องไปกินที่ทำงานให้หน่อยก็ไม่กล้า ...โถถถถ

หลังจากนั้นเวลาได้ยินเมียเรียกไปกินข้าว หรือให้ชิมของอร่อยพระเอกก็จะยิ้มหน้าบาน เพื่อนสนิทที่ทำงานในตำหนักบูรพาด้วยกันเห็นพระเอกกินของแปลกๆ ก็ขอชิมบ้าง แล้วก็โดนตกไปอีกราย ต้องคะยั้นคะยอขอร้องให้พระเอกพาไปกินข้าวที่จวนหน่อย (นี่ก็คุณชายตระกูลดังเหมือนกันนะ) ...หลังๆ ไม่ได้มีแต่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่ติดใจอาหารของนางเอก เพราะหลังๆ นี่ยกมากันทั้งที่ทำงาน รวมไปถึงรัชทายาทที่เป็นเจ้านายก็มาขอร่วมวงด้วย 55 ...เพราะอาหารในที่ทำงานจืดชืดมากแถมยังเย็นชืด เวลาพระเอกห่อข้าวมาเลยมีแต่คนคอยจ้องและอิจฉา เพราะนางเอกให้คนทำกล่องอาหารแบบยุคปัจจุบัน แบบที่เวลากินสามารถอุ่นให้ร้อนได้ให้พระเอกเอาไปใช้ แถมอาหารยังมีรสเผ็ดจัดจ้านหลากหลายแปลกตา และที่สำคัญคืออร่อยมากกก ยิ่งกินยิ่งหิว...

ทว่านอกจากเรื่องทำอาหารก็ยังมีเรื่องการค้า นางเอกเห็นว่าแม่ไร้ชีวิตชีวาดูหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ต้องเป็นทุกข์จากเรื่องที่สามีมีอนุเยอะ จนทำให้ไม่อยากอาหาร แล้วบังเอิญว่าแม่ก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ นางเอกเลยไปปรึกษาพระเอก พอรู้ว่าในอดีตแม่ชอบค้าขาย (เป็นลูกพ่อค้าวานิช) ก็เลยอยากให้แม่ได้กลับไปทำในสิ่งที่ชอบอีกครั้ง เลยออกไอเดียให้เปิดร้านอาหาร แต่แม่ปฏิเสธเพราะไม่อยากให้ลูกซ้ำรอยตัวเอง พระเอกเลยไปคุยกับแม่ยายใหม่ อธิบายจนแม่คล้อยตาม พร้อมคุกเข่าขอโทษที่ก่อนหน้านี้เคยทำไม่ดีหมางเมินนางเอกไป สัญญาว่าต่อแต่นี้ตนจะปกป้อง จะทำดี จะรักทะนุถนอมนางเอกผู้เป็นภรรยาไปชั่วชีวิต

แม่นางเอกเลยกลับมาทำการค้าใหม่ มีแรงใจในการใช้ชีวิตอีกครั้งเพราะได้ทำในสิ่งที่รัก ไม่ต้องหมกมุ่นทุ่มอยู่กับการฟาดฟันเมียเล็กเมียน้อยในเรือนหลังอีก นางเอกก็ได้คิดค้นปรับปรุงสูตรอาหารใหม่ๆ ไปขาย แต่ไม่ได้ขายเพื่อหวังรวยนะ ขายเพื่อให้คนชั้นล่างชาวบ้านทั่วไปได้กินของอร่อยที่ร้อนๆ และอิ่มท้องราคาไม่แพง ร้านแรกเปิดขายให้กับชาวประมงที่ท่าเรือ เพื่อนที่ทำงานพระเอกซึ่งเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์พอรู้ข่าวก็ปลอมตัวใส่เสื้อผ้าธรรมดาไปกินด้วย (ตลกอะ คือมา 7 คน แยกกันมาไม่ได้นัดกันด้วย แต่ดันใส่เสื้อผ้าสีเหมือนกันแบบเดียวกันมาเป๊ะ มองไกลๆ เหมือนกลุ่มแฝดยักษ์ 7 คน 55) แล้วต่อมาก็ไปทำย่านของกินเล่น มีร้านขายอาหารพวกของกินเล่นมากมายให้เลือกกิน อารมณ์ street food อะ พระเอกก็คือดีมาก เมียอยากทำอะไรก็สนับสนุนคอยช่วยเสมอ เพื่อนหรือคนรอบตัวจากที่เคยเห็นใจที่พระเอกต้องมาแต่งกับสตรีชื่อเสียงฉาวโฉ่ หลังๆ ก็เริ่มมาเลียบๆ เคียงๆ ถามว่านางเอกยังมีน้องสาวไหม พากันอิจฉาพระเอกที่ได้กินแต่ของอร่อยทุกวัน 55

แถมอาหารของนางเอกก็ยังช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคนในบ้านดีขึ้นด้วย ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตใครหลายคน รวมถึงช่วยสลายความคับข้องหมองใจระหว่างคนในครอบครัว ทำให้บรรยากาศที่บ้านดีขึ้น เรือนพระเอกก็กลายเป็นศูนย์กลางที่ทุกคนชอบมารวมตัวกัน ทำให้พระเอกเริ่มกลุ้มเพราะเมียเป็นที่รักของคนอื่นมากเหลือเกิน มีแต่คนต้องการตัวอยากคบหา พระเอกเลยไม่ได้เป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้กินอาหารที่เมียทำอีกแล้ว ...ฮือๆๆ มันน่าน้อยใจจริงๆ หวงเมียแต่ไม่กล้าพูด แต่นางเอกก็รู้แหละ เวลาทำอาหารอะไรก็ต้องมีส่วนของพระเอกเอาไว้เสมอ ชามใหญ่ด้วยเพราะรู้ว่าพระเอกกินจุ ...

เป็นนิยายฟิลกู้ด เน้นไปที่การทำอาหารและการค้าของนางเอก แนวความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ย่อยง่าย อ่านแล้วอิ่มใจ ถ้าใครชอบแนวปลูกผักทำอาหารน่าจะชอบเรื่องนี้เลยแหละ หรือใครที่กำลังเขียนนิยายจีนโบราณแนวทำอาหารอาจจะลองเอาเรื่องนี้ไปเป็นไกด์ดูก็ได้นะ ครบเครื่องมากทั้งส่วนผสม วิธีการทำ เครื่องปรุง มีบรรยายรสสัมผัสเมื่อเอาเข้าปาก แบบแทบจะได้กลิ่นออกมาจากหนังสืออยู่แล้ว อ่านไปหิวไป ไม่แนะนำให้อ่านตอนกลางคืนนะ เพราะจะหิวมากกก 55 ...

มีฉากขำๆ อยู่หลายตอน อย่างตอนที่พระเอกต้องตามรัชทายาทไปทำงานที่ต่างเมือง พระเอกก็เศร้าโศกเสียใจที่ต้องห่างเมียและจะไม่ได้กินของอร่อยหลายวัน ทำหน้าเศร้าซึมจนนางเอกถาม พอรู้เลยเข้าครัวไปทำน้ำปรุงรสที่ไว้คลุกกินกับข้าว หรือเอาไปปรุงใส่กินกับอาหารแบบไหนก็อร่อยให้พระเอกติดตัวไปด้วยตอนเดินทาง พอพักกินข้าวพระเอกก็เอาออกมาคลุกผสมกับเส้นหมี่กิน แล้วทุกคนก็มอง พระเอกเลยต้องเอาไปคลุกในอาหารให้ทุกคนลองกิน นับแต่นั้นน้ำปรุงรสก็กลายเป็นของส่วนกลางต้องเอาออกมาแบ่งกันกินทุกมื้อ 55
มีตอนที่รัชทายาทถูกลอบทำร้าย คนที่ถือกระบอกน้ำปรุงรสตกใจเลยโยนกระบอกน้ำปรุงรสออกไป พอจัดการคนร้ายได้ทุกคนก็มารุมต่อว่าโวยวายบอกว่าโยนกระบอกน้ำปรุงรสออกไปทำไม แล้วขากลับจะกินอะไร จะอยู่กันยังไงห๊า!!!...โคตรฮา

ป.ล. มีดราม่านิดหน่อยเป็นเรื่องของคู่พี่คนรองพระเอก
ป.ล.ไม่มี nc พระเอกสุภาพบุรุษมาก (ถ้านางเอกไม่เริ่มรุกจูบก่อน สงสัยคงได้นอนจับมือกันไปอีกนาน 55)


📍คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน 3 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/3fvnWkXNEC








วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

สเก็ตหัวใจไปหยุดที่เธอ 2 เล่มจบ + เล่มพิเศษ

 


สเก็ตหัวใจไปหยุดที่เธอ 2 เล่มจบ + เล่มพิเศษ  
ผู้แต่ง : 
จิ่วเสี่ยวชี (Jiu Xiao Qi)
ผู้แปล : จิ้งจอกธารา
สำนักพิมพ์ ไป่เหอ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

สมัยประถมนางเอก ถังเสวี่ย เป็นอันธพาลเอ้ย!! เป็นขาใหญ่ของห้องเรียน เรียนไม่เก่งแต่เป็นลูกครูใหญ่เลยได้อภิสิทธิ์นั่งโต๊ะติดกับเด็กเรียนที่เก่งที่สุดของระดับชั้น หลีอวี่ปิง พระเอกของเรา สมัยเด็กพระเอกตัวเล็กดูอ่อนแอน่าแกล้ง เลยมักถูกเพื่อนข้างโต๊ะหัวโจกประจำห้องอย่างนางเอกกลั่นแกล้งรังแกอยู่เป็นประจำแทบทุกวันตั้งแต่ ป.1 ยัน ป.6 แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายพระเอกจึงรู้สึกว่าการถูกผู้หญิงในห้องเรียนแกล้งเป็นเรื่องน่าอาย เลยไม่เคยบอกพ่อแม่หรือใครๆ ส่วนนางเอกก็เห็นพระเอกเป็นดั่งลูกกะจ๊อกของตัวเอง ทั้งไถตังค์ค่าขนม แย่งของกิน บังคับขู่เข็ญให้พระเอกทำสิ่งต่างๆ โดยไม่เต็มใจ ทว่าด้วยความเด็กน้อยอะเนาะ นางเอกก็เลยนึกว่าตัวเองกับพระเอกเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน (เธอออ แกล้งเขาขนาดนั้นเลยนะ) ตกลงกันว่าพอจบป.6 แล้วเราจะไปเรียนมัธยมต้นที่เดียวกันนะ ปรากฏว่าพอถึงวันเปิดเทอมพระเอกกลับชิ่งไปเรียนที่อื่นโดยไม่บอก ปล่อยให้นางเอกรอเก้อและเข้าใจผิด...แต่พอ 6 ปีผ่านไปทั้งสองคนก็ได้กลับมาเจอกันใหม่และกลายเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน...

หกปีที่เรียนมัธยมทั้งสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก ต่างฝ่ายต่างไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง นางเอกก็ไปมีลูกกะจ๊อกลูกสมุนใหม่คอยติดตาม มาเจอกันอีกทีตอนนางเอกไปยื่นใบสมัครงานพาร์ตไทม์ของทางมหาวิทยาลัย เป็นงานที่ทำอยู่ในลานสเก็ตน้ำแข็งเพราะนางเอกอยากเล่นสเก็ตฟรี (นางเอกเคยเล่นสเก็ตมาก่อนแต่มีเหตุที่ทำให้ต้องเลิกไป) ส่วนพระเอกก็กลายเป็นเทพปิงผู้หล่อเหลาเก่งกาจ ตัวสูงใหญ่ล่ำบึ้ก (สูง 188 ซม.เลยน๊า) เป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งรุ่นใหม่ที่ใครๆ ต่างคาดหวังและชื่นชม แถมยังมีกลุ่มแฟนคลับคอยตามกรี๊ดกร๊าดไม่ต่างจากดารา ...วันหนึ่งพระเอกบังเอิญไปเห็นใบสมัครงานของนางเอกเข้า เลยใช้เส้นสายพาคนมาเป็นเบ๊ เอ้ย! เป็นผู้ช่วยของตัวเอง กะจะเอาคืนเรื่องเมื่อสมัยเด็ก เดี๋ยวพี่จะใช้งานกลั่นแกล้งให้สาแก่ใจจนต้องร้องหาแม่เลยคอยดู..แต่ใช้ไปใช้มาก็ยังไม่อาจเปลี่ยนบทบาทจากฮองเฮากลับมาเป็นฮ่องเต้ได้ แถมนางเอกยังมีสนมที่โปรดปรานคนใหม่มาให้ฮองเฮาอย่างพี่ต้องว้าวุ่นใจและคอยตามหึงหวงอีก ...สุดท้ายนอกจากจะพลิกสถานะไม่ได้ ตัวเองก็ยังเป็นฝ่ายตกหลุมรักเขาก่อนอีกด้วย 55

ผลงานของผู้เขียนเรื่องช่วงเวลาอันแสนหวานเหล่านั้น เป็นแนวรักในรั้วมหาวิทยาลัยเหมือนกันแต่อันนั้นเป็นสายเกมเมอร์ ส่วนอันนี้เป็นแนวกีฬาบนลานสเก็ตน้ำแข็ง พระเอกเป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ส่วนนางเอกเล่นสปีดสเก็ตติ้ง ก่อนหน้านี้นางเอกเคยเลิกเล่นไปแล้ว แต่เพราะความพยายามผสมแรงผลักของพระเอก นางเอกถึงได้ตัดสินใจกลับมาลงสนามเล่นใหม่อีกครั้ง ทว่าในตอนแรกๆ ที่เข้าไปฝึกเพื่อนในทีมก็จะเขม่นไม่ค่อยพอใจนางเอกเท่าไรเพราะใช้เส้นเข้ามา แต่นางเอกก็ไม่สน คือขอนับถือความมั่นและการมองโลกในแง่ดีของเธอจริงๆ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก กล้าพูดกล้าทำ เปิดเผยตรงไปตรงมา เหมือนพระเอกช่วงเวลาอันแสนหวานในร่างผู้หญิง นิสัยคล้ายๆ กันเล๊ย แสบ กวนโอ๊ย หน้าหนา ใจใหญ่ มีพลังดึงดูดให้คนเข้าหาอยากติดตาม 

พระเอกก็ถูกความสดใสเปล่งประกายของนางเอกนี่แหละดึงดูดจนห้ามใจไม่ไหวและสุดท้ายก็ตกหลุมรัก แต่ตอนนั้นนางเอกยังเห็นพระเอกเป็นแค่ไอ้หมาปิงเท่านั้น 55 ...
"หลีอวี่ปิง ฉันขอเตือนนายไว้ก่อนเลยนะ นายห้ามตกหลุมรักฉันเด็ดขาด เราสองคนไม่เหมาะกัน คนกับหมาน่ะร่วมเส้นทางชีวิตไม่ได้หรอก"
น่าสงสารจริงๆ อยู่กับคนอื่นเป็นเทพปิง มีแต่คนยกย่องชื่นชม แต่อยู่กับนางเอกเป็นได้แค่ไอ้หมาปิง 55 ...เป็นแค่ฮองเฮาไม่มีสิทธิ์ต่อรอง ต่อให้ตอนนี้พระเอกจะสูงใหญ่หุ่นหมีแล้วก็ยังสู้นางเอกไม่ได้เหมือนเดิมอยู่ดี แต่ก่อนเป็นเพราะตัวเล็ก ส่วนตอนนี้เป็นเพราะรัก ขายขำกันทั้งเรื่องจริงๆ ตลกมาก นางเอกก็น่ารักแสบเหลือหลาย ถึงเธอจะชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ชอบแกล้งคนอื่นแต่อ่านแล้วทำไมโกรธไม่ลงก็ไม่รู้

มีดราม่านิดหน่อยคือเรื่องที่พระเอกชิ่งหนีไปเรียนต่อที่อื่น ซึ่งทำให้พ่อนางเอกโกรธมาก (บังอาจมาหลอกลูกสาวพ่อ) พอรู้ว่าลูกตัวเองไปคบกับพระเอกก็ไม่เห็นด้วย ไม่อยากให้คบกัน เพราะยังฝังใจกับเรื่องตอนนั้นอยู่ ส่วนนางเอกก็ไม่รู้เลยว่าที่พระเอกชิ่งไปตอนนั้นเป็นเพราะอยากตัดขาดหนีจากตัวเอง ยังนึกว่าเป็นเพราะสาเหตุอื่น ...แต่เป็นใครก็คงหนีอะนะเราว่าเจอแกล้งมาตั้งขนาดนั้น (ตั้ง 6 ปีเลยนะพี่) โดนไถตังค์ค่าขนมตลอด 6 ปีจนพระเอกต้องไปทำหวยใต้ดินเพื่อหาตังค์มาใช้อะเธอจ๋าาา ไหนจะหลอกให้เขาทำงานให้ พอจบงานก็เอาของรางวัลใหญ่ไปคนเดียวแล้วให้เขาแค่ยางลบดินสอถูกๆ และอีกมากมาย บลาๆ...แต่พอโตมานี่พลิกกลับเลยนะ พระเอกเป็นฝ่ายบอกนางเอกเลยว่าไม่ต้องไปแกล้งคนอื่นแล้วนะ ต่อไปถ้าอยากแกล้งก็ให้มาแกล้งตัวเองคนเดียวพอ 55 ...

เป็นแนวรักวัยเรียนวัยรุ่น เรื่องราวดำเนินไปพร้อมๆ กับการฝ่าฟันอุปสรรคบนเส้นทางความฝันของพระ-นาง เพื่อก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายแชมป์โอลิมปิกฤดูหนาว บอกเล่าเรื่องราวในวงการกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งของประเทศจีน พอพระเอกเริ่มดังมีชื่อเสียงจะทำอะไรก็มีแต่คนคอยจับตามอง ทุกย่างก้าวเป็นเงินเป็นทอง เล่นดีคนก็ชมเล่นพลาดไม่ดีคนก็ด่า แต่ไม่ว่าใครจะด่าว่าหรือบอกว่าผิดหวังในตัวพระเอกอย่างไร พระเอกก็ไม่แคร์ เพราะขอแค่นางเอกคนเดียวยังเชื่อมั่นในตัวเขาก็พอแล้ว ....พาร์ตความรักคือดีหวานมากเขินตัวบิด ได้ตังค์ค่าตัวมาพี่ก็ส่งบัตรให้นางเอกเก็บทันที อยากใช้อะไรก็ใช้นะ สายเปย์ แถมพี่แกยังมีแอคเคาท์ลับเอาไว้เพื่ออวดความคลั่งรักของตัวเองโดยเฉพาะอีกต่างหาก อิจฉานางเอก แฟนรักแฟนหลงสุดๆ ชาติที่แล้วไปกอบกู้กาแล็กซีมาใช่ไหมเนี่ยถึงได้แฟนดีขนาดนี้ อิจจจจ

ป.ล. แปลดี อ่านลื่น ใช้คำได้เหมาะมากกก 



📍สเก็ตหัวใจไปหยุดที่เธอ 2 เล่มจบ + เล่มพิเศษ ➡️ https://s.shopee.co.th/3LIx8Ex1sX




วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 6-7

 


หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 6-7 (10 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย
ผู้แปล : Honey Toast
สำนักพิมพ์ แจ่มใส 

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

จบเรื่องไฟไหม้ก็เดินทางสู่จุดหมายต่อไป แต่ระหว่างทางแวะพักเติมเสบียงกลับได้พบปัญหาใหม่ที่คาดไม่ถึง เมื่อทุกคนเริ่มสังเกตเห็นว่าเมืองท่าเล็กๆ ที่จอดพักแห่งนี้ไม่มีสตรีเลย สืบไปสืบมาถึงได้รู้ว่าเจ้าหน้าที่ทางการของที่นี่แอบส่งสตรีไปเป็นบรรณาการให้กับพวกวอโค่ว นางเอกกับสาวใช้ที่อยู่ในวัยกำลังโตจึงตกเป็นเป้า ถูกคนเพ่งเล็งคิดจะจับตัว แต่มีหรือพวกพระเอกจะยอม เลยเกิดการต่อสู้กัน คราวนี้ฝั่งนางเอกต้องเจ็บหนัก พระเอกบาดเจ็บมีเลือดคั่งในสมอง แถมยังถูกนางเอกปฏิเสธไม่รับรักอย่างเด็ดขาด เลยยิ่งทำให้สะเทือนใจกระทบกระเทือนจนถึงขั้นตาบอดเลยทีเดียว ...

พอตาบอดแล้วพระเอกก็ไม่ยอมบอกใครนอกจากลูกน้องคนสนิท แต่ผ่านไปแค่วันเดียวก็ถูกนางเอกจับพิรุธได้ซะแล้ว (คิดจะปิดใครไม่ปิด) ทว่าในความโชคร้ายก็ยังมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่ เพราะเรื่องนี้จึงทำให้นางเอกพิจารณาหัวใจตัวเองอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง จนตัดสินใจรับรักพระเอก (สมหวังแล้วนะดีใจด้วย) ... หลังจากนั้นพระเอกก็พาคนขึ้นเกาะไปจัดการพวกวอโค่วที่มายึดเกาะอยู่ และได้ช่วยท่านหมอเทวดาที่นึกว่าตายไปแล้วกลับมาด้วย  พอตาหายดีพระเอกก็พานางเอกกับองครักษ์อีกหนึ่งคนปลอมตัวเข้าเขตฝูตงไปช่วยผู้ตรวจการสิง (คนที่ส่งหลักฐานมาให้) ออกมา...

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่างก็ได้เวลากลับเมืองหลวง พอกลับมาปุ๊บนางเอกก็ถูกไทเฮาเรียกเข้าวังปั๊บ ทว่าด้วยความหวังดีของพี่หยางหรือเพื่อนสนิทพระเอก(ที่เป็นหลานไทเฮา) อยากจะช่วยส่งเสริมพระ-นาง อยากให้ไทเฮาชมชอบนางเอก พี่จึงไปเล่าชื่นชมวีรกรรมความเก่งความฉลาดของนางเอกตอนอยู่บนเรือให้ไทเฮาฟัง แต่กลับได้ผลตรงกันข้าม ไทเฮามิทรงปลื้มและยิ่งไม่พอใจนางเอกมากขึ้น คิดว่านางเอกเจ้าเล่ห์มีแผนการ คงคิดจะจับบุรุษดีๆ ที่เดินทางไปด้วยกันคราวนี้เพื่อแต่งงานล่ะสิ เลยกลายเป็นว่าไม่ว่านางเอกจะทำอะไรดีแค่ไหน แต่ไทเฮาก็จะรู้สึกขัดหูขัดตาและมีอคติยิ่งกว่าเดิม แทนที่จะได้ชื่อเสียงดีๆ หรือคำชมกลับมา ก็กลายเป็นยิ่งทำให้ชื่อเสียงย่ำแย่ติดลบมากขึ้นไปอีก...

พอพระเอกรู้ก็ไม่พอใจอย่างแรงที่ว่าที่ภรรยารักถูกคนอื่นนินทาต่อว่าลับหลังแบบนี้ จากที่ว่าจะสู่ขอปีหน้า ก็เลยเร่งให้พ่อไปหาแม่สื่อ ไปสู่ขอวันนั้นและเดี๋ยวนั้นเลย55...แต่ก็เจอท่านพ่อที่เคารพของนางเอกปฏิเสธกลับไป เพราะลูกสาวเขายังไม่ 14 เลย 55 (ท่านพ่อไม่พอใจมากที่มีคนบังอาจมาหมายตาลูกสาวที่ยังไม่ถึงวัยปักปิ่น) และเพราะเรื่องที่ไทเฮาคิดว่านางเอกมีแผนคิดจะจับหนุ่มๆ ชาติตระกูลดีบนเรือ จึงทำให้บ้านเพื่อนพระเอกรีบจัดงานหาคู่ให้ลูกชายทันที ระหว่างงานมีคุณหนูคนหนึ่งนินทาว่าร้ายนางเอก ก็เลยเจอเพื่อนพระเอกถีบตกสระน้ำกลางงานด้วยความโกรธ 55 ...(เพื่อนรักจริงๆ) ทุกคนเลยรู้กันหมดว่ามีคนไปสู่ขอนางเอกแล้ว และคนนั้นก็คือกวนจวินโหวสุดหล่อผู้มากความสามารถหรือพระเอกเองจ้า..พอฮ่องเต้รู้ข่าวก็คิดจะตัดหน้ามอบสมรสพระราชทานให้พระเอกแต่งกับองค์หญิงแทน แต่มีคนใจดีส่งข่าวมาบอกพระเอกก่อน พระเอกเลยเร่งให้พ่อพาคนไปสู่ขอใหม่เดี๋ยวนั้นเลย 55 ...(รอบนี้สำเร็จเพราะพระเอกไปติดสินบนพ่อตามาเรียบร้อย)

ฮ่องเต้ก็เพิ่งมารู้เรื่องหลังออกจากเก็บตัวจำศีล ว่าอ้าว! ว่าที่ราชบุตรเขยที่เราหมายตาเอาไว้ไปหมั้นหมายกับคนอื่นเสียแล้วหรือนี่ ไวจังฟะ 55... หลังจากนั้นอารอง(น้องชายพ่อนางเอก) ที่ไปทำงานอยู่ต่างเมืองก็ได้ย้ายกลับมาเมืองหลวง แต่ไม่ได้กลับมาคนเดียวนะจ๊ะ มีอนุคนงามล่มเมืองกลับมาด้วย บ้านแทบแตก ย่านางเอกก็โมโหที่ลูกรับอนุโดยไม่บอก กระทั่งมีบุตรแล้วก็ไม่ส่งจดหมายมาแจ้งข่าว แต่ย่านางเอกคือดีอะ เด็ดขาด เห็นหน้าอนุของลูกก็รู้เลยว่าต่อไปต้องนำภัยมาสู่ครอบครัวตัวเองแน่ๆ เลยให้แยกเรือนและเอาเด็กมาเลี้ยงไว้เอง มองขาด คิดการณ์ไกล แต่อนุคนนี้น่าจะไม่ธรรมดาแน่ๆ ดูทรงแล้ว อาของนางเอกก็ดูมีลับลมคมใน ไม่รู้ว่าต่อไปจะนำความเดือดร้อนอะไรมาให้ครอบครัวนางเอกหรือเปล่า ... จบ (โปรดติดตามเล่มต่อไป)

สนุกไม่มีแผ่ว ลุ้นทุกตอนแทบไม่ได้พัก เห็นแล้วก็เหนื่อยแทนนางเอกนะ งานเข้าบ่อยเหลือเกิน นอกจากต้องเก่งต้องฉลาดแล้วก็ยังต้องมีโชคและดวงดีอีกด้วยนะ ไม่อย่างนั้นอาศัยแค่ความฉลาดอย่างเดียวอาจไม่รอด ...ส่วนปมปริศนาต่างๆ ก็แค่กระจ่างแต่ยังไม่เคลียร์ บอสใหญ่เบื้องหลังคือใครจะใช่คนแซ่หลันจริงๆ หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ฮ่องเต้ก็หมกมุ่นอยู่แต่กับลัทธิเต๋าแสวงหาการเป็นอมตะ เกลียดเรื่องยุ่งยากเลยพาลทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ขุนนางโกงกิน สมคบกับคนต่างแคว้น อิรุงตุงนังวุ่นวายไปหมด ทั้งๆ ที่ฮ่องเต้ก็ฉลาดแต่กลับปิดหูปิดตามองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ก็เลยไม่จัดการทำอะไร เว้นแต่จะเป็นเรื่องสงครามหรือก่อกบฏเท่านั้นถึงจะขยับตัว ชาวบ้านตาดำๆ ขุนนางดีๆ ก็เดือดร้อนรับกรรมกันไปสิ...เฮ้อ   


📍หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม 10 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/8V13DR1Txy



วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 4-5

 



หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม เล่ม 4-5 (10 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย
ผู้แปล : Honey Toast
สำนักพิมพ์ แจ่มใส 

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เล่ม 4 เปิดด้วยการเฉลยว่าใครคือคนร้ายที่วางยาพิษพี่ชายนางเอก และช่วยให้พระเอกหาข้ออ้างพาพี่เมียออกมาอยู่ที่จวนตัวเองได้ นางเอกจึงไม่ต้องเข้าทางญาติผู้น้องอีกแต่สามารถไปทางพระเอกได้เลย สะดวกกว่าเยอะ เพราะพระเอกรับปากหมอเทวดาเอาไว้ว่าจะช่วยดูแลนางเอกในระหว่างที่ไม่อยู่ เพื่อตอบแทนที่ท่านหมอจะช่วยรักษาใบหน้าพี่เมียให้ ทั้งสองคนต้องมาพัวพันและมีเรื่องให้ช่วยเหลือกันไปมาอยู่บ่อยๆ ยิ่งไม่อยากใกล้ชิดก็ต้องใกล้ เพราะต่อมาพิษไอเย็นที่พระเอกได้รับตอนอยู่แดนเหนือก็กำเริบเข้าสู่หัวใจ เป็นเหตุให้นางเอกต้องมาช่วยรักษา...

นางเอกรู้วิชาแพทย์เพราะเป็นลูกศิษย์ของหมอเทวดาหลี่(เพื่อนปู่) สาเหตุที่พิษกำเริบก่อนกำหนดก็มาจากของขวัญที่พระเอกได้รับจากแม่ในวันงานเลี้ยงเข้าบ้านใหม่ พอเห็นของถึงกับกระอักเลือดหมดสติ เพื่อนสนิทเลยปรี่ไปเอาเรื่องพี่ชายคนโตของพระเอก (คือเพื่อนสนิทรู้กันหมดว่าแม่พระเอกเป็นยังไง) พี่คนโตโดนซ้อมจนอยู่ต่อไม่ได้ พอแม่เห็นสภาพลูกก็โวยวายจะไปเอาเรื่องกับพระเอก ส่วนพ่อก็เป็นห่วงพระเอกมาก คือทั้งบ้านมีพ่อคนเดียวที่รักและห่วงใยพระเอก ส่วนพี่คนโตก็ระแวงกลัวแต่จะมาแย่งตำแหน่งผู้สืบทอด อิน้องคนเล็กก็ไม่ชอบเพราะโดนแม่ปั่น
พอพ่อรู้สาเหตุที่ทำให้พระเอกอาการทรุดหนักกะทันหันก็ตบเมียไปหนึ่งดอก (สะใจ ปกติเกลียดความรุนแรง แต่แม่พระเอกนี่ขอสักทีเถอะ) แม่ก็ให้อะไรไม่ให้ ดันให้จดหมายที่พระเอกเขียนส่งกลับมาให้เมียตอนไปรบ คือพระเอกอะเขียนจดหมายกลับมาหานางเอกตลอดสองปี แต่แม่ไม่เคยเอาให้นางเอกเลย แอบเก็บไว้ รวมถึงจดหมายที่นางเอกเคยเขียนให้พระเอกด้วย พระเอกเลยนึกว่าเมียโกรธถึงไม่เคยเขียนจดหมายตอบกลับ พอเปิดมาเห็นของเลยเสียใจมากจนกระอักเลือด 

นางเอกเลยต้องมาฝังเข็มรักษาพิษไอเย็นให้พระเอกทุกวันและได้มีข้ออ้างไปพบพี่ แต่พี่ก็ระแวงสงสัยนางเอกอีกว่ามีจุดประสงค์ไม่ดีหรือได้รับคำสั่งจากใครมารึเปล่า บวกกับเรื่องที่นางเอกจัดการเรื่องคนวางยาพิษด้วยเลยยิ่งไม่ค่อยพอใจ จากตอนแรกที่รู้สึกดีก็กลายเป็นวางตัวห่างเหินเย็นชา นางเอกสัมผัสได้ก็น้อยใจน้ำตาร่วงทันที อยากให้พี่รู้ว่าตนคือเฉียวเจาใจจะขาดแต่ก็กลัวพี่จะไม่เชื่อ ...

แล้ววันหนึ่งพี่ชายก็ถูกฮ่องเต้เรียกตัวเข้าวังด้วยเรื่องผลการสืบสวนคดีที่จวนตระกูลเฉียวถูกไฟไหม้ พี่จึงใช้โอกาสนี้ถวายหลักฐานบางอย่าง แต่กลับโดนข้อหาใส่ความขุนนางผู้จงรักภักดีและถูกจับขังคุกซะอย่างนั้น เพื่อช่วยพี่ นางเอกเลยต้องไปข้องเกี่ยวกับกององครักษ์จินหลิน เพราะผู้บัญชาการองครักษ์จินหลินเป็นคนสนิทฮ่องเต้ เลยโชคดี? ได้รับโอสถทิพย์หรือยาอายุวัฒนะมากิน แล้วอียาเนี่ยจริงๆ มีพิษเด้อ แต่ไม่กินก็ไม่ได้เดี๋ยวฮ่องเต้ไม่พอใจ เวลากินก็ต้องกินต่อหน้าแล้วบรรยายความรู้สึกให้ฮ่องเต้ฟังอีก แบบกินก็ตายไม่กินก็ตายอะ นางเอกเลยบอกว่าจะทำยาถอนพิษให้แลกกับการให้ช่วยพี่ออกจากคุก กลายเป็นว่าผู้บัญชาการองครักษ์จินหลินก็ต้องมาคอยดูแลปกป้องความปลอดภัยของนางเอกไปด้วยอีกคน เพราะนางเป็นคนเดียวที่ทำยาแก้พิษได้ จะปล่อยให้เป็นไรไม่ได้เด็ดขาด เพราะต่อให้ได้สูตรยามาปรุงเองแต่เดี๋ยวอียานี้ก็มีการปรับสูตรใหม่อีกเรื่อยๆ ยาแก้ตัวเดิมก็จะใช้ไม่ได้ จึงต้องปกป้องนางเอกไว้ เพราะเดี๋ยวไม่มีคนปรับสูตรยาแก้พิษตัวใหม่ให้

ต่อมาก็มีเหตุการณ์ดินถล่มขณะที่นางเอกกำลังเดินทางกลับจากอาราม แต่องครักษ์ที่พระเอกให้คอยติดตามเก่งเลยพาหนีทัน แต่กลุ่มขบวนขององค์หญิงเก้าหลบไม่พ้น พอพระเอกรู้ข่าวก็ขนลูกน้องมาช่วยกันขุดเอาดินออก ใจคอไม่ดี กลัวนางเอกจะเป็นอะไร (ยังไม่รู้ว่านางเอกปลอดภัย) ระหว่างที่ขุดๆ ก็ได้ช่วยองค์หญิงเก้าออกมา องค์หญิงจึงเกิดประทับใจในตัวพระเอก เกิดรักแรกพบ แต่ยังไม่ได้บอกใคร พระเอกก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองได้เผลอสร้างหนี้ดอกท้อเอาไว้แล้วเด้อออ ..นี่กะจะให้นางเอกกลายเป็นศัตรูของผู้หญิงทั้งเมืองหลวงไปเลยชิมิ 55

พระเอกก็ขึ้นเขาไปตามหานางเอกจนพิษกำเริบและหมดสติ นางเอกเลยต้องฝ่าฝนไปหาสมุนไพรมาช่วยบรรเทา ต้องป้อนยา ถอดเสื้อผ้า เพื่อใช้ร่างกายเพิ่มความอบอุ่นให้คุณพี่เขา.. แต่พอตื่นมาก็นิ่งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนพระเอกก็จำไรไม่ได้ ต่อมาอารามที่นางเอกไปพักก็เกิดเรื่องมีคนถูกฆ่าตาย อดีตองค์หญิงใหญ่ที่ออกบวชก็หายตัวไป พระ-นางตกเป็นผู้ต้องสงสัย เรื่องราวเริ่มชักจะบานปลายโยงใยไปถึงเหตุการณ์ก่อกบฏเมื่อ 20 ปีก่อน...
หลังจบเรื่องนี้นางเอกกลับไปใช้ชีวิตชิวๆ ได้ไม่นานก็ถูกไทเฮาเรียกตัวเข้าวัง เพราะเรื่องยาลบรอยแผลที่ลูกสาวผู้บัญชาการองครักษ์จินหลินมาข่มขู่ขอไปรักษาใครก็ไม่รู้ ถามก็ไม่บอก นางเอกเคยเตือนแล้วว่าต้องได้เห็นหน้า เห็นอาการ และเห็นบาดแผลก่อนนะ ถึงจะรู้ว่าควรใช้ยาแบบไหน เดี๋ยวรักษาไม่ถูกโรคจะซวย แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง ดึงดันจะเอาไป นางเอกเลยปล่อยเลยตามเลย...

พอไทเฮาเห็นว่านางเอกไม่มีหมอเทวดาคอยคุ้มหัวแล้วก็ใส่เต็มที่ ลูกสาวผู้บัญชาการได้ทีก็เอาคืนใส่ไฟหาว่านางเอกกลั่นแกล้งหลอกเอายาไม่ดีมาให้  คือตอนแรกนางไปขอให้พ่อช่วย แต่พ่อบอกว่าให้ลองไปหานางเอกดูสิ เพราะหมอเทวดาไม่อยู่แล้ว พ่อก็อยากให้ลูกผูกมิตรเป็นเพื่อนกับนางเอก แต่ลูกก็โวยวายไม่ยอม ตอนไปขอยาก็ไม่พูดดีๆ แต่ไปข่มขู่เขา แถมไม่บอกอาการให้ชัด พอมีอะไรปุ๊บก็โทษนางเอก ..นางเอกเลยขอดูอาการคนเจ็บ พอเห็นก็บอกได้เลยว่าเป็นอะไร สามารถรักษาได้ แต่ยาที่เอ็งเอาไปก่อนหน้าน่ะรักษาไม่ได้นะ(คนละโรคโว้ยยย) เพียงแต่นางรักษาได้แต่โรคนะ ส่วนรอยแผลรักษาไม่ได้เพราะไม่มีตัวยา ถ้าอยากหายก็ต้องให้นางเดินทางลงใต้ไปหาตัวยาเอง ...

ยิงทีเดียวได้นกสามตัว เพราะนางเอกกำลังจะหาเหตุผลเดินทางลงใต้พอดี เพื่อไปสืบเรื่องไฟไหม้ ไปตามหาหมอเทวดา และไปหาตัวยามารักษาบาดแผลที่หน้าให้พี่ชาย..เข้าทางพอดี จะได้มีข้ออ้างไปแล้ว พอพระเอกรู้ว่านางเอกจะไปก็คิดจะส่งคนไปติดตามคอยคุ้มกันแต่ตัวเองไม่ไปด้วย พี่ชายนางเอกเลยมาถามย้ำแล้วสนับสนุนให้ไป พระเอกเลยตกลง (เพราะในใจก็อยากไปอยู่แล้ว) ก่อนไปพี่ก็ให้ของบางอย่างกับพระเอก บอกว่าถ้าสับสนเรื่องนางเอกมากๆ เมื่อไรให้เปิดดู ...ส่วนผู้บัญชาการองครักษ์จินหลินก็ให้คนมาส่งป้ายคำสั่งให้นางเอก (ป้ายที่ใช้ออกคำสั่งควบคุมองครักษ์จินหลินได้) คือแตกตื่นกันไปหมด กลัวว่าเดี๋ยวนางเอกจะเป็นอะไรระหว่างเดินทาง เพื่อนพระเอกที่ชอบนางเอกก็ติดตามมาด้วยในฐานะองครักษ์ แม้นางเอกจะปฏิเสธไปแล้วแต่พี่ก็ยังสู้ไม่ถอย พยายามเลิกนิสัยมุทะลุบุ่มบ่าม เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตอนที่เห็นพระนางดูใกล้ชิดกันและนางเอกปฏิบัติกับพระเอกแตกต่างจากคนอื่น พี่ก็ไปถามพระเอกตรงๆ เลยนะว่าคิดอะไรกับนางเอกรึเปล่า คือถ้าคิดก็จะได้เตรียมตัวสู้ ไม่ได้ห้ามถ้าพระเอกจะชอบเหมือนกัน แต่พระเอกดันบอกว่าไม่ได้คิด! ..เหอะๆ แถมยังคิดว่าถ้าเพื่อนเราได้แต่งกับนางเอกก็คงดีนะ เพราะถ้าเพื่อนได้แต่งจะต้องดีกับนางเอกมากแน่ๆ ตัวเองจะได้วางใจ เพราะยังไงก็แต่งเองไม่ได้อยู่แล้ว...

แต่พอพระเอกได้รู้ความจริงว่านางเอกคือเฉียวเจาภรรยาตัวเองเท่านั้นแหละ โฮะๆๆ ... พี่ก็บุกเข้าไปจูบเขาถึงในห้องทันทีเลยจ้า ดีใจมากจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ จากนั้นก็หน้าหนาตามติดตามตื๊อเขาไม่ปล่อย นางเอกก็บอกแล้วว่าไม่คิดออกเรือน ไม่คิดแต่งงานกับพระเอกหรือใครทั้งนั้น ไม่ใช่เมียตัวเองแล้วเด้ออย่ามามือไวรุ่มร่ามหรือพูดจาแบบนี้อีก ขอให้หยุด แต่พระเอกทำม่ายล่ายยย (ไม่ทำ) พอรู้ว่าเมียยังอยู่ก็ดีใจเจียนคลั่ง โลกเป็นสีชมพูประหนึ่งหนุ่มน้อยที่เพิ่งเคยมีความรัก ให้ตายก็ไม่มีวันปล่อยมือ ยิ่งห้ามยิ่งทำ รุกหนักมาก เผลอเมื่อไรเดี๋ยวกอดเดี๋ยวจูบ แล้วก็ได้ซัดกับเพื่อนไปยกนึง เพราะพระเอกเคยบอกว่าไม่คิดอะไรแล้วไฉนตอนนี้มาทำแบบนี้ แต่พระเอกก็บอกไม่ได้อีกว่าตอนนั้นไม่รู้ว่านั่นเมียตัวเองนิ่ เลยยกให้ไม่ได้จริงๆ สุดท้ายเพื่อนเลยยอมถอยเพราะแน่ใจแล้วว่านางเอกไม่ได้คิดอะไรกับตนจริงๆ ...ลูกผู้ชายมากพี่ฉือ (นึกว่าจะแตกหักเข้าหน้ากันไม่ติดซะแล้ว) เพื่อนแท้จริงๆ ถอยคือถอยไม่เซ้าซี้อีกเลย แล้วก็กลับมาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม

พอพระเอกรู้ตัวตนนางเอกทำอะไรก็ราบรื่นสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องหาเรื่องมาปิดบังอีก พระเอกก็เหมือนสุนัขตัวโตๆ ที่แกว่งหางคอยเดินตามติดเจ้าของ ปากว่ามือถึง หยอดได้ตลอดเวลา จากคุณหนูหลีกลายเป็นเจาเจา เจาเจาของข้า เจาเจาอย่างงู้น เจาเจาอย่างงี้ ส่วนอีเว้นท์เรื่องวุ่นวายต่างๆ ก็ยังประดังเข้ามาเหมือนเดิมไม่จบไม่สิ้น ตอนอยู่เมืองหลวงว่าสนุกแล้ว ตอนออกมายิ่งมันส์ นางเอกไปตามหานักชันสูตรมือหนึ่งเพื่อมาชันสูตรพลิกศพคนในตระกูล พระเอกก็ใช้ข้ออ้างว่าจะไปเคารพศพพ่อตาเพื่อติดตามมาด้วย
ยิ่งสืบก็ยิ่งอันตราย พันพันกับผู้คนมากมายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ใครกันที่กล้าถึงขนาดสังหารครอบครัวของปราชญ์ผู้เลื่องชื่อได้ ปริศนาอันตรายรอบด้านชวนให้ติดตามอยากรู้จริงๆ ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้คือใคร
...

 

📍หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม 10 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/8V13DR1Txy