วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568

Devil warmth's กลับมาพบกันก่อนตะวันฉาย 3 เล่มจบ


Devil warmth's กลับมาพบกันก่อนตะวันฉาย 3 เล่มจบ

ผู้แต่ง : เถิงหลัวเหวยจือ

ผู้แปล : จิ้งจอกธารา

ปก : Let.mt sleep

สำนักพิมพ์ ไป่เหอ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ผลงานของคุณนักเขียนจันทราอัสดง, วสันต์ที่สายเกินหวนคืน เรื่องนี้เป็นแนวปัจจุบัน แต่ความดราม่าปวดตับ+ความรันทดของชีวิตพระเอกก็ไม่ได้ต่างจากสองเรื่องแรกเลย😭 อยากเข้าไปกอดน้องเผยมาก ทำไมชีวิตนู๋มันSaddd แบบนี้ลูก😭

นางเอกเรื่องนี้ได้ย้อนเวลากลับมาตอน 4 ขวบ ชาติก่อนนางเอกแต่งงานกับคนผิด ถูกเขาใช้เป็นเป้าล่อธนูเพื่อปกป้องคนรักตัวจริง พอนางเอกรู้ความจริงจะขอเลิกผู้ชายก็ไม่ให้เลิก แล้วบ้านผู้ชายก็เป็นตระกูลทหารมีอำนาจมีอิทธิพลจึงทำให้ไม่มีใครกล้ายื่นมือช่วย สุดท้ายก็มีแค่พระเอกที่เป็นเพื่อนวัยเด็กคนเดียวที่กล้างัดข้อ ก่อนตายนางเอกถึงได้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพระเอกรักตัวเองมากและรักมาโดยตลอด แต่ไม่กล้าพูด เพราะนางเอกคือฝันที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเขา...

แต่เรื่องนี้นางเอกไม่ใช่วิญญาณผู้ใหญ่ในร่างเด็กนะ เพราะผ่านไปไม่นานความทรงจำในชาติก่อนก็จะค่อยๆ เลือนหายไป นางเอกเลยต้องใช้วิธีจดเหตุการณ์สำคัญๆ ลงสมุดบันทึกเพื่อไม่ให้ตัวเองลืม แล้วสุดท้ายความทรงจำของนางเอกก็ไปหยุดอยู่ที่ช่วงประถม จิตใจนางเอกกลายเป็นเด็กน้อยโดยสมบูรณ์ รู้แต่ว่าตัวเองต้องทำดีต่อพระเอกให้มากๆ เท่านั้น ...อ่านเรื่องนี้แล้วก็แอบนึกถึง 'กู้หมิงซี' พระเอกเรื่องมหัศจรรย์รักนายนกกระจอกเทศ เรื่องนั้นพระเอกก็พิการเหมือนกันแต่เป็นที่แขน ส่วนพระเอกเรื่องนี้เป็นที่ขา แต่ของเรื่องแรกพระเอกพิการเพราะอุบัติเหตุ ส่วนเรื่องนี้เกิดจากความตั้งใจของคนเป็นอาชญากรรม😭 อีกอย่าง พระเอกเรื่องนกกระจอกเทศยังมีแม่ที่รักตัวเขามากๆ คอยอยู่เคียงข้าง มีเพื่อนฝูงและคุณครูที่เข้าใจคอยช่วยเหลือ ส่วนเรื่องนี้พระเอกไม่มีใครเลย ทุกคนทอดทิ้งเขาไปหมด แม้แต่พ่อแม่แท้ๆ เหลือแต่นางเอกที่ไม่คิดทอดทิ้งเขา แต่เพราะในเวลานั้นนางเอกยังเด็กมาก สิ่งที่ทำได้จึงมีเพียงน้อยนิด พระเอกจึงเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย และเกือบหันหลังกลับมาไม่ได้อีกแล้ว

พระเอก เผยชวน มีพ่อเป็นตำรวจ แม่เป็นศัลยแพทย์ ตอนอายุ 4 ขวบพระเอกถูกอาชญากรลักพาตัวไป เพราะโกรธแค้นพ่อพระเอกที่เป็นตำรวจ เดิมทีพระเอกก็เป็นเด็กเงียบๆ ไม่ชอบสุงสิงกับใครไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่แล้ว พอมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นพระเอกเลยยิ่งเย็นชาเป็นเท่าทวี ไม่พูดไม่คบหาใคร ทั้งยังสร้างกำแพงกันคนอื่นไม่ให้เข้ามา 

ไปโรงเรียนก็โดนเพื่อนล้อเพื่อนแกล้งไม่มีใครคบ เพียงเพราะพระเอกไม่มีขา ทั้งที่พระเอกคือเหยื่อคือผู้บริสุทธิ์แท้ๆ แต่พระเอกก็ไม่เคยเอาเรื่องเหล่านี้ไปบอกพ่อแม่ เด็กน้อยอยากให้พ่อแม่สบายใจอยากเป็นเด็กดี อยากรักษาสภาพครอบครัวให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป ถึงพ่อแม่จะทำงานหนักจนละเลยหรือลืมมารับพระเอกที่โรงเรียน(ทั้งที่ลูกพิการนะเฟ้ย) แต่เด็กน้อยเผยชวนก็ไม่เคยตัดพ้อหรือต่อว่าพ่อแม่เลย พยายามเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ไม่เคยเรียกร้องอะไรหรือทำตัวงอแง ทั้งที่ทำถึงขนาดนี้แล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ยังรักษาครอบครัวเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี และที่เจ็บปวดที่สุดก็คือการที่ต้องมารับรู้ว่าตัวเองคือฝันร้ายของคนที่ตัวเองรัก ToT

แม่พระเอกเป็นแม่ที่ดีแต่ไม่เข้มแข็งพอที่จะหลุดจากฝันร้ายและอยู่เคียงข้างลูกไปตลอดได้ สุดท้ายเลยขอเลือกไปมีครอบครัวใหม่ พระเอกก็อยู่กับพ่อ แต่ไม่นานพ่อพระเอกก็ประสบเหตุจนกลายเป็นผัก พระเอกเฝ้าดูแลพ่ออยู่นานหลายเดือน คิดว่าต่อให้พ่อต้องนอนเป็นผักพระเอกก็ยินดีดูแลพ่อแบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่พอพ่อฟื้นขึ้นมาและหายดี พ่อกลับดันไปแต่งงานใหม่โดยไม่บอกพระเอกซะงั้น ไปหมดแล้วครอบครัวทั้งพ่อทั้งแม่ สุดท้ายพระเอกเลยตัดสินใจย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเองคนเดียวตอนจะขึ้นม.ปลาย

ผิดหวังจริงๆ ทั้งพ่อทั้งแม่พระเอก คิดอะไรอยู่? ตัวเองฝันร้ายแล้วพระเอกไม่ฝันร้ายเหรอ คนที่ถูกตัดขาต้องพิการคือลูกนะ คนที่ต้องเผชิญกับฝันร้ายยิ่งกว่ามันคือพระเอกไม่ใช่เหรอ ไหนจะร่างกายไม่สมประกอบ ไหนจะต้องเจอกับสายตาเจอกับคำคน เจอการกลั่นแกล้งทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ไม่ว่าจะเจออะไรพระเอกก็ไม่เคยปริปากบ่นว่าเลย ได้แต่เก็บไว้ในใจคนเดียว ใช้ชีวิตลำบากแค่ไหนก็อดทน ทั้งที่ยังเป็นแค่เด็กน้อยเอง เด็กอะเข้าใจไหม! ต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหน แต่ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่อดทนให้มากกว่านี้เล่า พยายามหน่อยเซ่! ผิดหวัง ไม่ชอบทั้งคู่เลย ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตามอะ(โกรธๆๆ)

ตอนพระเอกออกไปอยู่เองพ่อก็ไม่ได้ตั้งใจพยายามตามหาอย่างจริงจังเลย เพราะในใจลึกๆ ก็หวังไม่อยากให้ลูกชายคนนี้กลับมาใช่ไหมล่ะ ไม่อยากให้ลูกชายที่เย็นชาแข็งกระด้างกลับมาทำลายบรรยากาศความสุขของครอบครัวใหม่... แต่เด็ก อายุสิบห้า ขาพิการ ออกไปอยู่คนเดียว เงินทองจะหาจากไหน กินอยู่ยังไง เดินเหินลำบากไหม เจ็บป่วยทำไง คิดบ้างไหมพ่อ ดีนะที่พระเอกเก่ง เป็นอัจฉริยะด้านเขียนโปรแกรม เลยเอาตัวรอดได้ แต่ไม่ว่าจะยังไง ถ้าตัวพ่อรักและห่วงจริงมันก็ควรจะพยายามให้มากกกกกๆๆๆ กว่านี้ไหม?

ตอนแรกพระเอกจะเข้าเรียนมัธยมปลายที่เดียวกับนางเอก แต่เพราะเรื่องพ่อเลยเปลี่ยนใจไปเข้าอีกที่ วันเปิดเรียนวันแรกนางเอกไปยืนรอพี่แกที่ป้ายรถเมลล์เพื่อจะไปโรงเรียนพร้อมกัน แต่พระเอกก็ไม่ได้มา พอโทรหาถึงได้รู้ว่าพระเอกไปเรียนที่อื่น แถมพี่แกยังพูดจาทำร้ายจิตใจนางเอกด้วย จากนั้นพี่แกก็กลายเป็นหัวโจกของโรงเรียนมีลูกสมุนที่เป็นพวกลูกเศรษฐีคอยติดตาม มาเจอกันจังๆ ตอนนางเอกเป็นเชียร์หลีดเดอร์ไปเต้นเชียร์โรงเรียนตัวเองแข่งบาส ลืมบอกไปว่านางเอกหน้าตาสวยมากกกนะ ตอนเด็กยังมองไม่ค่อยออกเลยไม่มีใครสนใจแค่รู้สึกว่าน่ารักเฉยๆ แต่พอใกล้ขึ้นม.ปลายก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน แบบสวยมากจนคนต้องเหลียวหลังมอง ทั้งสวย ทั้งจิตใจดี นิสัยก็ดีเรียนก็เก่ง ใครจะไม่ชอบ ...กลับมาเรื่องบาส55 ซึ่งในวันนั้นกลุ่มของพระเอกก็มาร่วมทีมแข่งด้วย พอพระเอกรวมถึงทุกคนเห็นนางเอกก็ตะลึง แล้วตอนเชียร์นางเอกก็ต้องตะโกนชื่อฝั่งโรงเรียนตัวเองใช่เปล่า พอพระเอกได้ยินก็โมโหไง ไม่อยากให้นางเอกตะโกนชื่อคนอื่น55 แต่พอนางเอกเข้าไปทัก พระเอกก็เย็นชาทำเป็นไม่สนใจเขาอีก55 (เผยบ่จอยงอนแล้ว)

หลังจากวันนั้นพระเอกก็เริ่มวางแผนจะเข้าหานางเอก วางแผนให้นางเอกมาเข้าค่ายปิดเทอมฤดูร้อนของพวกลูกคนรวย ตอนขึ้นมานั่งรถบัสที่ค่ายจัดเตรียมตอนแรกเพื่อนพระเอกจะมานั่งข้างนางเอก แต่พระเอกก็ตัดหน้าเดินมานั่งลงก่อน พอไปถึงสถานที่เข้าค่ายพระเอกก็พยายามอยู่ใกล้ๆ นางเอกโดยทำเป็นว่าบังเอิญ คือมันเป็นค่ายแบบเกม survival อะ ให้อุปกรณ์เครื่องติดตามแล้วปล่อยให้ทุกคนไปผจญภัยเอาชีวิตรอดกันเอง พระเอกก็ตามไปทางที่นางเอกเดิน แต่ระหว่างทางดันไปเจอเพื่อนผู้หญิงที่แอบชอบตัวเองเข้า 

เพื่อนก็เป็นคุณหนูเอาแต่ใจมีแต่คนสปอยล์ พอเห็นว่าพระเอกไม่สนตัวเองแต่สนใจนางเอก นางก็โกรธ ขู่ว่าจะเอาเรื่องที่พระเอกแอบชอบนางเอกไปบอกนางเอก พระเอกโมโหเลยทำลายเครื่องติดตามของนาง ทำให้นางต้องหลงอยู่ในป่า กว่าคนจะรู้ว่าเครื่องติดตามของนางมีปัญหาก็ผ่านไปหลายวันแล้ว หลังจากนั้นนางก็กลัวพระเอกไปเลย แล้วพระเอกก็ย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อเพราะอยากอยู่ใกล้ๆ นางเอก(เขาอยู่ชุมชนเดียวกัน) แต่พอกลับไปก็พบว่าห้องตัวเองถูกยกให้ลูกติดแม่เลี้ยงไปแล้ว(เพิ่งผ่านไปปีเดียวเองนะเนี่ย) 

ต่อมาพระเอกก็ได้เข้าไปช่วยน้องชายนางเอกในตอนที่โดนหมาไล่ พระเอกต้องฆ่าหมา พอพวกผู้ใหญ่มาเห็นก็แบบไม่มีใครห่วงพระเอกเลยเว้ย ห่วงแต่ลูกตัวเองกับตกใจสภาพหมาที่ตาย ไม่มีแม้แต่คนเข้าไปพยุงหรือถามไถ่สักคำ คือหมากัดขาพระเอกด้วยนะ แต่ดีที่เป็นขาเทียมเลยไม่เป็นไร ไม่งั้นแย่เลยเพราะเป็นหมาบ้าด้วย มีแต่นางเอกที่วิ่งตามไปดู หลังจากเหตุการณ์นี้พระเอกเลยย้ายกลับไปอยู่ที่คอนโดตามเดิม

คือหลังได้กลับมาเจอกันรอบนี้พระเอกก็ตั้งใจว่าจะสู้เพื่อให้ได้นางเอกมา พี่แกก็กลับไปเรียน เลิกบุหรี่ เพราะนางเอกบอกว่าสูบบุหรี่มันไม่ดีพระเอกก็เลิกเลย ความจริงตอนก่อนจะขึ้นม.ปลายพระเอกเคยตั้งใจจะปล่อยมือจากนางเอกแล้ว เพราะรู้สภาพตัวเองไง ว่าต่อให้เก่งหรือดีแค่ไหน แต่ก็คงไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากยกลูกให้แต่งกับคนพิการหรอก บวกกับตอนนั้นนางเอกก็ยังไม่ได้คิดอะไรกับพระเอกด้วย  นางเอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกชอบมันเป็นยังไง เพื่งมาเก็ตทีหลัง พอรู้ใจตัวเองแล้วนางเอกก็เป็นฝ่ายจูบพระเอกก่อนเลย เป็นคนใสซื่อน่ารักมากกกก เหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย อ่อนโยนแต่ไม่ได้อ่อนแอ มีหลักการณ์ความคิดของตัวเอง นางเอกไม่เคยสนเรื่องความพิการของพระเอกอยู่แล้ว ไม่เคยอาย ไม่เคยรังเกียจ ใครจะพูดยังไง พ่อแม่จะไม่เห็นด้วย เพื่อนจะห้าม(เพราะตอนนั้นพระเอกชื่อเสียงไม่ดี) แต่นางเอกก็มั่นคงต่อความรู้สึกตัวเองเสมอมา 

เป็นคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัวพระเอกอย่างไร้ข้อกังขา รู้ทั้งด้านดีด้านมืดของพระเอก แต่ก็ไม่เคยกลัวหรือรังเกียจ เหมือนเข้าใจนิสัย+ตัวตนพระเอกมาแต่ไหนแต่ไรแล้วอะ พระเอกจะผลักไสหรือทำเย็นชาใส่ยังไงนางเอกก็ไม่ไปไม่โกรธ ตอนแม่นางเอกมาขอร้องอ้อมๆ ให้พระเอกเลิกยุ่งกับลูกสาว พระเอกก็คิดว่าจะเลิกยุ่งแล้วนะ เพราะมันเกิดเหตุการณ์ที่น้าชายนางเอกมาจับตัวน้องชายนางเอกไปในตอนที่นางเอกพาน้องออกมาซื้อเสื้อผ้า เพื่อเรียกเอาเงินจากแม่นางเอกหรือพี่สาวตัวเอง (น้าชายนางเอกนี่แหละคือตัวการที่ทำให้บ้านนางเอกจน ไปขับรถชนคนตายจนทำให้แม่นางเอกต้องควักเงินเก็บของที่บ้านออกมาช่วย แล้วก็ไม่คืน แถมยังไม่ยอมทำการทำงาน แล้วยังจะมาขอเงินอีก) 

นางเอกร้องขอให้คนช่วย อิน้าเลยสติแตกเอามีดออกมาขู่จะแทง พระเอกเห็นพอดีเลยเข้าไปช่วยรับมีด นั่นแหละๆ แม่นางเอกเลยตะหงิดๆ และว่าพระเอกต้องชอบลูกสาวตัวเองแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่ปกป้องขนาดนี้ แม่เลยไม่ให้นางเอกมาขอบคุณพระเอก แต่แอบเอาเงินเก็บทั้งบ้านมาให้พระเอกแล้วขอบคุณเอง เหมือนเป็นการบอกอ้อมๆ อะว่าเอาเงินนี่ไปเป็นค่าชดเชยแล้วเลิกยุ่งกับลูกสาวฉันเถอะ

พระเอกก็ตั้งใจจะทำตามที่คุณแม่ร้องขอ แต่นางเอกกลับตามติดเหลือเกินช่วงนั้น นางเอกแอบเอาอาหารมาให้ที่คอนโดพระเอก แล้วก็ขอมาอีกรอบหน้า แต่พระเอกพูดเป็นนัยๆ ว่าไม่อยากให้มาชอบอยู่เงียบๆ มากกว่า นางเอกก็หงอยๆ ไปแป๊บนึงก่อนจะบอกว่างั้นจะทำตัวเงียบๆ แต่ขอมาอีกนะ เจอแบบนี้พระเอกก็ใจอ่อนจิ่ ...แล้วก็มีตอนที่ใกล้จะถึงวันเกิดอายุครบ 18 ของพระเอก ซึ่งมันดันไปอยู่ใกล้กับวันเกิดของคนที่มาแอบชอบนางเอกพอดี นางเอกไปปรึกษาเพื่อนเรื่องของขวัญ เพื่อนเลยนึกว่านางเอกจะให้ของขวัญคนที่มาแอบชอบ พอดีมีคนมาได้ยิน สุดท้ายเลยลือกันไปหนักมากว่านางเอกจะมอบจูบแรกของตัวเองให้กับคนที่มาแอบชอบ 

ลือจนไปถึงโรงเรียนพระเอก พอรู้พระเอกก็เดินออกจากห้องเรียนมาเดี๋ยวนั้นเลยจ้า มาดูให้เห็นกับตามาพร้อมกับความหึงหวง+โมโห55 แล้วพี่แกก็ไปได้ยินกลุ่มเพื่อนของผู้ชายคนนั้นพูดถึงนางเอกพอดี(พูดแซวๆ แบบมะค่อยดี) พระเอกเลยโผล่เข้าไปซัดเลย คน 7-8 คนแต่เจอพระเอกซัดไปกองกับพื้นเกือบหมด(พระเอกเคยฝึกชกมวยมาก่อน) นางเอกก็มาห้ามมาขอโทษแล้วตามพระเอกไป ตอนแรกนางเอกไม่คิดว่าพระเอกจะชอบตัวเอง คิดว่ามองตัวเองเป็นเพื่อนวัยเด็กที่โตมาด้วยกัน แต่หลังผ่านเหตุการณ์นี้ไปก็แน่ใจและ น้องเลยชิงมอบจูบแรกของตัวเองให้พระเอกซะเลยจะได้หายหึง ...ฮิ้ววว

นางเอกโคตรจะน่ารัก เป็นแสงสว่างเป็นความอบอุ่นหนึ่งเดียวในชีวิตของพระเอก เป็นเพราะนางเอก พระเอกถึงได้กลับมาเลือกทางเดินที่ถูกต้อง ชาติก่อนพี่แกกลายเป็นซาตานเข้าสู่สายดาร์ก แต่ชาตินี้พระเอกยอมติดคุก ...คือพี่แกบอกนางเอกว่าจะไปเข้าเรียนมหา'ลัยเดียวกัน แต่จริงๆ กำลังวางแผนมอบตัว เพราะหลังๆ พระเอกจะเลิกทำงานเขียนโค้ดที่ผิดกฏหมายแล้วไง แต่คนพวกนั้นไม่ยอม เอาชีวิตนางเอกมาขู่ พระเอกเลยมอบตัวกับตำรวจแล้วแจ้งเบาะแส เพื่อให้ตำรวจไปจับคนพวกนั้นมาเข้าคุกเพื่อปกป้องนางเอก ...

นางเอกก็ตระเวนสืบหาข่าวพระเอกไปทั่ว อยากรู้ว่าขังอยู่ที่ไหนจะได้ไปเยี่ยม แต่คดีพระเอกเป็นคดีพิเศษห้ามเปิดเผย เลยไม่รู้ว่าถูกขังอยู่ที่ไหน นางเอกเรียนคณะแพทย์แต่เพราะเรื่องคดีพระเอกน้องเลยไปโผล่ที่คณะนิติศาสตร์บ่อยเพื่อหาข้อมูล พอไปอยู่มหา'ลัยก็มีคนมาตามจีบเยอะ แต่นางเอกไม่เคยสน เวลาเพื่อนถามก็บอกว่ามีแฟนแล้วตลอดแต่ติดคุกอยู่ เพื่อนก็นึกว่านางเอกพูดเล่น 

สุดท้ายก็มีเพื่อนที่จะแต่งเข้าตระกูลใหญ่มาบอกว่าพระเอกน่าจะถูกคุมขังอยู่ที่ไหน นางเอกถึงได้ตามเจอแล้วก็ไปเยี่ยม พระเอกเห็นก็ดีใจ แต่ก็ต้องพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามออกมา ทั้งที่รักมากกกก แต่ไหนตัวเองจะพิการ จะติดคุก มีคดีติดตัว ไม่มีอะไรมอบให้นางเอกได้เลย ไม่มีอนาคต (แต่ก่อนจะมอบตัวพระเอกฝากเพื่อนให้เอาเงินทั้งหมดของตัวเองมอบให้นางเอกด้วย แอบเตรียมการไว้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้นางเอกลำบาก) นางเอกกำลังอยู่ในวัยสดใสต้องเจออะไรอีกมาก พระเอกเลยอยากให้นางเอกออกไปเห็นโลกกว้างไปเจอคนที่ดีกว่า ไม่อยากให้นางเอกต้องเสียใจภายหลัง พูดแบบนี้ตลอดกระทั่งถึงวันที่แต่งงานกัน จนนางเอกโกรธ+ร้องไห้ เลยบอกว่างั้นพรุ่งนี้ไปหย่าเลย พอนางเอกจะพูดคำว่าหย่าพระเอกก็รีบปิดปากทันที ขอร้องว่าอย่าพูดคำนี้(พระเอกรับไม่ไหว) คือพระเอกจะไม่ยอมเข้าหอไม่ยอนนอนเตียงเดียวกับนางเอกอะ นางเอกก็เสียใจว่าทำไม ก็เราแต่งกันแล้วนิ่? ขนาดแต่งกันแล้วก็ยังจะไม่ยอมแตะต้อง ยังอยากให้ไปเจอคนที่ดีกว่าอีกเหรอ? ในเมื่อนางเอกก็บอกมาตลอดว่าชอบแต่พระเอกคนเดียว ชอบแค่เผยชวนคนนี้

แต่ข้อดีของนางเอกอีกอย่างคือ โกรธง่ายหายไว ไม่คิดมาก ง้อง่าย ไม่คิดอะไรซับซ้อนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม มองโลกในแง่ดี เพราะหลังจากพระเอกออกจากคุกไม่นานก็ขอนางเอกแต่งงานเลยนะ ที่ต้องรีบขอแต่งเพราะสามีเก่าในชาติก่อนของนางเอกมาตามระราน จะบีบให้นางเอกแต่งด้วยเพื่อไปเป็นเป้าล่อธนูเหมือนในชาติก่อนอีก ไปข่มขู่พ่อแม่นางเอก จนทำให้พ่อแม่นางเอกถูกไล่ออกจากงานและไม่มีที่ไหนยอมรับเข้าทำงาน แล้้วสุดท้ายก็เอาชีวิตน้องชายนางเอกมาขู่ พระเอกรู้ว่าบ้านนางเอกกำลังเจอกับปัญหาอะไร พี่แกก็ตั้งใจจะปกป้องนางเอกกับครอบครัว และตั้งใจจะใช้โอกาสนี้เพื่อให้ได้แต่งงานกับนางเอกด้วย เพราะรู้ว่าพ่อแม่ไม่มีทางเลือกอื่น แต่อีกใจหนึ่งพระเอกก็กลัวว่านางเอกจะโกรธเพราะเหมือนตัวเองกำลังฉวยโอกาส แต่กลายเป็นว่านางเอกไม่โกรธเลยจ้า 

อ่านจบแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ พระเอกของคุณนักเขียนคนนี้อ่านมากี่เรื่องก็ยังรันทดเหมือนเดิม55 แต่ถึงระหว่างทางจะเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายทว่าปลายทางก็ยังได้พบกับความสุข ขอบคุณนางเอกที่เป็นแสงสว่างและเป็นบ้านอันแสนอบอุ่นของพระเอก ทำให้พระเอกได้กลับมามีบ้านมีครอบครัวอีกครั้ง ทำให้รู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีแต่ด้านร้ายๆ แต่ยังมีด้านดีๆ และคนที่ดีก็ยังมีอยู่ ขอแค่ลองเปิดใจและเปลี่ยนมุมมองสักนิด และต้องขอบคุณเด็กน้อยเผยชวนที่ยืนหยัดอดทนสู้มาจนถึงวันนี้ ขอบคุณที่ไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน แม้จะผิดพลาดไปบ้างก็ไม่เป็นไร หนูเก่งมากแล้วจริงๆ 🥹

ส่วนพ่อแม่พระเอก...สุดท้ายก็ต้องติดอยู่กับฝันร้ายนั้นไปตลอด ชั่วชีวิตนี้ไม่มีวันได้พบเจอกับความสุข สรุปพ่อแม่ของพระเอกก็ไม่รู้เลยว่าลูกตัวเองเก่งด้านไหนและเก่งขนาดไหน พ่อเพิ่งมารู้เอาตอนพระเอกพานางเอกมากินข้าวด้วยก่อนแต่ง แล้วยื่นนามบัตรให้ ถึงได้รู้ว่าลูกเป็นนักวิทยาศาสตร์ทำงานให้รัฐบาล พ่อรู้ว่าตัวเองติดค้างพระเอกเพราะเกียรติยศการงานของพ่อแลกมาด้วยขาของลูกชาย ทว่าก็คิดแต่จะชดเชยด้วยการให้ทรัพย์สิน+ทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมดของตัวเอง ไม่ได้เข้าใจอะไรหรือพยายามทำความเข้าใจในตัวลูกเลย เห็นลูกเย็นชาไม่เข้าหา เข้ากับคนยาก พ่อก็ไม่ทำไร ทำแต่งาน สะใจตอนพ่อไปโรงเรียนพระเอกเป็นครั้งแรก แล้วได้รู้ว่าพระเอกกรอกในช่องประวัติไปว่าพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว (เห็นถึงสภาพจิตใจลูกหรือยังล่ะ) แต่นอกจากสะเทือนใจ+รู้สึกผิด พ่อก็ไม่ได้ทำอะไรอีกไม่ได้ไปถามไถ่ จากนัั้นก็ย้ายไปบ้านหลังใหม่โดยไม่บอกไม่ถามลูกอีกครั้ง(เหมือนตอนที่แอบแต่งงานใหม่นั่นแหละ) ...เฮ้ออ



วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568

วิวาห์ครื้นเครงอลเวงสลับคู่ 2 เล่มจบ

 


วิวาห์ครื้นเครงอลเวงสลับคู่ 2 เล่มจบ

ผู้แต่ง : ไป๋ลู่เฉิงซวง

ผู้แปล : เสี่ยวหวา

ปก : Reine_Beammer

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เรื่องราววุ่นๆ ของคู่พระนางที่ต้องมาแต่งงานกันเพราะคนที่ตัวเองชอบดันไปแต่งงานกับคนอื่น สองแสบจึงวางแผนจะไปชิงตัวคนในงานแต่ง แต่ผลคือพังไม่เป็นท่า และเพื่อให้รอดพ้นจากข้อหาปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ทั้งสองจึงต้องมาจับมือแต่งงานกันอย่างไม่เต็มใจโดยมีจุดหมายเดียวกันคือ ...ทำให้คนที่ตัวเองชอบหย่าจากคู่ของตัวเองซะ! ...นางเอกเป็นลูกสาวขุนนางใหญ่ เก่งเรื่องกลไกลสร้างอาวุธลับสร้างกับดัก ส่วนพระเอกเป็นลูกชายของท่านแม่ทัพใหญ่ ดูเอ้อระเหยลอยชายไม่เอาจริงเอาจัง แต่จริงๆ มีวรยุทธ์สูง วิชาตัวเบาก็ยอดเยี่ยม ...ทั้งสองคนต่างมีคนในใจที่หมายปองวาดฝันว่าจะได้แต่งงานด้วย แต่คนที่พวกเขาหมายปองกลับมาแต่งงานกันเองซะได้ ด้วยเหตุนี้แผนการร้ายๆ จึงบังเกิด

เป็นแนวคอเมดี้ขำๆ ผสมเรื่องราวการวางแผนแย่งชิงบัลลังก์ พระนางนิสัยเหมือนเด็กแสบๆ กวนๆ พระเอกเหมือนพวกอันธพาลหลังห้อง ส่วนนางเอกเหมือนเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา ดูซื่อๆ แต่ก็ไม่โง่(หรือโง่หว่า?) นางเอกมาจากครอบครัวที่อบอุ่นมากกก เพิ่งเคยเจอบ้านที่ไม่มีเรื่องราวหลังบ้านเลย บรรดาอนุกับภรรยาเอกรักใคร่ปรองดอง อนุในบ้านทุกคนต่างเอ็นดูรักใคร่นางเอก จึงไม่แปลกที่นางเอกจะใสซื่อบริสุทธิ์ เป็นคนเปิดเผยตรงๆ ปราศจากเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ นางเอกแอบชอบพี่ชายที่เป็นบุตรบุญธรรมของราชบัณฑิตใหญ่กู้ ส่วนพระเอกก็มีความสัมพันธ์คลุมเครือเหมือนเพื่อนเหมือนคนรักกับองค์หญิงคนเดียวของราชวงศ์

คนในครอบครัวก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนแสร้งแต่งงานกันหลอกๆ ไม่ได้เข้าหอกันจริง หลังแต่งพระนางก็พยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้คู่ขององค์หญิงกับราชบุตรเขยเกิดความร้าวฉานกินแหนงแคลงใจกัน เช่นแกล้งไปแสดงความรักต่อหน้าคนเขาเพื่อหยั่งเชิง เพื่อทดสอบว่าองค์หญิงกับราชบุตรเฉยจะโกรธหรือเสียใจ+เสียดายไหม ของฝั่งราชบุตรเขยนี่ตอนหลังคือหักมุมไปเลยจ้า ส่วนขององค์หญิงนี่น่าจะมองพระเอกเป็นเหมือนทรัพย์สินของตัวเองมากกว่า ไม่ถึงขั้นรักแต่ก็ไม่ชอบหากพระเอกจะไปปกป้องดูแลหรือชอบสตรีอื่นมากกว่าตน 

เหมือนเด็กหวงของเล่น ถึงตัวเองจะไม่เล่นแต่ก็ไม่อยากให้คนอื่นได้ไป คือองค์หญิงอะคบหาสหายได้ทั้งชายและหญิงไม่แบ่งแยก เป็นองค์หญิงที่ไม่เคร่งครัดหรืออยู่ในกรอบ ซึ่งการกระทำหลายๆ อย่างขององค์หญิงมันก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร ขัดกับธรรมเนียมประเพณีในสมัยนั้น (แบบเป็นลูกคนเดียวของฮ่องเต้ด้วยมั้งก็เลยเลี้ยงแบบตามใจปล่อยจอย) ซึ่งบางอย่างมันก็ชวนให้คิดไปไกลกว่าคำว่าเพื่อน อย่างเช่นใกล้ชิดสนิทสนมกับบุรุษเกินไป ชวนเพื่อน(บุรุษ)ที่แต่งงานแล้วออกไปเที่ยวเล่นออกไปกินข้าวงี้ พอภรรยาเขาไม่พอใจก็บอกว่าคิดมาก+บริสุทธิ์ใจ+เราเป็นแค่เพื่อนกัน กลายเป็นฝั่งภรรยาที่หึงหวงเกินเหตุไปเองซะอย่างนั้น ก็เพราะนิสัยแบบนี้แหละพระเอกถึงได้คิดว่าองค์หญิงใจตรงกันกับตัวเอง(ใครจะไม่คิด)

พระนางออกแนวคู่กัด พระเอกปากร้าย บางทีก็น่ารักบางทีก็น่าตบ เป็นคนไม่ทะเยอทะยาน ดูไม่ค่อยเอาจริงเอาจังกับชีวิต เอาแต่กินเล่นเที่ยว+คบหาสหายในยุทธภพไปทั่ว  เพราะแบบนี้มั้งองค์หญิงถึงไม่เลือกพี่แก55 พอเห็นว่าองค์หญิงชอบคนที่เอาการเอางานพระเอกถึงได้ไปร่วมสอบจ้วงหยวนฝ่ายบู๊ด้วย ซึ่งสนามสอบของฝ่ายบู๊จะเปิดให้คนเข้าไปร่วมดูได้ไม่เหมือนของฝ่ายบุ๋นที่ห้ามคนเข้า ทีนี้นางเอกกับองค์หญิงก็ไปดู นางเอกก็นึกว่าพอสอบเสร็จพระเอกคงพุ่งตัวไปหาองค์หญิงก่อนเลยคิดจะหลบให้ องค์หญิงเองก็คิดแบบนั้น แต่พระเอกดันพุ่งตัวไปหานางเอกจ้า องค์หญิงก็เหวอเลยหน้าแตก ตอนนั่งรถม้ากลับด้วยกันเห็นพระนางทะเลาะเถียงกัน ในใจองค์หญิงก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดไม่สบอารมณ์

พอพระเอกได้เป็นจ้วงหยวนฝ่ายบู๊ พ่อพระเอกก็ไปตกลงเจรจาตำแหน่งกับเพื่อนไว้ให้ แต่องค์หญิงไม่อยากให้นางเอกกลายเป็นภรรยาของขุนนางตำแหน่งสูง เลยไปเป่าหูพ่อฮ่องเต้ให้มอบตำแหน่งขุนนางขั้นสี่ให้พระเอกแทน แต่ไม่กี่วันพระเอกก็ทะยานกลับมาสู่ตำแหน่งเดิมที่พ่อเคยคุยกับเพื่อนไว้ให้ได้สำเร็จ ...คือพระเอกชอบทำเหมือนเล่นๆ ไม่จริงจัง แต่อ่านๆ ไปจะรู้ว่าความจริงพี่แกอะฉลาดเจ้าเล่ห์มาก เป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมาแต่ไม่ได้ซื่อ(เหมือนนางเอก55) ก็แค่เวลาอยู่กับคนในครอบครัวพระเอกจะปล่อยตัวตามสบาย ชอบทำตัวเหมือนเด็กเฉยๆ 

พอนางเอกรู้วิธีที่พระเอกใช้เลื่อนขั้นก็เริ่มเสียวๆ เลยวางแผนจะหาเงินเพื่อเตรียมทางหนีทีไล่ให้กับคนในครอบครัวตัวเอง เพราะพ่อนางเอกเป็นขุนนางมือสะอาดไม่รับสินบน ที่บ้านนางเอกเลยไม่ค่อยมีตังค์ นางเอกเลยเริ่มทำเครื่องมือกลไกลออกขายเพื่อหาเงิน และเพราะความสามารถนี้จึงทำให้นางเอกได้รับตำแหน่งขุนนางหญิงคนแรกของแคว้นด้วย ฮ่องเต้ให้นางเอกติดตั้งกลไกกับดักในวัง รวมถึงวังองค์หญิงลูกสาวสุดที่รักของตัวเอง แต่สองสาวดันมีปากเสียงกันก่อนเลยยังไม่ได้ติด จากนั้นองค์หญิงก็แท้งลูกและกล่าวหาว่านางเอกเป็นคนทำ พระเอกเลยรีบจับนางเอกไปขังคุกของกรมอาญาไว้ก่อน เพราะรู้ว่าหากปล่อยให้ฮองเฮาแม่ขององค์หญิงจัดการ นางเอกต้องโดนหนักแน่ แต่นางเอกไม่รู้นึกว่าพระเอกไม่เชื่อตัวเองแต่เข้าข้างองค์หญิงก็เลยโกรธ(ก็จริงแหละเปิดปากทีถ้าพระเอกไม่หาเรื่องนางเอกก็ดุด่า ไม่ชอบพูดหรืออธิบายดีๆ พูดได้แป๊บๆ ก็ทะเลาะกัน ไม่เหมือนราชบุตรเขยที่พูดเพราะสุภาพอ่อนโยน)  แต่ความจริงพระเอกอะวิ่งวุ่นหาทางช่วยนางเอกอยู่ตลอด สุดท้ายความจริงปรากฏ กลายเป็นว่าองค์หญิงแอบเล่นชู้จนแท้งลูกต่างหาก

แต่เพราะเป็นองค์หญิงเดี๋ยวจะเสื่อมเสีย เรื่องก็เลยเงียบ นางเอกก็ถูกปล่อยตัว ตัวผู้ชายที่ไปเล่นชู้กับองค์หญิงก็เจอภรรยาขอหย่า แต่ไม่นานองค์หญิงก็จัดงานเลี้ยงเชิญคนมา แถมยังเชิญชู้กับอดีตภรรยาของเขามาด้วย เพื่อบังคับให้อดีตภรรยาเขากลับมาอยู่กับสามีที่เคยเป็นชู้กับตัวเอง โอ๊ยยจะบร้า (ตอนแรกก็นึกว่าองค์หญิงแค่เป็นคนเปิดกว้าง หัวสมัยใหม่เฉยๆ แต่อ่านๆ ไปไม่ใช่และ พระเอกเคยชอบไปได้ไงเนี่ย) ชอบอดีตภรรยาชู้มาก เป็นสตรีคนเดียวในเมืองหลวงที่กล้าไฟท์กับองค์หญิง ด่าซะองค์หญิงหน้าชา สะใจมาก

พอองค์หญิงสู้ไม่ได้ก็กลับบ้านไปฟ้องแม่ หารู้ไม่ว่าบ้านฝั่งแม่ก็กำลังจะซวยเพราะไปทำเรื่องไม่ดีไว้เยอะ (เหตุใดพระสนมในวังถึงไม่มีลูกเลยก็ฝีมือฮองเฮานี่แหละ) ตอนนี้กำลังถูกขุนนางยื่นฎีการ้องเรียน ฮ่องเต้กริ้วจัดจะสั่งประหารบ้านฮองเฮา ฮองเฮาเลยวางแผนจะหาคนหน้าเหมือนมารับโทษแทนญาติ แต่พระนางไปรู้แผนเขาเลยแอบสับเปลี่ยนคนคืน สุดท้ายญาติตัวเองก็โดนประหารจริงๆ ...จากนั้นก็มีสงครามเกิดขึ้นหลายที่ ฮ่องเต้เลยสั่งให้พวกแม่ทัพใหญ่ไปรบ พระเอกก็ถูกคนล่อออกจากเมือง ซึ่งทั้งหมดก็คือแผนล่อเสือออกจากถ้ำเพื่อสับเปลี่ยนแผ่นดินชิงบัลลังก์ของใครบางคน

พระเอกเรื่องนี้ปากแข็งมาก เข้าใจว่าเน้นทำไม่เน้นพูด แต่บางทีมันก็ต้องพูดบ้างนะ เพราะพระเอกเป็นประเภทปากไม่ตรงกับใจตัวพ่อ บางทีก็ชอบเผลอพูดจาแรง มันเลยยิ่งทำให้คนเข้าใจผิดคิดไปอีกทาง ดังนั้นกว่านางเอกจะรู้ว่าพระเอกชอบตัวเองจริงก็เลยล่อไปปลายเล่มสองแล้ว(อยากเข้าไปตีปากจริงๆ) เห็นนางเอกแสบซนแบบนี้ยังกล้าเปิดเผยความรู้สึกมากกว่าอีก ทั้งที่หึงนางเอกซะขนาดนั้น ไปไหนมาไหนก็แบกคนเขาใส่หลังแทบจะตลอด แบบใครมองก็ดูออกว่าชอบเขา แต่พอถามก็ชอบพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจ กว่าอิพี่จะยอมพูดคำว่าชอบได้ก็ต้องรอจนเมียหนีนะ ...

เนื้อเรื่องเหมือนจะตลกแต่บางคำพูดก็แอบเจ็บจี๊ด เราชอบนิสัยของพระนาง และอีกหลายตัวละครในเรื่อง อย่างน้องชายพระเอกก็น่าสนใจ เป็นคุณชายน้อยของตระกูลแม่ทัพ พื้นฐานต่างๆ เหมาะจะมาทางบู๊มากกว่า แต่น้องดันชอบอ่านตำราอยากเป็นบัณฑิต ที่บ้านก็ไม่บังคับ ส่วนคู่น้องสาวพระเอกก็ชอบแปลกดี น้องสาวพระเอกชื่นชอบการหลอมอาวุธเป็นชีวิตจิตใจเลยไม่อยากแต่งงาน เพราะการแต่งงานไม่ตอบโจทย์ แต่ผู้หญิงสมัยโบราณคือไม่แต่งงานออกเรือนไม่ได้ แต่โชคดีที่น้องสาวพระเอกได้เจอกับคนที่คลั่งไคล้อาวุธเหมือนกัน สามีตามใจฝุดๆ แบบสร้างโรงหลอมให้เมียเลยจ้า แต่งไปคือดีชีวิตมีความสุขยิ่งกว่าเดิม 

แรกๆ พระนางยังร่วมมือเพื่อจะทำให้คนที่ตัวเองชอบหย่า แต่พอได้อยู่ด้วยกันนานวันเข้า+ได้พบเจอเรื่องราวหลายๆ อย่าง ได้มองเห็นความจริงบางอย่าง ใจคนก็เริ่มสั่นไหวแปรเปลี่ยน ...หลังๆ จะเป็นเรื่องการเมือง+การแย่งชิงบัลลังก์ของแคว้นเก่าที่เคยล่มสลาย ต้องทำใจมันเป็นธรรมชาติ แพ้ก็เป็นพระ ชนะก็เป็นโจร อยู่ที่ว่าใครจะมีกำลังมีความสามารถมากกว่ากัน เดิมพระเอกว่าจะถอนตัวแต่ฮ่องเต้ดันเอาชีวิตนางเอกมาขู่พี่แก พระเอกผู้ซึ่งชอบไม้อ่อนแต่เกลียดไม้แข็ง สุดท้ายเลยพานางเอกแกล้งตายหนีไปท่องยุทธภพด้วยกันสองคน ใครจะแย่งชิงบัลลังก์ก็ตามสบาย เรื่องอะไรต้องให้พี่แกมาแบกรับทุกอย่างด้วย (พอเห็นว่าพระเอกเก่งก็ใช้ใหญ่เชียว รู้แล้้วว่าทำไมพระเอกถึงไม่อยากเป็นขุนนาง55)

ป.ล. เข้าใจและว่าทำไมพระเอกถึงถูกคนในยุทธภพตามไล่ล่า ก็เพราะพี่แกเป็นผู้นำยุทธภพไง55 เคยลงสนามสู้แล้วได้ป้ายผู้นำยุทธภพมา พอพวกสำนักในยุทธภพเห็นป้ายนี้ก็ต้องยอมก้มหัวเชื่อฟังพี่แก แม้แต่วัดเส้าหลินก็ไม่เว้น คนถึงได้ตามฆ่าเพราะอยากได้ป้ายนี้คืน55



วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568

กระบี่โอบจันทรา 3 เล่มจบ

 

กระบี่โอบจันทรา 3 เล่มจบ

ผู้แต่ง : ซานจือจื่อ

ผู้แปล : พวงหยก

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

เรื่องราวความรักของค์หญิงสูงศักดิ์ที่ฮ่องเต้โปรดปรานมากที่สุดของราชวงศ์ กับนักฆ่าหนุ่มสุดเย็นชาที่ป่วยเป็นโรคประหลาดแต่ใจดีกับเธอขาเพียงแค่คนเดียว🥹 

ตอนฟังเรื่องย่อที่พี่แจ่มเอามาเล่า เราก็นึกว่านางเอกคงเป็นองค์หญิงแก่นๆ ที่เบื่อกฏระเบียบในวังเลยอยากหนีออกจากบ้านเล่นๆ แต่ความจริงไม่ใช่เลยพี่จ๋าาาา ...สถานะองค์หญิงที่ใครๆ พากันอิจฉาอยากเป็นกันนักหนา แต่สำหรับนางเอกเรื่องนี้ตรงกันข้ามเลย เพราะนี่คือสถานะที่นางไม่ต้องการ อยากหนีไปให้ไกลๆ หรือขอตายเสียเลยยังดีซะกว่า 

ฮ่องเต้ในเรื่องนี้เชื่อและงมงายในลัทธิเต๋าแบบไม่ลืมหูลืมตา ส่วนนางเอกเป็นลูกของท่านอ๋องคนหนึ่ง เกิดมาพร้อมกับนิมิตรมงคล เลยมีคนทำนายว่านางจะมีดวงเกื้อหนุนแผ่นดินให้เฟื่องฟูและถูกลิขิตให้ไม่อาจแต่งงาน นางเอกถูกรับตัวเข้าวังตั้งแต่เด็กกลายเป็นองค์หญิงที่ฮ่องเต้โปรดปรานมากที่สุดเสียยิ่งกว่าเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของตัวเอง ทว่าต่อให้สูงศักดิ์แค่ไหนนางเอกก็ไม่ต้องการ

ต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรอบเคร่งครัดซะยิ่งกว่าพวกองค์หญิงองค์ชายที่เป็นลูกแท้ๆ ของฮ่องเต้ ทุกวันกินได้แต่อาหารเจ ต้องคัดคัมภีร์เรียนรู้หลักคำสอนของเต๋ากับพวกนักพรต ไม่เคยกินเนื้อสัตว์ ไม่เคยได้เล่นหรือใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยเดียวกัน ไม่เคยได้พบหน้าพ่อ แม้แต่เพื่อนเพียงคนเดียวก็ยังตายอนาถ มีชีวิตก็เหมือนไม่มี เป็นเพียงหุ่นกระบอกตัวหนึ่งที่ให้คนจับวางไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไร 

แต่ความจริงใช่ว่านางเอกจะไม่เคยขัดขืน แต่เพราะโทษของการขัดขืนมันช่างหนักหนาเกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะรับไหว สุดท้ายนางเอกจึงได้แต่เลิกต่อต้าน เก็บเขี้ยวเล็บกลายเป็นเด็กดีเชื่อฟังอย่างเดียว บอกขวาไปขวาบอกซ้ายไปซ้าย เดิมคิดว่าจะทนใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนชั่วชีวิต หากไม่มาเจอจุดเปลี่ยนจากการตายของเพื่อนที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ซึ่งทำให้นางเอกอยากหลบหนีและอยากตาย

นางเอกอาศัยจังหวะในตอนที่รถม้าของตัวเองกับฮ่องเต้ถูกดักซุ่มโจมตีระหว่างออกไปข้างนอกหนีออกมา ทำให้คนอื่นคิดว่านางถูกคนร้ายจับตัวไป ขณะหลบหนีก็ได้พบกับพระเอกซึ่งเป็นนักฆ่าที่พาคนมาดักซุ่มโจมตีพอดี พอเจอหน้าก็ร้องขอให้พระเอกช่วยฆ่าตัวเองหน่อย แบบไม่อยากอยู่แล้วจริงๆ 🥲 ...

พระเอกเป็นนักฆ่าหนุ่ม หรือผู้คุมกฏสิบเจ็ดแห่งหอจื้อเฟิง แม้จะเย็นชาเลือดเย็นสังหารคนตาไม่กะพริบ แต่พระเอกกลับอ่อนโยนและดีกับนางเอกมาก พระเอกนี่สายเปย์ ขนาดไม่เข้าใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่กลับทรีตนางเอก(คนเดียว) ดีมากๆ ไปเห็นอะไรอร่อยๆ ดูน่ากิน ของไหนดูน่าสนุก เสื้อผ้าเครื่องประดับอันไหนสวยๆ ของไหนเลิศ ก็ขนซื้อกลับมาให้นางเอกหมด ไม่รู้นางเอกชอบสีไหนก็ขนมันมาหมดทุกสี รักและตามใจนางเอกฝุดๆ อยากมอบสิ่งที่ดีสวยๆ งามๆ ให้ อยากพาเธอขาออกไปเที่ยวเล่นดูโลกกว้าง เวลาออกไปทำงานไปฆ่าคนก็ยังไม่ลืมบอกนางเอกก่อน ไม่ปิดบังเลย หลังจบงานบางทียังแวะซื้อขนมกลับมาฝากอีกด้วยนะ ชิลมากก55

เล่มแรกนางเอกติดตามเดินทางไปกับพระเอก เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นโลกกว้างได้ใช้ชีวิตอย่างแท้จริง ระหว่างทางมีคนมาว่าจ้างพระเอกให้ไปช่วยคนออกจากคุก ซึ่งภายหลังคนนี้แหละจะเป็นอีกคน(รองจากพระเอก)ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยพานางเอกหนีออกจากกรงขัง... ถึงพระเอกจะอายุยังน้อย(16 ปี) แต่ก็เป็นนักฆ่าที่เก่งมาก ฉลาดมีไหวพริบ มีวรยุทธ์และกำลังภายในสูง เด็ดขาดไม่มีใจอ่อน ทั้งกับคนอื่นและตัวเอง (เพราะใจอ่อนกับเธอขาแค่คนเดียว) 

นางเอกเผลอทิ้งร่องรอยเอาไว้โดยไม่ตั้งใจจึงทำให้คนของฮ่องเต้ตามจนเจอ (จริงๆ มีโอกาสหนีรอดนะ แต่นางเอกไม่อยากแลกด้วยการสังเวยชีวิตคนอื่นเลยยอมกลับไปแต่โดยดี) ระหว่างทางกลับทีแรกนางเอกยังนิ่งๆ แต่พอรู้ว่าข้าวของที่พระเอกให้มาทั้งหมดถูกคนโยนทิ้งก็โกรธมาก เป็นครั้งแรกที่แสดงอารมณ์ความโกรธออกมา พวกคนรับใช้เลยพากันตกใจรีบพานางเอกกลับไปหาของ พอกลับมาก็ได้รู้ข่าวเรื่องครอบครัวของเพื่อนคนที่ตาย จากนั้นนางเอกก็ดิ่งเลย คนอื่นมองจากภายนอกก็คิดว่านางเอกอยู่ในวังต้องมีชีวืตที่ดีสุขสบาย+หรูหราแน่ๆ มีน้อยคนมากที่มองออกว่านางเอกต้องแบกอะไรไว้บ้างและใกล้จะพังทลายเต็มที ขนาดฮ่องเต้ที่ว่าโปรดปรานนางเอกมากๆ ก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ทำให้นางเอกเปลี่ยนกลายเป็นเหมือนหุ่นกระบอกไม่หือไม่อือเลย ไม่รู้ว่าในใจนางเอกรู้สึกยังไงพังทลายแค่ไหน แม่ที่เข้ามาเยี่ยมในวังก็ไม่เข้าใจ แต่พ่อนางเอกที่ไม่เคยได้พบหน้าลูกกลับเข้าใจจิตใจลูก(เว้ยเฮ้ย) ...ความจริงจุนพ่อรักลูกมากนะแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงทำให้ไม่อาจไปเจอหน้าลูกได้ (สุดท้ายมันก็เป็นรื่องของอำนาจกับการเมืองนี่แหละ)

ส่วนพระเอกก็ยอมโดนลงโทษตามกฏของสำนัก เพราะพี่แกจะออกจากสำนักถาวร คนที่คิดจะออกจากสำนักต้องได้รับโทษก่อนถึงจะถอนตัวและพาผู้ติดตามออกไปด้วยได้ พอออกมาพี่แกก็รีบมุ่งหน้าไปหาเธอขาทันทีโดยที่แผลยังไม่หายดี จากนั้นก็ใช้เส้นสายเข้าไปอยู่ในวังในฐานะองครักษ์ คอยอยู่ข้างกายนางเอก ทำให้นางเอกมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งคนรัก พอมีคนหนุนหลังมีคนที่ใส่ใจตัวเองอย่างแท้จริง นางเอกก็เริ่มมีความกล้า กล้าที่จะปฏิเสธในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบไม่อยากทำ... 

ระหว่างนี้พระเอกก็ซุ่มวางแผนเตรียมจะพานางเอกหนีออกไปอยู่ตลอด ถ้าไม่ใช่พระเอกก็ไม่น่าจะมีใครกล้าแล้ว เพราะนางเอกไม่ได้เป็นเพียงองค์หญิงที่ฮ่องเต้โปรดปรานแต่ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของแคว้นที่ผู้คนนับถือศรัทธา ...พระเอกใจเด็ดมาก ทำทุกอย่างเพื่อเธอขาจริงๆ ส่วนไอ้เรื่องชนชั้นต่างศักดิ์อะไรนั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย พระเอกไม่เคยแคร์อยู่แล้ว เพราะไม่ว่านางเอกจะเป็นองค์หญิงหรือเป็นคนโปรดฮ่องเต้ก็ไม่มีผลอะไรกับพี่แกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วจ้าาา55 

ทว่าไม่ใช่แต่นางเอกที่น่าสงสาร พระเอกเองก็น่าเห็นใจไม่แพ้กัน คือระหว่างที่ช่วยนางเอก อีกทางหนึ่งพระเอกก็ต้องจัดการเรื่องบัญชีความแค้นของอาจารย์ตัวเองไปด้วย พระเอกเป็นเด็กกำพร้าได้อาจารย์เก็บไปเลี้ยง หลังอาจารย์ตายพระเอกก็ยอมมีชีวิตอยู่ต่อโดยมีเป้าหมายคือการตามหาตัวคนที่ทำร้ายอาจารย์แล้วล้างแค้น แต่ในวันที่ได้พบตัวการกลับเป็นวันที่พระเอกต้องสะเทือนใจถึงขีดสุดจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ดีนะที่นางเอกมาทันแล้วสามารถดึงพระเอกกลับมาได้...

เป็นแนวยุทธภพผสมราชสำนัก ความรักเป็นแบบค่อยๆ บ่มเพาะ ไม่หวือหวาแต่(โคตร)อบอุ่น ต่างคนต่างเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายกลายเป็นแสงสว่างของกันและกัน ในยามที่สิ้นหวังหรือหมดกำลังใจแต่พอคิดได้ว่ายังมีอีกคนเฝ้ารออยู่ก็ทำให้ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ปมในใจ+อดีตที่เลวร้ายต่างๆ แต่ขอเพียงเขาและเธอได้จับมือยืนเคียงข้าง เรื่องทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไม่หนักหนาอะไรขนาดนั้นอีกต่อไป เป็นพระนางที่มีชีวิตอยู่เพื่อกันและกัน โชคดีที่เขาได้เจอกัน...

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568

อาจารย์มารหวนภพ 4 เล่มจบ



อาจารย์มารหวนภพ 4 เล่มจบ

ผู้แต่ง : ขวงซั่งจยาขวง

ผู้แปล : กอหญ้า

ปก : Leila

สำนักพิมพ์ อรุณ

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ผลงานของท่านขวง ออกมานานแล้วซีรีส์ก็ฉายจบแล้วแต่เพิ่งได้อ่าน55 แนวเทพเซียน บำเพ็ญเพียร ปราบปีศาจ

นางเอก มู่ชิงเกอ อดีตเจ้าสำนักซีซาน ผู้บำเพ็ญเพียรหญิงที่มีพลังวัตรสูงมีพรสวรรค์โดดเด่น เป็นที่น่าอิจฉาและน่าจับตามอง แต่สำนักของนางเอกจะรับเฉพาะคนหน้าตาดีเป็นศิษย์เท่านั้น และพระเอกก็คือหนึ่งในผู้โชคดีที่ถูกนางเอกหมายตามัดมือชกให้มาเป็นลูกศิษย์ ...พระเอกเป็นลูกนอกสมรสของอ๋องคนหนึ่ง มีวัยเด็กที่ขมขื่นไม่น่าอภิรมย์นัก นิสัยจึงเย็นชาโดดเดี่ยวไร้ความรู้สึก ในใจสั่งสมความแค้นความไม่พอใจหวังขึ้นไปสู่จุดสูงสุดแล้วมาจัดการกับพวกที่เคยเหยียบย่ำตนเองในอดีต พระเอกมีดวงชะตาได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่ถูกนางเอกสับเปลี่ยนทำให้ชวดบัลลังก์ ซึ่งสุดท้ายนางเอกก็ต้องแบกรับผลกรรมของการสับเปลี่ยนดวงชะตานี้

ในอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน นางเอกเคยเปิดประตูอินทำให้บุตรมารหลุดออกมาจนเกือบเกิดหายนะ เป็นเหตุให้ถูกพวกสำนักเซียนรุมล้อมโจมตีจนถึงแก่ความตาย แถมหนึ่งในนั้นยังมีพระเอกรวมอยู่ด้วย มิหนำซ้ำหลังตายนางเอกยังต้องแบกรับชื่อเสียงฉาวโฉ่+คำครหาเลวร้ายต่างๆ ที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้นอีก...

แต่ใครเลยจะรู้ว่าหลังร่างกายแตกดับ ศิษย์ที่ลงมือสังหารอาจารย์อย่างพระเอกจะยอมสละเม็ดพลังกว่าครึ่งของตัวเองเพื่อให้อาจารย์ที่ตนชิงชังหนักหนาได้มาเกิดใหม่อีกครั้งบนต้นไม้เซียน ...ทว่าการเกิดใหม่นี้ก็ใช่ว่าจะง่ายดาย เพราะพวกสำนักเซียนทั้งหลายที่รู้เรื่องนี้ต่างก็พากันหมายปองอยากครอบครองผลไม้ทิพย์หรือก็คือนางเอกที่มาเกิดใหม่จนตัวสั่น เพราะทุกคนรู้ถึงพลังความแกร่งความเก่งของนางเอกในชาติก่อน เลยอยากได้คนเขามาเป็นเกราะคุ้มกันในตอนที่จะฝ่าด่านเคราะห์ทัณฑ์สวรรค์ ...หารู้ไม่ว่านางเอกน่ะร่วงหล่นจากต้นไม้เซียนไปตั้งแต่ 16 ปีก่อนแล้ว ส่วนคนที่กำลังจะเกิดใหม่น่ะคือน้องสาวของนางเอกต่างหาก ...โฮะๆๆ

น้องสาวของนางเอกอิจฉาพี่สาวตัวเองมาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว ก่อนทั้งสองคนจะตาย อิน้องเลยแอบใช้หยกวิเศษสับเปลี่ยนดวงชะตาตัวเองกับพี่สาว พอมาเกิดใหม่นางเลยได้รับสืบทอดพลังวัตรและใบหน้าของนางเอก คนเลยคิดว่านางคือมู่ชิงเกอหรือนางเอกที่กลับมาเกิดใหม่ มีเพียงแค่พระเอกคนเดียวที่รู้ว่าไม่ใช่ แต่ก็ไม่คิดเปิดโปง เพราะพระเอกอยากให้นางเอกได้ใช้ชีวิตในชาตินี้อย่างสบายใจไร้สิ่งใดผูกมัด ไม่ต้องแบกรับภาระอะไรเหมือนอย่างในชาติก่อนอีก ...ชาตินี้นางเอกถูกครอบครัวช่างไม้เก็บไปเลี้ยงดู สองสามีภรรยารักและเอ็นดูนางเอกเสมือนลูกแท้ๆ เติบโตมาแบบได้รับความรักเต็มเปี่ยม แต่เสียอย่างเดียวคือร่างกายอ่อนแอ เพราะนางเอกร่วงหล่นก่อนเวลา เป็นผลไม้ที่ไม่สมบูรณ์ ร่างกายจึงไม่อาจอยู่ห่างจากต้นไม้เซียนไกลๆ ได้

ชาตินี้นางเอกกลายเป็นลูกศิษย์ของพระเอก พระเอกกลัวนางเอกเหงาเลยจำใจเปิดรับศิษย์ใหม่เพิ่มเพื่อให้มาเป็นเพื่อนเล่นนางเอก (แต่ก็รับเพิ่มแค่ 3 คนนะ55) ไม่ได้รับโดยดูจากพลังวัตรหรือความสามารถ แต่รับเพราะคนในตระกูลของลูกศิษย์เคยมีบุญคุณกับสำนักมาก่อน ดังนั้นศิษย์สำนักนี้เลยมีแต่พวกพลังอ่อนด๋อย (แต่นิสัยดี+สามัคคีกัน) ส่วนนางเอกตอนแรกๆ ก็ยังไม่ค่อยเก่ง เพราะร่างกายอ่อนแอ ฝึกอะไรก็ไม่รุดหน้า แต่ฝีมือในการทำอาหารกลับยอดเยี่ยม ขนาดพระเอกที่เลี่ยงอาหารมานานพอมาเจออาหารที่นางเอกทำยังต้องหันกลับมากินเหมือนเดิม55 

จากนั้นไม่นานพระนางกับศิษย์ทั้งหลายก็ต้องลงจากเขาเพื่อไปปฏิบัติภารกิจ เพราะอดีตลูกศิษย์ของนางเอกที่ตอนนี้เป็นแม่ทัพส่งจดหมายมาขอความช่วยเหลือ ท่านแม่ทัพหรืออดีตศิษย์ของนางเอกคนนี้เป็นคนซื่อตรงหัวดื้อ เคารพรักนางเอกที่เป็นอาจารย์มาก ในชาติก่อนนางเอกเคยขอให้พี่แกทำงานอยู่ตรงนี้(เพื่อเฝ้าของบางอย่าง) ถ้าหากเกิดปัญหาก็ให้ไปตามพระเอกมาช่วย พี่แกก็เชื่อฟังทำงานอยู่ที่นี่มาตลอดไม่ยอมย้ายไปไหน พอเกิดปัญหาก็ไปตามพระเอกมาช่วยตามที่สั่ง ทั้งที่ในใจไม่ชอบเขาฝุดๆ

พอพวกพระเอกมาถึงก็เฝ้าสังเกตจนพบว่ามีคนใช้คาถาต้องห้ามที่ทำให้คนกลายเป็นปีศาจเพื่อสร้างความวุ่นวายอยู่ จากนั้นก็ได้พบกับของที่นางเอกเคยเอามาซ่อนไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว จากนั้นตัวปลอมหรือน้องสาวนางเอกก็ตามมาเพื่อหาเบาะแสของของชิ้นนั้นเหมือนกัน นางคิดจะหลอกถามจากแม่ทัพคนซื่อที่เป็นอดีตลูกศิษย์ของนางเอก แต่พระเอกรู้ทันเลยชิงใช้ยันต์กับแม่ทัพทำให้อีกฝ่ายไม่อาจพูดถึงเบาะแสได้

จากนั้นนางเอกกับพวกศิษย์พี่ก็ต้องเดินทางไปยังเขาเทียนม่าย เพื่อเข้าร่วมการทดสอบคัดเลือกผู้มีสิทธิ์ได้เข้าไปแช่น้ำในสระชำระไขกระดูกที่ผู้ทรงฤทธิ์ในอดีตทิ้งเอาไว้(หากใครได้ลงแช่ในสระพลังวัตรก็จะเพิ่มขึ้น) นางเอกกับพวกศิษย์พี่ร่วมแรงร่วมใจกันจนผ่านด่านแรกเข้ามาได้ เป็นสำนักเดียวที่ผ่านด่านแรกไปได้ทั้งสำนัก (บอกแล้วว่าถึงคนจะน้อย แต่คนในสำนักนางเอกสามัคคีกันมาก) ซึ่งสุดท้ายก็มีแค่สองคนที่สามารถผ่านด่านต่างๆ จนมาถึงสระชำระไขกระดูกได้ ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือนางเอกจ้า

ส่วนน้องสาวนางเอกหรือตัวปลอมนั้นถึงแม้จะมีพลังวัตรสูงกว่าใครเพื่อน ทว่าท้ายที่สุดก็ฝ่ามาไม่ถึงด่านสุดท้าย นางเลยใช้แผนชั่วปล่อยแมลงเซียนออกมา ซึ่งแมลงเซียนก็คือแมลงที่มีความสามารถในการดูดหรือสูบพลังวัตรของผู้บำเพ็ญเพียร รอจนเหลือแมลงตัวสุดท้ายที่รอด อิน้องสาวก็จะสังหารแมลงตัวนั้นเพื่อชิงเอาพลังทั้งหมดมาเป็นของตน ยิงทีเดียวได้นกสองตัว ทั้งได้พลังและได้กำจัดคนที่นางอยากให้ตายด้วย

ชาตินี้น้องสาวนางเอกร้ายโคตรๆ กู่ไม่กลับ อิจฉาพี่ตัวเองมาตั้งแต่ชาติก่อน ชาตินี้เลยคิดจะมาแทนที่พี่ แย่งตัวตน แย่งพลัง แย่งลูกศิษย์ลูกหา แย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพี่ไป ไม่ว่าจะฐานะหน้าตาหรือชื่อเสียง รวมถึงพระเอกด้วย แต่น่าเสียดายที่พระเอกไม่เคยชอบหรือสนใจนางเลย ไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้ ...ตอนอิน้องเกิดใหม่เคยขอกลับเข้าไปอยู่สำนักซีซานตามเดิมนะ แต่พระเอกไม่รับ นางเลยต้องไปอยู่สำนักอื่นแทน 

ใช้ฐานะของพี่สาวหลอกล่อผู้คน ดึงคนมาเป็นพวก แต่พอหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง ทั้งยังพร้อมแทงข้างหลังได้ตลอดเวลา...ขนาดพี่สาวดีกับนางมากๆๆ นางยังไม่รู้ตัว เพราะความริษยามันบังตา ชีวิตไม่ดีไม่ประสบความสำเร็จก็โทษแต่พี่สาว คิดว่าพอได้เกิดใหม่สวมรอยเป็นพี่ตัวเองแล้วชีวิตจะดี มีผู้มารุมล้อมเอาใจ ที่ไหนได้ คนเริ่มจับไต๋นางได้ทีละคนสองคนว่าเป็นตัวปลอม แต่ก็ยังมึอีกหลายคนที่ไม่รู้และถูกนางหลอกใช้ ที่สำคัญคือนางยุเก่ง ชอบยุให้คนแตกคอฆ่ากันเองแบบหน้าซื่อตาใส

ภารกิจสำคัญของพระนางก็คือการเอาน้ำพุวิญญาณกลับคืนสู่แดนอิน ตอนเอาออกมาว่ายากแล้วตอนจะส่งกลับยิ่งยากกว่า ต้องมีกุญแจเข้าสู่แดนอิน ต้องหาน้ำพุวิญญาณให้เจอ จากนั้นก็รอถึงวันที่ประตูจะเปิดเอง ระหว่างรอก็ต้องหาวิธีเก็บรักษาน้ำพุวิญญาณไปด้วย ทั้งยังต้องระวังคนนู้นคนนี้ที่คิดจะฉกฉวยขโมยกุญแจกับน้ำพุวิญญาณไป แล้วไหนจะต้องผดุงคุณธรรมปราบปีศาจอีก

รอบสองต้องไปปราบปีศาจถึงในวัง ได้เจอคนรู้จักเก่าที่มีใจให้นางเอกเมื่อครั้งเป็นมู่ชิงเกออีกแล้ว ในโลกของผู้บำเพ็ญคนอาจจะมองว่านางเอกเป็นนางมาร แต่ในหมู่ชาวบ้านราชสำนักนี่ยกย่องให้นางเอกเป็นเทพีสงครามนะ เพราะนางมีส่วนช่วยในการปราบกบฏทำให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันได้ครองบัลลังก์ ฮ่องเต้เองก็แอบมีใจให้นาง เป็นศัตรูหัวใจอันดับหนึ่งของพระเอกเลยมั้ง55 เพราะเป็นญาติกันหน้าตาเลยคล้ายๆ กัน และความฮ่องเต้อะเนอะ ก็จะเจ้าเล่ห์เก่งเรื่องใช้อุบาย ทำให้ชาติก่อนนางเอกก็เอ็นดูใส่ใจเต้พอสมควร ไม่แปลกที่พระเอกจะหึงมาก(แต่ปากแข็งไง)

พระนางและเหล่าศิษย์ต้องเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อไปหาเบาะแสของเหตุการณ์ประหลาด พระเอกแฝงตัวเข้าไปในวังแต่ถูกจับได้ นางเอกตามมาช่วยและได้รู้ตัวตนของปีศาจที่ทำให้เกิดเรื่อง แถมยังได้รู้เรื่องที่ตัวเองเป็นผลไม้ทิพย์ที่เกิดจากต้นไม้เซียน แต่ยังไม่รู้นะว่าตัวเองคือมู่ชิงเกอนึกว่าเป็นน้องสาว ...พระเอกเกือบถูกคนชิงร่าง แม้จะชิงคืนมาได้แต่ก็ทำให้พี่แกต้องใช้ร่างกายตัวเองเพื่อกักขังน้ำพุวิญญาณ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้พระเอกอารมณ์แปรปรวนปากร้าย เผยสัญชาติญาณดิบความปรารถนาในใจที่อยากจะครอบครองนางเอกออกมาเป็นระยะ วิธีแก้ก็คือต้องดับกระหายด้วยการจูบนางเอก แต่หลังๆ ความปรารถนาเริ่มมากขึ้น พระเอกกลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เลยขอให้คนรู้จักทำโซ่แล้วล่ามตัวเองไว้ในป่าแทน

โชคดีที่ไม่นานประตูเข้าสู่แดนอินก็เปิดออก ระหว่างที่อยู่ในแดนอินพระเอกถูกเจ้าสำนักฝ่ายอธรรมติดยันต์ที่ทำให้หลงลืมคนที่ตัวเองรักหรือนางเอกไป นิสัยพระเอกเปลี่ยนกลับไปเหมือนเมื่อตอนเป็นเด็กหนุ่มเมื่อ 20 ปีก่อน ในใจมีแต่ความเกลียดและเป็นปรปักษ์ต่อมู่ชิงเกอผู้เป็นอาจารย์ นิสัยก็เย็นชาไม่สนใจใคร พอติดปุ๊บก็จำนางเอกไม่ได้จนเกือบจะทิ้งนางไว้ในแดนอินแล้ว

พระเอกจำเรื่องราวในปัจจุบันไม่ได้ จากที่เคยเอ็นดูรักใคร่นางเอกที่สุดก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาห่างเหินและรังเกียจ ลืมบอกไปว่านางเอกรู้ว่าตัวเองคือมู่ชิงเกอแล้ว(แต่จำเรื่องในอดีตที่เคยเกิดขึ้นไม่ได้นะ) พอรู้ว่าพระเอกเกลียดตัวเองในอดีตมากๆ ก็เลยไม่กล้าบอกความจริง พอเห็นพระเอกเป็นแบบนี้นางเอกเลยเก็บข้าวของเตรียมกลับไปอยู่กับพ่อแม่ทันที คือชอบตรงที่นางเป็นคนหยิบได้วางได้ มองโลกในแง่ดีตามความเป็นจริง พอรู้ว่าในร่างกายตัวเองมีเม็ดพลังของพระเอกอยู่ก็ยินดีส่งคืนทันที ไม่ยึดติดไม่โวยวาย กลับเป็นพระเอกที่พอเจอแบบนี้ก็ไปไม่เป็นเลย เพราะนางเอกไม่ยื้อไม่ร้องขออะไรเลย ปล่อยวางได้ทันที ... ความจริงนางเอกคิดว่าคนที่พระเอกรักน่ะก็คือตัวเองในอดีต ไม่ใช่ตัวเองในตอนนี้ ความรู้สึกของพระเอกรวมถึงการกระทำต่างๆ ที่มีต่อตนในทุกวันนี้คือความรู้สึกผิดเท่านั้น

...พอคนจากไปพระเอกก็โหวงๆ ผ่านไปไม่นานก็ต้องหาข้ออ้างบลาๆ พานางเอกกลับมา เพราะพี่แกกินอาหารที่คนอื่นทำไม่ได้ กินได้แต่ฝีมือนางเอก จากนั้นพระเอกก็เปิดรับศิษย์ใหม่ คราวนี้รับแต่คนที่มีความสามารถชาติตระกูลดี พอพวกศิษย์ใหม่เข้ามาก็ไม่เคารพศิษย์พี่ที่อยู่มาก่อนเพราะเห็นว่าพลังวัตรไม่สูง อีกทั้งพอสูญเสียความทรงจำพระเอกก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกศิษย์ที่อยู่มาก่อนอีก ไม่ให้ฝึกวิชารวมแต่ให้ไปทำงานแบกหามใช้แรงแทน กะให้ศิษย์พวกนี้ทนไม่ไหวแล้วขอลาออกไปเอง นางเอกทนไม่ไหวเลยเข้าไปเตือนจนทะเลาะกัน คือนางเอกกลัวว่าหากอนาคตพระเอกกลับมาจำได้แล้วรู้ว่าทำอะไรลงไปอาจจะเสียใจภายหลังไง พระเอกก็เหมือนจะคิดๆ ได้ ต่อมาเลยยอมปรับเปลี่ยนวิธีสอนพวกศิษย์พี่นางเอกใหม่

ขณะที่พระเอกยังเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายภารกิจใหม่ก็มาเยือนอีกแล้ว รอบนี้ไปเยือนสำนักของฝ่ายอธรรม เจ้าสำนักฝ่ายอธรรมเคยชอบมู่ชิงเกอในอดีต พอรู้ว่าคนเขากำลังจะเกิดใหม่ก็ไปเล่นตุกติกกับผลไม้ทิพย์ที่พระเอกปลูกไว้ แต่ดันร่ายอาคมผิดลูก คนที่โดนอาคมชั่วร้ายเลยกลายเป็นน้องสาวนางเอกแทน55 แต่กว่าอิพี่เจ้าสำนักนี้จะแยกออกว่าคนน้องสวมรอยเป็นคนพี่ก็อีกนานเลย (ชอบแบบใดถึงแยกไม่ออก ขนาดฮ่องเต้เจอครั้งเดียวก็แยกออกแล้วนะ) 

อิพี่เจ้าสำนักเหมือนกลัวโลกจะไม่สงบสุขเลยเปิดโปงเรื่องที่นางเอกคือมู่ชิงเกอต่อหน้าทุกคน สมกับที่เป็นพรรคฝ่ายอธรรมจริงๆ พระเอกโกรธมากนึกว่านางเอกกำลังหลอกปั่นหัวตน นางเอกเห็นพระเอกโกรธเย็นชาใส่ตัวเองเลยไม่เข้าใกล้ แต่พอนางเอกไม่เข้าใกล้ตัวเองพระเอกก็ยิ่งโกรธหนักกว่าเดิม55  ส่วนพวกลูกศิษย์ในสำนักนางเอกก็อึ้งเหมือนกันที่ได้รู้ว่านางเอกคือปรมาจารย์ของตัวเอง ...นางเอกได้เจอพวกศิษย์ที่ตนเคยรับมาในชาติก่อนด้วยนะ(ตอนนี้กลายเป็นชายวัยกลางคนกันหมดแล้ว) ลูกศิษย์ที่นางเอกเคยรับในอดีตแม้จะไม่เก่งเรื่องการบำเพ็ญเพียรแต่ทุกคนกลับมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวบางอย่าง อย่างคนที่เป็นแม่ทัพก็คือโชคดี เหมือนแมวเก้าชีวิต บางคนก็มีโชคเรื่องเงินทอง สามารถมองเห็นประตูเป็นประตูตายได้ ประมาณนี้... 

พวกอดีตศิษย์ไม่รู้ว่าน้องนางเอกสวมรอยเป็นอาจารย์เลยพากันแห่ไปรับใช้ แม้จะรู้สึกว่าอาจารย์คนใหม่นิสัยเปลี่ยนไปดูชั่วร้ายไม่เหมือนเดิมแต่ก็ไม่กล้าท้วง ชาตินี้ขนาดน้องนางเอกได้พลังวัตรของพี่สาวไปแล้วนะ แต่สุดท้ายก็ยังสู้นางเอกที่มาเกิดใหม่ไม่ได้อยู่ดี อิน้องเลยต้องหันไปใช้วิชามารดูดพลังจากพวกเด็กๆ ที่รับเข้ามาเป็นศิษย์ใหม่แทน ...เดิมทีนางเอกไม่อยากเข้าไปยุ่งกับพวกลูกศิษย์ในชาติก่อนแล้ว แต่พอเห็นลูกศิษย์ถูกหลอกใช้ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แล้วสุดท้ายก็ต้องยื่นมือช่วย

นักเขียนผูกปมดี แต่ละเหตุการณ์อาจดูไม่เกี่ยวข้องกันแต่จริงๆ เชื่อมโยงกันหมด ซึ่งจะนำไปสู่บทสรุปและเฉลยทุกข้อสงสัยในเล่มสุดท้าย ตั้งแต่การที่พระเอกเป็นบุตรมารในชาติก่อน จนมาถึงภารกิจต่างๆ ที่พระนางต้องเข้าไปช่วยเหลือและจัดการในชาตินี้ สรุปการเป็นเซียนได้เหินหาวนี่มันดีจริงๆ หรือ สิ่งที่ต้องเสียสละ+ต้องตัดเพื่อให้ได้เหินหาวขึ้นสวรรค์นี่มันคุ้มแล้วจริงอะ? ...ความจริงที่มันวุ่นวายนี่ก็ไม่ใช่เพราะใครบางคนเกิดรู้สึกเสียใจภายหลังหรอกรึ? แต่พอถึงเวลาต้องจัดการปัญหาพวกข้างบนกลับลอยตัวเชียวนะ แต่ละคนดีๆ ทั้งนั้น ...ตอนสวรรค์ส่งสายฟ้ามาเจาะทำลายหอคอย พวกเซียนที่ลงมาไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สายฟ้าเลยจ้า กลัวโดนลูกหลงเดี๋ยวพลังลด ต้องให้คนธรรมดาเสี่ยงตายเข้าไปกันเอง ส่วนเซียนที่มาช่วยต่อสู้ พอเสร็จเรื่องกลับถูกลงโทษซะงั้น รวมถึงพระนางด้วย เอาจริงๆ พวกเซียนบนสวรรค์นี่ก็ไม่ต่างจากขุนนางในราชสำนักบนโลกมนุษย์นักหรอกนะ มีทั้งคนดีคนไม่ดี พวกขี้อิจฉาทนเห็นคนอื่นได้ดีกว่าตัวเองไม่ได้ก็มี พวกตำแหน่งต่ำๆ ก็ได้แต่ปิดปากเงียบไม่กล้าพูดไม่กล้วท้วง ไม่ต่างจากโลกมนุษย์เลย



สปอยล์นะ

.

.

.

.

ความจริงนางเอกเป็นลูกของเง็กเซียนฮ่องเต้(จำชื่อตำแหน่งไม่ได้แต่ใหญ่สุดบนสวรรค์) ตอนพ่อกับแม่เหินหาว แม่กำลังตั้งท้องนางเอกพอดี เลยต้องสละลูกเพื่อพิสูจน์มรรคา แม่นางเอกเสียใจเรื่องที่เสียลูกมาตลอดเลยย้ายวิญญาณนางเอกมาปลูกไว้บนต้นไม้บนสวรรค์ เฝ้าฟูมฟักดูแลผลไม้น้อยมาเป็นพันปีรอวันที่ลูกจะเกิดมา แต่กลับถูกพระเอกที่เป็นเซียนชั้นสูงบนสวรรค์เด็ด (จริงๆ ไม่ใช่นะ นางเอกร่วงใส่พระเอกเองต่างหาก) พระเอกเลยถูกลงโทษให้ไปฝ่าด่านเคราะห์บนโลกมนุษย์ ก่อนลงด้วยความหมั่นไส้อิพี่จึงเข้าไปแย่งผลไม้น้อยแล้วพาลงไปเกิดใหม่ด้วยกัน นางเอกเลยมีพรสวรรค์เหมาะกับการฝึกบำเพ็ญด้วยเหตุนี้ คุณแม่บนสวรรค์ก็หวังว่าลูกจะบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จแล้วขึ้นมาไวๆ แต่ลูกดันสละชีวิตดวงจิตแตกซ่านเพื่อช่วยคนอื่นซะอย่างนั้น ในชาติที่สองหลังจบเรื่องคุณแม่เลยให้คนเอากระจกที่ส่องเห็นเรื่องราวในอดีตไปให้นางเอกดู หวังให้ลูกเข้าใจตัดขาดจากความรักแล้วมุ่งมั่นบำเพ็ญเพียรขึ้นมาเป็นเซียน ทว่าถึงจะได้เห็นอดีตทุกอย่างแล้ว แต่พระนางก็ยังรักกันมากกกอยู่ดี 55


วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ห้วงฝันบันดาลรัก เล่ม 1-2 (4 เล่มจบ)

 

ห้วงฝันบันดาลรัก เล่ม 1-2 (4 เล่มจบ)

ผู้แต่ง : อีตู้จวินหวา

ผู้แปล : เม่นน้อย

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

ผลงานของท่าน อีตู้จินหวา ที่ออกกับพี่แจ่มเป็นเรื่องแรก พระเอกธงเขียว แม้จะถูกนางเอกปฏิเสธแต่ก็ยังรักมั่นคงมาเป็นร้อยปี แม้เธอจะแต่งให้คนอื่นพี่ก็ยังอวยพรหวังว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีมีความสุข 

เป็นแนวย้อนเวลา+เทพเซียน พระเอกเป็นอดีตองค์ชาย เป็นลูกชายคนที่แปดสิบหกของฮ่องเต้ เนื่องด้วยสำนักเซียนกำลังเฟื่องฟู ฮ่องเต้หรือพ่อของพระเอกจึงหลงใหลการแสวงหาชีวิตอมตะ พูดง่ายๆ คืออยากเป็นเซียน แต่พื้นฐานมันบ่ได้ อิพ่อเลยใช้ทางลัดคืออาศัยเลือดงูหุ่ย พระเอกในตอนนั้นที่เพิ่งอายุไม่เท่าไรเองแต่ได้เป็นถึงเจ้ากรมซือเทียนแล้วจึงได้รับคำสั่งให้ไปจับงูหุ่ยมา โดยหารู้ไม่ว่าวันคืนอันเลวร้ายของคุณพี่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น... 

ส่วนนางเอก หวงหร่าง เป็นภูตดินที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อย แต่มีความทะเยอะทะยานใฝ่สูงมาก อยากจะหลุดพ้นไปจากพ่อที่มักมากเจ้าชู้ โลภมากเห็นแก่ตัว จากครอบครัวนี้เลยคิดจะเกาะกิ่งไม้สูง แล้วหวยก็ไปออกที่ เซี่ยหงเฉิน เซียนกระบี่อันดับหนึ่งที่ควบตำแหน่งประมุขสำนักเซียนอวี้หู หน้าตาหล่อเหลา นิสัยเย็นชาเยือกเย็น กิริยาท่าทางสูงส่งดุจเทพเซียน พลังวัตรสูงลิ่ว ไม่ได้แต่งเพราะรักแต่เพราะเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุด คนหนึ่งต้องการชื่อเสียงเกียรติยศ ส่วนอีกคนก็ลุ่มหลงในความงาม คู่แต่งงานที่ใครๆ ต่างพากันชื่นชมอิจฉาทว่าแท้ที่จริงกับว่างเปล่ากลวงโบ๋ 

แม้เริ่มแรกนางเอกจะแต่งเพราะมีเป้าหมายแฝง แต่อยู่ไปอยู่มาตั้งร้อยปีมันก็ต้องเกิดความรู้สึกบ้างล่ะนะ นางอาจจะเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการและมีความทะเยอทะยานสูง แต่ก็ไม่ได้ทำเรื่องที่ไม่ดีอะไรหรือเลวร้ายจนไม่อาจให้อภัยได้ เพราะเดี๋ยวอ่านๆ ไปจะรู้ว่าทำไมนางถึงต้องทะเยอทะยานพยายามถีบตัวเองขึ้นมาให้ได้ ...หลังแต่งสิ่งที่นางทำก็คือพยายามเอาใจปั๋ว ปั๋วว่าอย่างไรก็อย่างนั้น ปั๋วบอกให้นางเลิกปรับปรุงเมล็ดพันธุ์พืชนางก็เลิก แทบไม่เคยขัดใจ พยายามสรรหาวิธีมาทำให้ปั๋วรักปั๋วหลง แต่ปั๋วก็คือใจแข็งมากก มองเมียในแง่ลบมีอคติตลอด แผนเรียกความน่าสงสารที่ใช้กับคนอื่นได้แต่กับปั๋วไม่เคยได้ผล เมื่อใดที่ปั๋วรู้สึกหวั่นไหวใจเต้นอิพี่ก็จะออกเดินทางไปทำงานข้างนอกนานๆ เพื่อเป็นการขจัดความรู้สึกต่างๆ ทิ้ง ไม่ให้ตัวเองเกิดความหวั่นไหว

หนำซ้ำปั๋วยังเป็นเด็กดีเชื่อฟังอาจารย์ฝุดๆ เป็นศิษย์รัก No.1 ของอาจารย์ ซึ่งอาจารย์ก็ไม่ชอบเมียลูกศิษย์คนนี้เลย ฐานะต่ำต้อยไม่คู่ควร จึงสั่งให้ลูกศิษย์ใช้เวลาอยู่กับเมียได้แค่วันละไม่กี่ชั่วยาม ปั๋วก็เด็กดีเชื่อฟังไม่ไปหาเมียทุกวัน นานๆ ไปที แถมยังสั่งห้ามไม่ให้เมียมาหาที่เรือน(ที่พี่แกใช้กินอยู่อาศัยประจำ) เมียก็อยู่ในเรือนหลังน้อยอันห่างไกลรอวนไปแบบนี้อยู่ร้อยปี ...คนนอกหรือพวกลูกศิษย์ก็คิดว่าสองคนนี้รักใคร่กันดีเป็นคู่รักตัวอย่าง เพราะภายนอกคือวางตัวดีมาก นางเอกก็พยายามทำนั่นนู่นนี่เพื่อสร้างชื่อเสียงดีๆ ให้กับตัวเอง วางตัวเป็นภรรยาเป็นอาจารย์หญิงที่ดีจนมีแต่คนชื่นชม

วันดีคืนดีนางอยากได้บุตรสักคนมามัดใจปั๋ว แต่ปั๋วไม่เห็นด้วย นางเอกเลยไปเอาจั๊กจั่นทองมาฟูมฟักเลี้ยงดูจนเกิดปัญญาและกลายร่างเป็นคนได้ แรกๆ ลูกก็สนิทสนมรักใคร่กับนางเอกดี แต่หลังๆ ลูกเริ่มรู้ว่าหากตัวเองยังสนิทสนมกับแม่บุญธรรม พ่อบุญธรรมหรือปั๋วนางเอกก็จะเย็นชาไม่สนใจตน สุดท้ายลูกเลยวางตัวห่างเหินกับนางเอก ไม่ไปสนิทสนมใกล้ชิดเหมือนเก่าเพราะอยากได้รับการยอมรับ+ความสนใจจากพ่อบุญธรรมที่เป็นเจ้าสำนักมากกว่า ทั้งที่นางเอกเป็นคนสรรหายา+สรรหาของวิเศษมาทำให้นางกลายร่างเป็นคนได้แท้ๆ ดังนั้นแม้ปากนางเอกจะไม่เคยพูดอะไรแต่ในใจก็รู้สึกด้านชาและเจ็บอยู่เหมือนกันนะ

หลังจากนั้นนางเอกก็ไปรู้ความลับบางอย่างของอาจารย์ปั๋วเข้า เลยไปเตือนปั๋ว แต่ปั๋วไม่เชื่อ แถมโกรธที่นางเอกมาสงสัยอาจารย์ตัวเองด้วย แล้วหลังจากนั้นนางเอกก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ...จริงๆ ไม่ได้ไปไหนไกลแต่ถูกอาจารย์ปั๋วจับไปขังไว้ในห้องลับบนยอดเขาใกล้ๆ กันนี่แหละ นางเอกถูกอาจารย์ปั๋วลงทัณฑ์ด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมที่สุดของสำนัก โดยการใช้เข็มวิญญาณตรึงกระดูกปักกะโหลกศีรษะ ซึ่งคนที่ถูกลงทัณฑ์ด้วยวิธีนี้จะมีชีวิตประหนึ่งซากศพ มีก็เหมือนไม่มี เพราะร่างกายไม่มีส่วนไหนสามารถเคลื่อนไหวได้นอกจากลูกกะตา แถมยังไม่มีวิธีรักษา ถ้าดึงเข็มออกก็จะตายทันที ...นางเอกก็รอแล้วรอเล่าหวังว่าปั๋วจะมาช่วยจะตามหา จนผ่านไป 10 ปีปั๋วก็ไม่เคยมา สุดท้ายคนที่มากลับเป็นคนที่นางเคยปฏิเสธการสู่ขอของเขาไปตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อนนู่น...

พอช่วยคนออกมาได้ พระเอกก็พานางเอกกลับไปดูแลเอง ลงมืออาบน้ำ+เปลี่ยนเสื้อผ้า+ทำผม+ทำเล็บ+ทำทุกอย่างให้ด้วยตัวเอง คนอื่นมาเห็นก็นึกว่านางเอกเป็นตุ๊กตาหรือของเล่นชิ้นใหม่ที่พระเอกสร้างขึ้น จะมีแค่คนสนิทของพระเอกไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่านางเอกเป็นใคร ...แรกๆ พระเอกก็อุ้มพานางเอกไปนู่นมานี่แล้วต่อมาก็ทำรถเข็นให้ ...ลืมบอกไปว่าพระเอกคือเทพแห่งการประดิษฐ์ ได้รับสมญานามว่า 'ปรมาจารย์แห่งงานฝีมือ' มีพรสวรรค์ในการสร้าง+ประดิษฐ์สิ่งของรวมถึงพวกวัตถุเวทต่างๆ คือหัวเรือใหญ่ที่ทำให้กรมซือเทียนรุ่งเรืองขึ้นมาได้ ซึ่งกรมซือเทียนก็คือหน่วยงานหนึ่งของราชสำนัก มีผู้ที่มีพลังวัตร+ฝึกบำเพ็ญเหมือนกับพวกสำนักเซียนทำงานอยู่ เป็นหน่วยงานของราชสำนักที่ใช้ต่อกร+คานกับพวกสำนักเซียนประมาณเนี่ย ...

มาอยู่กับพระเอกได้สักพักนางเอกก็ฝันประหลาด ฝันว่าได้รับเข็มใบชาที่ช่วยพาย้อนกลับไปอดีตได้ผ่านความฝัน ซึ่งในฝันนางเอกจะสามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติและเป็นคนเดียวที่รู้ว่านี่คือความฝัน ความเจ๋งอีกอย่างคือมันจะดึงทุกคน ทั้งพระเอก สามีนางเอก อาจารย์ปั๋ว คนในที่ทำงาน+คนรอบข้างพระเอก หรือคนทั้งเมืองให้ฝันเรื่องเดียวกันหมด ...

ฝันครั้งแรกย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ก่อนที่นางเอกจะโดนอาจารย์ปั๋วจับไป ครั้งนี้นางเอกใช้เวลาไม่นานก็แก้แค้นได้สำเร็จ อ้อ!! ผลพวงอีกอย่างของความฝันก็คือคนที่ถูกทำร้ายหรือได้รับบาดเจ็บจากในความฝันของนางเอก เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะได้รับผลกระทบจากอาการบาดเจ็บนั้นด้วย หลังฝันแรกจบลงปั๋วนางเอกถึงได้รู้ว่าเมียเคยถูกจับไปขังไว้ในห้องลับของอาจารย์ ได้รู้สักทีว่าเมียเคยทิ้งเบาะแสเอาไว้ให้ตัวเอง (เพราะนางเอกบอกในความฝัน)... แต่ยังไงมันก็สายไปแล้วแหละ 

ฝันที่สองพาย้อนกลับไปสมัยที่นางเอกยังไม่ออกเรือน คราวนี้นางเอกเบนเข็มไปฝึกมรรคายุทธ์แทน จากนั้นก็จัดการสาวใช้คนสนิทที่ทรยศหักหลังเจ้านาย ในฝันนี้นางเอกเลือกที่จะฝากตัวเป็นศิษย์สายตรงของปั๋ว พอเปลี่ยนมาเป็นลูกศิษย์ถึงได้รู้ว่าที่แท้การเป็นลูกศิษย์นี่มันดีกว่าเป็นภรรยาจริงๆ ที่แท้ปั๋วก็ดูแลเอาใจใส่+ปลอบใจคนเป็น ไม่เห็นเหมือนตอนเป็นสามีเลย สถานที่ที่ปั๋วเคยห้ามเข้า+ห้ามมาหา พอเป็นลูกศิษย์ก็เข้าได้หมดนิ่ ...ทว่าในใจปั๋วแอบก็ตงิดๆ นะว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ บางทีก็อารมณ์เหมือนเดจาวู รู้สึกเหมือนเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ก็หาคำตอบไม่ได้ (แน่นอนมีนางเอกรู้คนเดียวว่านี่คือฝัน) 

ในฝันนี้นางเอกใช้เวลาในฝันเป็น 100 ปีเลยนะกว่าจะตื่น ซึ่งคีย์เวิร์ดของการตื่นก็คือนางจะต้องแก้แค้นอาจารย์ของปั๋วให้สำเร็จซะก่อน รอบนี้นางเอกฝึกทั้งมรรคายุทธมรรคากระบี่ แถมยังมีพระเอกส่งของขวัญเจ๋งๆ มาช่วยในการฝึกด้วยเลยรุดหน้าเร็ว ...ฝันครั้งที่สองนี้นางเอกคือตัดใจปล่อยวางเลิกรักปั๋วได้แล้วนะ รอบนี้นางตกลงแต่งงานกับพระเอกจ้า คือรู้เลยว่าตอนนางเอกอยู่กับพระเอกมันต่างจากตอนอยู่กับปั๋วมาก อยู่กับพระเอกสามารถเป็นตัวของตัวเองแบบปล่อยจอยชิลๆ เป็นธรรมชาติได้ ผิดกับตอนอยู่กับปั๋วที่ต้องคอยคิดคำนวณวางแผนอยู่ตลอด ต้องคอยสังเกตสีหน้า ใช้สมองเยอะ ขนาดจะร้องไห้ยังต้องร้องแบบมีจริตมีมุมไม่ให้น่าเกลียดเลย แต่อยู่กับพระเอกสามารถร้องแบบปล่อยโฮฟูมฟายได้เลย ไม่ต้องคิดเยอะ

แต่พออีกคนตัดใจได้อีกคนกลับตกหลุมรักซะอย่างนั้น แต่ต่อให้รักแล้วทว่าท้ายที่สุดปั๋วก็ยังรักชื่อเสียงหน้าตา และให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ภายนอกมากกว่าอยู่ดี ไม่เหมือนพระเอกที่ไม่แคร์อะไรไม่สนหน้าตาไม่สนศักดิ์ศรี ขอเพียงได้แต่งกับคนที่ตัวเองรักก็พอ สรุปปั๋วนางเอกคืออาจารย์คือเจ้าสำนักที่ดี คือลูกศิษย์ที่เลิศ แต่กลับเป็นสามีที่แย่ ส่วนตัวคิดว่าควรเก็บไว้บูชามากกว่าเอามาเป็นคนรัก -_-"

ป.ล. พ่อของพระนางคือ เ_ว พอๆ กันเลย แย่มาก อาจารย์ของปั๋วนางเอกอีกคน นี่ก็น่าจะเลวร้ายไม่ต่างกันแต่ยังไม่เฉลย



วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก 6 เล่มจบ


ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก 6 เล่มจบ

ผู้แต่ง : ขวงซั่งจยาขวง

ผู้แปล : ลู่เผิ่งฮวา

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

มาแล้วอีกเรื่องของท่านขวง แนวศึกสงครามการสู้รบ ก่อกบฏชิงบัลลังก์ เรื่องนี้พระนางเดิมทีอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน คนหนึ่งเป็นบุตรสาวแม่ทัพจากราชวงศ์ก่อน ส่วนอีกคนเป็นองค์ชายรองที่เพิ่งสถาปนาราชวงศ์ของราชวงศ์ใหม่ แถมเบื้องหลังของนางเอกยังเคยเป็นถึงกุนซือกลุ่มกบฏที่ต่อต้านราชวงศ์ใหม่ด้วย ดูไม่น่าจะลงเอยกันได้ แต่เมื่อถูกหมาป่าเอ้ยๆๆ พระเอกหมายตา เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้เสมอนั่นแหละจ้ะ...อิๆๆ

นางเอก อวี้ฉือเฟยเยี่ยน บุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านแม่ทัพใหญ่จากราชวงศ์ก่อน เก่งเรื่องพิชัยสงครามวางแผนการรบ หลังจากพ่อตายแผ่นดินลุกเป็นไฟเกิดการผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ นางเอกก็กลายเป็นกุนซือกลุ่มกบฏของเขาไป๋ลู่ชูธงต่อต้านราชวงศ์ใหม่ทันที เดิมนางเอกมีคนรักอยู่แล้ว แต่คนรักมีใจทะเยอทะยานอยากได้อำนาจเพิ่มเลยไปแอบแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับองค์หญิงเผ่าหนึ่งโดยไม่บอกนางเอก พอนางเอกรู้ก็ใจสลาย ตัดสินใจพาสาวใช้คนสนิทกลับบ้านเดิมกลบฝังอดีตเลิกเป็นกุนซือนับแต่บัดนั้น

นางเอกมาอยู่บ้านลุงในเมืองหลวง ซึ่งเดิมเคยเป็นถึงท่านโหวในราชวงศ์ก่อน แต่พอฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์พวกชนชั้นสูงหรือขุนนางที่เคยมีส่วนต่อต้านต้าฉีหรือราชวงศ์ใหม่ก็ถูกสอยถูกเก็บจนเกือบหมด ลุงนางเอกเองก็เกือบไม่รอด เพราะมีน้องชายหรือก็คือพ่อนางเอกที่เคยเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของราชวงศ์เก่า แต่ดีที่พระเอกมาช่วยทัน บ้านลุงนางเอกเลยยังรักษาชีวิตเอาไว้ได้ กลายเป็นชนชั้นสูงตกอับที่ต้องอาศัยสมบัติเก่าเพื่อเลี้ยงชีพ จนกระทั่งนางเอกย้ายมาอยู่ด้วยอะไรๆ ถึงค่อยเริ่มดีขึ้นนั่นแล...

ลุงนางเอกอยู่สุขสบายมาจนเคยตัว ทำอะไรไม่ค่อยเป็น พอตกอับเลยไม่รู้จะทำยังไงนอกจากเอาสมบัติเก่าไปขายเพื่อเอาเงินมาใช้ภายในบ้าน เงินที่ได้มาก็ไม่คิดต่อยอดแต่กลับเอาไปซื้อนั่นซื้อนี่จนหมด แล้วสุดท้ายก็วนลูปเดิม นางเอกเห็นสภาพบ้านลุงแล้วทนไม่ไหว เลยคิดจะขายโจ๊กเพื่อหาเงินระยะยาวมาช่วยคนในครอบครัว โดยหารู้ไม่ว่าทุกการกระทำของตัวเองน่ะมีพระเอกคอยจับจ้องอยู่ตลอด ตั้งแต่สมัยที่น้องนางยังเป็นกุนซืออยู่บนภูเขาโน่นแล้ว... แต่พอรู้ว่าพระเอกส่งคนมาจับตาดูนางเอกก็ตั้งใจว่าจะขายไปสักพัก พอเก็บเงินก้อนได้ก็จะกล่อมลุงให้พาครอบครัวย้ายออกจากเมืองหลวงไปอยู่ที่อื่นแทน เพราะนางเอกยังมีอีกฐานะที่บอกใครไม่ได้ กลัวว่าวันไหนหากถูกคนอื่นหรือพระเอกล่วงรู้ก็จะทำให้ครอบครัวลุงต้องเดือดร้อนตามไปด้วย

แต่ช้าแต่... รัชทายาทหรือพี่ชายพระเอกที่อิจฉาริษยาหวาดระแวงกลัวว่าน้องชายจะมาแย่งชิงตำแหน่งของตนไปกลับเข้าใจผิด คิดว่าคนที่พระเอกชอบก็คือลูกพี่ลูกน้องนางเอก เลยแอบไปบอกบ้านคู่หมั้นว่าที่ชายาเอกของพระเอกว่าพระเอกไปแอบชอบแม่ค้าโจ๊กริมทาง เลยทำให้ลูกพี่ลูกน้องนางเอกถูกใส่ร้ายและโดนจับเข้าคุก ซึ่งว่าที่ชายาเอกของพระเอกก็คือลูกสาวของลุงซึ่งเป็นตระกูลฝั่งแม่พระเอก เดิมเป็นพ่อค้ามีฐานะ คอยช่วยเหลือสนับสนุนบ้านพระเอกมาตลอดตั้งแต่สมัยที่ยังจนๆ พอบ้านพระเอกได้ดีตระกูลลุงเลยผงาดกลายมาเป็นตระกูลที่มีอำนาจอันดับหนึ่งของเมืองหลวงไปด้วย 

รัชทายาทไม่อยากให้พระเอกแต่งกับลูกสาวลุง เพราะกลัวพระเอกจะได้คนหนุนหลังแล้วมาแย่งตำแหน่งตัวเอง ส่วนลุงพระเอกก็ฉลาด+มีความทะเยอทะยานอยากไปไกลกว่านี้ เลยอยากให้ลูกสาวตนแต่งเข้าราชวงศ์ แต่ลืมไปว่าน้องเขยตัวเองไม่ใช่นายทหารจนๆ คนเดิมอีกแล้ว แต่เป็นเจ้าเหนือหัวผู้ครองแผ่นดิน บวกกับโดนฮองเฮาหรือแม่พระเอกกดข่มทวงบุญคุณอยู่บ่อยๆ ความไม่พอใจที่มีต่อตระกูลภรรยาเลยเริ่มมากขึ้น แต่ลุงพระเอกยังไม่รู้ตัว พระเอกจึงใช้โอกาสนี้เตือนสติให้ลุงถอย... แบบเข้าทางอิพี่เขาพอดี ได้ใช้เรื่องนี้ถอนหมั้น แถมยังได้แต่งนางในดวงใจเข้าจวน ยิงทีเดียวได้นกสองตัว

พอแต่งเข้าจวนได้ไม่นานพระเอกก็ถูกส่งไปไหวหนาน ไปจัดการเรื่องเกลือกับงูเจ้าถิ่นที่นั่น จริงๆ พวกงูเจ้าถิ่นก็คือกลุ่มกบฏที่เปลี่ยนใจมาขอสวามิภักดิ์นี่แหละ แต่ทางนี้ตึงมือสุดเพราะกล้าสังหารขุนนางที่ราชสำนักส่งไปดูแลคนแล้วคนเล่า ขุนนางน้ำดีที่ถูกส่งมาล้วนอยู่ได้ไม่นานหากไม่ถูกเล่นงานก็ถูกฆ่าตายหมด ทุกคนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังแต่ยังไม่สามารถจัดการได้ตรงๆ แต่พอจัดการทางนี้เสร็จพระเอกก็ถูกส่งไปทะเลทรายทางเหนือต่อ ...

อิพ่อฮ่องเต้คือร้ายมาก(แต่พระเอกร้ายกว่า) รู้ว่าพระเอกเก่ง ฉลาด บุ๋นบู๊ได้หมด เหมาะที่จะเป็นคนสืบทอดบัลลังก์มากที่สุด แต่เพราะความที่เก่งเกินไปจึงทำให้อิพ่อระแวง ไม่อยากให้พระเอกเด่นเกินหน้าเกินตา ถึงจะรู้ว่าพี่ชายพระเอกหรือรัชทายาทไม่เอาไหนแต่ก็ยังดีกว่าพระเอกที่รู้สึกเป็นภัยคุกคามมากกว่า เลยต้องส่งพระเอกไปทำงานไกลๆ ให้อยู่ห่างจากเมืองหลวง แต่พอเขาทำสำเร็จกลับมาก็ดีใจไม่สุด ความระแวงความอิจฉาริษยาจะก่อตัวขึ้นทุกครั้ง กลายเป็นพิษร้ายกัดกร่อนสายใยพ่อลูก เปลี่ยนเป็นความเลือดเย็นความเห็นแก่ตัว กระทั่งวางแผนชักใยปั่นให้ลูกตัวเองต้องฆ่ากัน เพียงเพราะทนเห็นพระเอกเก่งเกินไปไม่ได้ กลัวจะสูญเสียตำแหน่ง ตัวเองยังเสพสุขไม่พอ พระเอกก็รู้แหละว่าพ่อคิดยังไง+จะทำอะไร ไม่ได้เดินตามเกมหรือยอมอะไรขนาดนั้น แต่ถ้ามาแตะเกล็ดย้อนตัวเองเมื่อไรพระเอกก็พร้อมฟาดกลับเหมือนกันเน้อ

ซึ่งเกล็ดย้อนของอิพี่ก็คือนางเอกนี่แหละ ตอนพ่อวางแผนเล่นงานตัวเองยังไม่โกรธเท่าตอนพ่อแอบยัดชายาเอกเข้ามาในจวนตนโดยพลการเลย อิพ่อก็ไม่อยากให้พระเอกหลงแต่ชายารอง อยากให้พระเอกได้ชายาเอกที่มาจากตระกูลใหญ่ๆ ที่ตนสามารถควบคุมได้ด้วย ซึ่งพระเอกก็เคยคิดเหมือนกันว่าจะแต่งชายาเอกมาเป็นโล่บังธนูให้นางเอก ให้นางได้อยู่อย่างสบายมีคนออกหน้ารับทุกอย่างให้ แต่พอนานวันเข้าอิพี่ก็เปลี่ยนใจ กลัวเมียไม่รักกลัวเมียหนี นึกเสียใจที่ตอนนั้นทำไมไม่เข้าหานางเอกดีๆ แล้วสู่ขอคนมาเป็นชายาเอกอย่างเปิดเผย (แต่ตอนแต่งเขามาเป็นชายารอง พระเอกก็จัดเต็มประหนึ่งชายาเอกเลยนะ55) ... ส่วนนางเอกจากตอนแรกที่ว่าจะไม่รักใครแล้วก็ค่อยๆ ถูกความดีความจริงใจของพระเอกหลอมละลาย เห็นพระเอกเย็นชาโหดๆ แบบนี้แต่ถ้าเป็นคนที่รักหรือใส่ใจก็คือทุ่มให้เต็มที่นะ คือพี่แกตกหลุมรักนางเอกมานานแล้วตั้งแต่สมัยอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ค่อยๆ วางแผนเพื่อให้ได้นางดวงใจมาครอบครอง รู้ว่านางเอกยังฝังใจกับรักเก่าอิพี่ก็ไม่ถือสา รอจนกว่านางเอกจะยอมเปิดใจอีกครั้ง ไม่มีความลังเลหรือคิดถอดใจแต่อย่างใด 

ส่วนคนรักเก่าของนางเอกพอรู้ว่าจะเสียคนไปจริงๆ ก็ตามตอแยไม่เลิก คิดว่าถ้าได้ฟังเหตุผลของตัวเองแล้วนางเอกจะให้อภัยยอมตามกลับไปแต่โดยดี แต่นางเอกคือถ้าได้ตัดแล้วคือตัดเลยของแท้ อย่ามาใช้มุกแค่แกล้งแต่งงานไม่ได้ชอบไม่ได้มีอะไรกัน ไม่ต้อง! ไม่อิน! นางเอกก็บอกให้อีกฝ่ายกลับไปหาภรรยาเถอะ เพราะองค์หญิงที่แต่งมาน่ะรักพี่แกจริงๆ สงสารเมียที่บ้านบ้าง แต่อิพี่ก็ดื้อด้านคิดแต่จะหาโอกาสลักพาตัวนางเอกกลับไปท่าเดียว เข้าตำราต้องสูญเสียก่อนถึงได้เห็นค่า ถ้าอิพี่ปล่อยวางบ้างจุดจบคงจะดีกว่านี้...

เป็นพระนางที่ไม่ค่อยมีเรื่องปิดบังกัน หรือถ้ามีก็ไม่ปล่อยให้ค้างคานานจนกลายเป็นปมในใจ โกรธกันไม่นานเดี๋ยวก็เคลียร์ เพราะพระเอกอยู่ห่างจากเมียนานเกินไม่ได้55 อย่างตอนที่รู้ว่านางเอกใช้แป้งที่ป้องกันไม่ให้ตั้งครรภ์ ตอนรู้ก็โมโหแทบตายเหมือนบ้านจะแตก แต่พอคล้อยหลังอิพี่ก็ไปหาไส้แพะมาทำเป็นถุงยาง เป็นพระเอกที่ทั้งเผด็จการทั้งคลั่งรัก ปากก็แซบเป็นที่หนึ่ง ไม่เหมือนลูกหลานผู้ดีมีตระกูล อ้อลืมไปว่าพี่เขาเป็นลูกขุนนางตำแหน่งเล็กๆ มาก่อน คำพูดคำจาเวลาหยอกนางเอกก็จะหยาบโลนหน้าไม่อายตามนั้นแหละ55 

ทว่านอกจากเรื่องรักก็ยังมีเรื่องรบ และการต่อสู้ของคนจากราชวงศ์เก่ากับพระเอกที่สนุกและเจ้มจ้นมากๆ 6 เล่มจบเหมือนจะยาวแต่อ่านเพลินมากขอบอก ส่วนตัวยังไม่มีช่วงที่เบื่อเลย มีอะไรให้ได้ลุ้นตลอด เพราะพระเอกถูกพ่อใช้งานฉ่ำมาก เป็นคนออกหน้าสู้ออกหน้าแก้ปัญหาให้คนในบ้านตัวเองตลอด ทั้งๆ ที่เป็นลูกที่ไม่สนิทกับพ่อแม่มากที่สุด แต่กลับเป็นคนที่พ่อแม่ไว้วางใจและเชื่อถือมากที่สุดซะงั้น เพราะตอนเด็กๆ พระเอกถูกส่งไปเลี้ยงดูที่อื่น พอกลับมาเลยไม่สนิทกับคนในบ้าน บวกกับนิสัยที่เย็นชาไม่เคยลงให้ใคร(เว้นเมีย)ก็เลยยิ่งต่อไม่ติด 

ตอนแรกที่อ่านๆ ก็แอบคิดว่าแม่พระเอกน่าจะเป็นคนที่สร้างความลำบากให้พระนางมากที่สุดหรือเปล่านะ เพราะหากเทียบกับอิพ่อฮ่องเต้ จุนแม่เหมือนจะเย็นชาและไม่สนใจพระเอกมากกว่าใครเลย แต่อ่านไปเรื่อยๆ กลับกลายเป็นแม่พระเอกที่ตอนแรกดูเย็นชาไร้หัวใจที่สุด แต่สุดท้ายกลับเป็นคนที่มีหัวใจมากกว่าที่คิด (อย่างน้อยก็มากกว่าพ่อพระเอกล่ะนะ) คือยังไงแม่ก็รักลูก อยากให้ลูกๆ ทุกคนมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยไร้กังวล ขณะที่อิพ่อฮ่องเต้ยิ่งใจจืดใจดำขึ้นเรื่อยๆ คิดแต่จะให้ลูกห้ำหั่นกันเองเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของบัลลังก์ตัวเอง(เพราะตอนนี้มีสนมนางในคลอดลูกให้หลายคนแล้วเลยไม่รีบเรื่องคนสืบทอด พวกลูกที่โตๆ จึงกลายเป็นเสี้ยนหนามที่ต้องกำจัด) ...ฟางเส้นสุดท้ายของจุนแม่ก็คือเรื่องที่น้องสาวคนสุดท้องของพระเอกหายตัวไป ในที่สุดจุนแม่ก็ต้องยอมรับว่าพระเอกคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการขึ้นเป็นฮ่องเต้ สิ่งสำคัญคือจุนแม่มั่นใจว่าลูกคนนี้หากไม่สุดจริงๆ ก็จะไม่มีทางเข่นฆ่าพี่น้องตัวเองเด็ดขาด ส่วนพี่ชายพระเอกคือฆ่าได้แน่นอน บวกกับมีภรรยาอย่างนางเอกอยู่ข้างกายคอยเตือนสติ จุนแม่ก็ยิ่งแน่ใจว่าพระเอกจะไม่ทำ จะต้องเหลือทางรอดให้พี่น้อง ดังนั้นจุนแม่จึงเลือกข้างพระเอกและคอยสนับสนุนแอบช่วยพระเอกให้ได้บัลลังก์อย่างลับๆ

เป็นอีกขั้นของท่านขวง หากใครสายหวานแล้วชอบแนวรักที่ควบคู่ไปกับการชิงไหวชิงพริบ แย่งชิงอำนาจชิงบัลลังก์ พระเอกคลั่งรัก ก็อยากให้ลองอ่านดู เป็นเรื่องราวในช่วงกลียุค บ้านเมืองยังไม่สงบสุขมีกลุ่มกบฏเกิดขึ้นมากมาย หลังสร้างราชวงศ์ใหม่ได้ก็ยังมีปัญหาอีกมากมายที่ต้องตามไปแก้ ซึ่งพระเอกก็คือคนที่ต้องรับบทหนักสุด คือเดอะแบก มักถูกพ่อเรียกใช้ให้ไปจัดการนั่นนู่นนี่ แต่พอทำสำเร็จพ่อก็ไม่ได้ปลื้ม มีแต่จะยิ่งเพิ่มความหวาดระแวง...พี่ชายคนโตก็กลัวว่าน้องจะมาแย่งตำแหน่งรัชทายาท ส่วนคนพ่อก็กลัวว่าพระเอกจะมาแย่งชิงบัลลังก์ของตัวเอง ทั้งๆ ที่พระเอกคือส่วนสำคัญที่ทำให้พ่อได้เป็นฮ่องเต้แท้ๆ แต่พอทุกคนมีอำนาจจิตใจก็เริ่มเปลี่ยน อิพ่อฮ่องเต้หลงใหลสุรานารีไม่สนใจภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก มองลูกที่โตแล้วเป็นดั่งศัตรู เพราะในขณะที่ตัวเองเริ่มแก่ลูกกลับหนุ่มแน่นมีกำลังวังชา โดยเฉพาะลูกคนรองอย่างพระเอกที่เก่งเกินหน้าเกินตาทุกคน 

เราชอบการออกแบบนิสัยตัวละครของเรื่องนี้ ถึงแม้พระนางจะยังคงเด่นสุด แต่ก็มีบางคนที่เป็นม้ามืดทำให้เราต้องจดจำ เราชอบคาของท่านอ๋องราชวงศ์ก่อนมาก ออกเทาๆ หม่นๆ แต่โคตรฉลาดร้ายลึก วางแผนเก่งมาก ถ้าสู้แบบชิงไหวชิงพริบพระเอกคือยังไม่แน่ว่าจะชนะเลย ตอนแรกนึกว่าทำไปเพื่อทวงบัลลังก์คืน แต่ที่ไหนได้พี่เขาต้องการแก้แค้นคนบ้านพระเอกเฉยๆ เป็นคนที่เก่งมาก ถ้าราชวงศ์ก่อนมีคนนี้เป็นฮ่องเต้บางทีอาจจะยังอยู่ดีก็ได้นะ ดีที่สุดท้ายพี่แกก็ยอมปล่อยวางความแค้นลง (จริงๆ แอบเชียร์คู่นี้แหละ) ลุ้นกับตัวละครนี้มากอยากให้ปลายทางจบสวยอะ

อย่างที่บอกว่านี่คือช่วงกลียุค หากไม่เหี้ยมไม่เด็ดขาดก็อาจไม่รอด หรืออาจต้องแลกกับการสูญเสียบางอย่างไป สงสารก็แต่ชาวบ้านตาดำๆ คนธรรมดานี่แหละที่ต้องรับเคราะห์จากการต่อสู้แย่งชิงอำนาจของเหล่าผู้มีอำนาจทั้งหลาย นางเอกเองก็ตระหนักได้ถึงจุดนี้เช่นกันถึงได้วางมือแล้วกลับบ้านมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะสำหรับชาวบ้านน่ะไม่สำคัญหรอกว่าใครจะชนะหรือได้ตำแหน่งนั้น ขอแค่มีข้าวกินบ้านเมืองสงบสุขก็พอแล้ว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าบ้านพระเอกทำได้ดีกว่าฮ่องเต้คนเก่า ถึงจะยังมีปัญหาอยู่แต่บ้านเมืองก็ดีขึ้นกว่าเดิมจริงๆ

แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่วางไม่ลง บางคนก็เข้าสู่สายดาร์ก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว อย่างคู่หมั้นเก่านางเอก อันนี้ความจริงก็น่าสงสาร ถูกบังคับมาทั้งชีวิตเลือกอะไรเองไม่ได้เลย ถูกบังคับให้ถอนหมั้นจากคนที่ชอบ ต้องแต่งงานกับองค์หญิง แถมก่อนแต่งยังโดนหยามเหยียดถูกวางยาให้ร่วมหลับนอนกับนางกำนัลอีก หลังแต่งไปก็ถูกเมียสวมเขา แต่ทำไรไม่ได้ไงเพราะเมียเป็นถึงองค์หญิง ต้องกลายเป็นตัวตลกถูกคนหัวเราะเยาะ แต่ก็ต้องอดทนเพื่อรักษาชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์ของวงศ์ตระกูล จากคุณชายใสๆ เนิร์ดๆ เป็นเด็กดีอยู่ในกรอบของพ่อแม่ แต่วันหนึ่งเมื่อถูกบีบคั้นมากๆ เข้าก็เปลี่ยนเลย...



วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

หยกเร้นชะตา 6 เล่มจบ

 


หยกเร้นชะตา 6 เล่มจบ

ผู้แต่ง : จิ่วเยวี่ยหลิวหั่ว

ผู้แปล : อวี้

สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอกเรื่องนี้ถูกคนจงใจอุ้มสลับตัวไปตั้งแต่ตอนเป็นทารก จากคุณหนูสายตรงสกุลฉู่ของจวนฉางซิงโหวต้องจับพลัดจับผลูกลายเป็นบุตรสาวชาวนายากจนแซ่ซู ใช้ชีวิตตกระกำลำบากถูกทุบตีด่าว่าอยู่นานถึง 13 ปีเต็ม หากไม่ใช่เพราะท่านโหวหรือพ่อแท้ๆ ของนางเอกไปพากลับมา คุณหนูผู้สูงศักดิ์ก็คงต้องเป็นบุตรสาวชาวนาไปตลอดชีวิตแล้ว ...ส่วนบุตรสาวของชาวนาที่ถูกสับเปลี่ยนตัวก็ได้ใช้ชีวิตเยี่ยงคุณหนูผู้สูงศักดิ์อยู่บนกองเงินกองทอง มีคนรับใช้+มีพ่อแม่พี่น้องรักใคร่ตามใจประดุจเจ้าหญิง แม้แต่วันที่ความจริงเปิดเผยคุณหนูตัวจริงกลับมา คุณหนูตัวปลอมก็ยังชูคอ เริด เชิด หยิ่ง ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะถือดีว่ามีมารดาหรือแม่แท้ๆ ของนางเอกซึ่งเป็นฮูหยินจวนโหวรักใคร่คอยปกป้อง...

นางเอกก็นึกว่าหลังได้กลับคืนฐานะเดิมกลับบ้านตัวเองชีวิตคงจะมีความสุข ที่ไหนได้ทุกข์เหมือนเดิม ไม่ได้ทุกข์กายแต่กลับทุกข์ใจ เพราะมารดาไม่รักไม่สนใจ สนแต่ลูกปลอมๆ ที่เลี้ยงมา ไม่สนิทสนมกับญาติพี่น้อง ทุกคนเมินเฉย พอคล้อยหลังก็พากันหัวเราะเยาะนินทาเรื่องที่นางมาจากชนบทอีก นางเอกไม่อาจปรับทุกข์หรือไประบายให้ใครฟังได้ จึงได้แต่ไปแอบร้องไห้อยู่คนเดียว จนวันหนึ่งพระเอกที่วิญญาณบังเอิญเข้ามาอยู่ในหยกของนางเอกก็ทนไม่ไว้ จำต้องแสดงตัวออกมาเพื่อปลอบโยนและสอนสั่งนางเอกด้วยตัวเอง

พระเอกเป็นรัชทายาท ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนวิญญาณหลุดออกมาสิงอยู่ในหยกที่นางเอกพกติดตัว พระเอกเห็นเหตุกาณ์ที่นางเอกพบเจอในจวนโหวทุกอย่าง วันหนึ่งทนไม่ไหวเลยแสดงตัวออกมา ส่วนนางเอกก็เข้าใจผิดคิดว่าพระเอกเป็นภูตที่สิงอยู่ในหยก? ...พระเอกเป็นคนสอนมารยาท+กิริยาท่าทางการวางตัวแบบคนในตระกูลใหญ่ให้นางเอก เพราะไม่มีใครในจวนบอก+สอนนางเอกเลย นางเอกต้องแอบดูแอบจำเอามาปฏิบัติอย่างผิดๆ ถูกๆ แล้วสุดท้ายก็ถูกคนหัวเราะเยาะ ...แม่แท้ๆ ก็ไม่สนใจไม่ถามถึง ในสายตามีแต่ลูกปลอมๆ 

ความจริงเรื่องสลับตัวนี่จะโทษลูกปลอมๆ ก็ไม่ได้ เพราะคนที่สลับตัว+คนต้นคิดก็คือพ่อแม่ชาวนาของลูกปลอมๆ หรือนางร้ายอะ อยากให้ลูกตัวเองสบายเลยสลับตัวเด็ก แถมทั้งๆ ที่รู้ว่านางเอกเป็นลูกใคร แต่ก็ยังกล้าใช้งานเขาเยี่ยงทาส ทุบตีเขาประหนึ่งวัวควาย หรือคิดว่าแค่ให้ข้าวให้น้ำไม่ทุบตีจนตายก็เรียกว่ามีเมตตามีบุญคุณแล้วหรือ? คือ 13 ปีที่ถูกพรากไปเนี่ยนางเอกถูกสูญเสียอะไรไปเยอะมากเลยนะ แม้สุดท้ายจะได้กลับมาแต่หลายอย่างก็ต่อไม่ติดแล้ว ที่เห็นชัดๆ เลยก็คือความผูกพันของคนในครอบครัว ขณะที่ลูกปลอมๆ ได้ทุกอย่าง กระทั่งทำผิดแม่นางเอกก็ยังเข้าข้างคอยตามโอ๋ ย่าก็สนใจแต่เรื่องความรุ่งเรืองและผลประโยชน์ของจวนโหว พ่อก็ทำแต่งานเรือนหลังไม่ยุ่ง พี่ชายกับญาติแท้ๆ ก็สนิทสนมเอ็นดูลูกปลอมๆ ที่เติบโตมาด้วยกันมากกว่า ในจวนโหวแห่งนี้มีเพียงพี่สาวแท้ๆ ที่จริงใจต่อนาง แต่อีกไม่นานพี่ก็ต้องแต่งงานไปอยู่ที่อื่นแล้ว ถ้าไม่ได้เจอพระเอก นางเอกก็คงไม่เหลือใครเลย...เฮ้อ

ในเล่มแรกหลังมีพระเอกคอยบอกคอยสอนสิ่งต่างๆ ชีวิตของนางเอกก็เริ่มดีขึ้นมาหน่อย ต่อให้คนในครอบครัวไม่สนใจแต่ก็ยังมีพระเอกอยู่ข้างๆ ให้คำปรึกษา จนกระทั่งจวนอ๋องในเมืองเดียวกันต้องการหาเพื่อนเรียนให้บุตรสาว ซึ่งจริงๆ นางเอกหาได้สนใจไม่ แต่ลูกปลอมๆ กับรู้สึกวิกฤต เพราะตัวเองอยากไปแต่รู้ว่าคงไม่ได้ไป เนื่องจากนางไม่ใช่คุณหนูจวนโหวจริงๆ นางเลยไปร่วมมือกับคนอื่นเพื่อเล่นงานนางเอก กะให้นางเอกถูกถอดสิทธิ์ไม่ได้ไปเหมือนกัน หาเรื่องใส่ร้ายนางเอกว่าเป็นคนฉีกสมุดกลอนตัวเอง เพราะตอนนั้นนางเอกอยู่ในห้องนั้นคนเดียว วางแผนดักไว้เสร็จสรรพ จนคนอื่นๆ รวมถึงย่าหลงเชื่อ แต่นางเอกไม่ได้ทำดังนั้นตีให้ตายก็ไม่ยอมรับหรอก

สุดท้ายนางเอก ลูกปลอมๆ กับคุณหนูอีกคนก็ถูกลงโทษ แต่ตอนถูกลงโทษมีนางเอกคนเดียวที่กล้ารับโทษเต็มๆ โดยไม่หลบหลีกไม่ร้องไห้ ส่วนคนอื่นยังไม่ทันโดนก็ร้อง หรือโดนไปทีเดียวก็ฟูมฟายจะเป็นจะตายแล้ว แถมยังมีคนมารุมล้อมคอยปลอบอีก พระเอกก็โกรธ+โมโหตัวเองที่เป็นวิญญาณเลยไม่อาจช่วยอะไรได้ ถ้าตอนนั้นเป็นคนอิพี่จะไม่ยอมให้ใครแตะนางเอกแน่นอน...

พอถึงเล่ม 2 พระเอกก็ได้กลับเข้าร่างตัวเอง นางเอกก็เคว้งไปพักที่พระเอกหายไปกะทันหัน ทว่าถึงจะเศร้าแต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อปายย เพราะไม่นานนางเอกก็ถูกอิลูกปลอมๆ วางแผนร้ายใส่อีกแล้ว ทว่าคราวนี้ไม่ได้มีแต่ลูกปลอมๆ เท่านั้นที่คิดร้าย แต่ยังมีคนนั้นคนนี้มาวางแผนซ้อนแผนเล่นงานนางเอกร่วมด้วย แต่นางเอกก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิดอีกครา ส่วนอิลูกปลอมๆ ถูกย่ามองแผนออกหนนี้เลยจะส่งนางไปอยู่วัด แต่จวนอ๋องดันเลือกอิลูกปลอมๆ กับนางเอกมาเป็นเพื่อนร่วมเรียนกับลูกสาว อิลูกปลอมๆ เลยรอดไม่ต้องถูกส่งไปอยู่วัด  

คือหลังจากแผนร้ายครั้งแรกของอิลูกปลอมๆ ที่จะใส่ร้ายนางเอกโป๊ะแตก นับแต่นั้นย่านางเอกก็ไม่สนใจนางอีกเลย ไม่มองเป็นลูกหลาน เป็นเพียงแค่คนที่มาอาศัยอยู่เท่านั้น เปลืองแรงจะพูดสั่งสอน จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่สนแล้ว เหลือแค่แม่นางเอกเท่านั้นที่(โคตร)รักนาง คือแรกๆ ก็เห็นใจแม่นะเพราะเลี้ยงดูมากับมือตั้ง 13 ปี มันก็ต้องผูกพันอยู่แล้ว เพราะลูกอีก 2 คนคือพี่สาวกับพี่ชายนางเอกก็ถูกแยกไปเลี้ยงที่อื่น เลยผูกพันกับลูกปลอมๆ มาก พอนางเอกกลับมาก็เหมือนถูกกดดันด้วย นั่นก็ลูกในไส้นู่นก็ลูกที่เลี้ยงมากับมือ พยายามจะไม่ลำเอียง+รักเอ็นดูเท่าๆ กัน แต่สุดท้ายก็ทำม่ายล่าย สุดท้ายนางเอกเลยถอดใจไม่เอาแม่แล้ว ไม่ต้องการความรักความห่วงใยจากแม่อีกต่อไปแล้ว แบบไม่ต้องมีก็อยู่ได้

สามเล่มแรกจะเป็นเรื่องในบ้านนางเอก การต่อสู้ชิงดีชิงเด่นของพวกคุณหนูในเรือนหลัง ในเล่มสามนางเอกกำลังจะได้หมั้นหมายกับซื่อจื่นจวนอ๋อง แม้ตัวนางเอกจะไม่ได้ชื่นชอบฝ่ายชายแต่ในเมื่อนี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุด อีกทั้งทางบ้านก็เห็นด้วย นางจึงได้แต่จำใจยอมรับเส้นทางเดินนี้ ...ส่วนพระเอกเขาก็ได้เจอตัวเป็นๆ กันแล้วนะ แต่นางเอกไม่คิดว่าพี่แกคือคนเดียวกัน แล้วพระเอกก็ไม่ยอมบอกปล่อยให้นางเอกเข้าใจแบบนั้น แต่เวลานางเอกมีปัญหาพระเอกก็จะคอยแอบช่วยอยู่ลับหลังเสมอ ซื่อจื่อจวนอ๋องรู้สึกว่าพระเอกสนใจนางเอกเป็นพิเศษเลยมาพูดเตือนอ้อมๆ พระเอกจึงยอมถอยออกมา 

ทว่าหลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่พ่อแม่ชาวนาของนางเอกบุกมาโวยวายที่จวนโหวในตอนที่คนของจวนอ๋องกับย่านางเอกกำลังจะตกลงเรื่องการหมั้นหมายกัน พระชายาจวนอ๋องที่ไม่ชอบนางเอกเป็นทุนเดิมเลยใช้โอกาสนี้บิดพริ้วเรื่องการแต่งงาน ยื่นขอเสนอใหม่ให้นางเอกแต่งเข้ามาเป็นชายารองแทนชายาเอก พอพระเอกรู้ข่าวที่นางเอกถูกบีบให้ต้องเป็นอนุก็โมโห เลยไปขอให้พ่อหรือฮ่องเต้ออกราชโองการ พระราชทานสมรสให้ตัวเองกับนางเอกทันที

ฮ่าๆๆ สะใจอิช้อยยิ่งนัก เพราะพระชายาจวนอ๋องนึกว่าลูกสาวตัวเองจะได้แต่งเป็นชายาของพระเอกแน่นอนแล้ว แบบมั่นมากทั้งแม่ทั้งลูกสาว เพราะไปติดสินบนคนในเมืองหลวงให้ช่วยไว้เรียบร้อยเลยมั่นใจมากกกก ลูกสาวก็ไปคุย+โม้กับคนอื่นไว้เยอะแถมยังไปมีเรื่องกับนางเอกด้วย พอรู้ว่าคนที่ได้แต่งคือนางเอกก็หน้าแตกเพล้งๆ เพราะก่อนหน้านี้ทำกับเขาไว้เยอะ55 ...แต่แอบเสียดายซื่อจื่อจวนอ๋องนะ คือพี่แกก็ดีนะ แต่ติดที่เชื่อใจที่บ้านไปหน่อย เป็นเด็กดีไปนิด สุดท้ายก็กินแห้ว ดีที่พอไม่ได้แล้วก็ยอมปล่อยมือทันที ไม่ตามเซ้าซี้อีก

จากนั้นก็เป็นพาร์ตวังหลวง ศึกในเรือนหลังบ้านนั้นแค่น้ำจิ้ม พอแต่งงานมาเป็นสะใภ้ราชวงศ์นี่สิของจริง (แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าตอนอยู่บ้านเดิมมันกว่านะ) ...ต้องบอกก่อนว่าฮองเฮาในตอนนี้ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของพระเอก แต่เป็นน้าหรือน้องสาวแม่พระเอก แม่พระเอกเป็นฮองเฮาองค์ก่อน น้องสาวแม่แอบเป็นชู้กับพี่เขยหรือฮ่องเต้ แอบมาแซบกันตอนที่แม่พระเอกกำลังนอนป่วย พอถูกจับได้อาการแม่ก็ทรุดเนื่องจากโมโห จากที่ป่วยธรรมดาก็กลายเป็นป่วยหนัก แล้วสุดท้ายก็ตาย พระเอกที่ตอนนั้น 5 ขวบบังเอิญเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี หลังแม่ตายก็เลยห่างเหินกับพ่อและไม่ยอมเรียกฮ่องเต้ว่าเสด็จพ่ออีก แต่จะเรียกว่าฝ่าบาท ส่วนนังน้าสาวก็ได้เข้าวังมาเป็นฮองเฮาแถมยังตั้งท้องมาเรียบร้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพระเอกจะโกรธแค้นขนาดไหน หนำซ้ำครอบครัวฝั่งแม่ก็ยังพร้อมใจกันยืนอยู่ข้างน้าสาว ช่วยกันปิดบังเรื่องที่น้าสาวแอบแซบกับพี่เขยตัวเอง ไม่มีใครยืนอยู่ข้างพระเอกเลย ...

แต่อ่านๆ ไปเราว่าคนที่น่าโมโหที่สุดก็คือฮ่องเต้หรือพ่อพระเอกมากกว่า ใจกว้าง ใจอ่อน ไม่หนักแน่น ไม่เด็ดขาด คือจริงๆ แกก็ดีนะ แบบถ้าเกิดในบ้านคนธรรมดาทั่วไปก็คงจะดีกว่า เพราะนิสัยแบบนี้มันไม่เหมาะกับคนเป็นฮ่องเต้อะ คือหลายครั้งแล้วที่พระเอกเปิดโปงแผนชั่วของฮองเฮาให้พ่อได้เห็นได้รับรู้ แต่พอฮองเฮาบีบน้ำตาพล่ามถึงเรื่องอดีต พ่อก็จะใจอ่อน บอกว่าเดี๋ยวปิดประตูเคลียร์เอง ซึ่งสุดท้ายก็คือปล่อยให้เรื่องเงียบไม่ลงโทษอะไรเลย ยิ่งล่าสุดคือพูดสนับสนุนให้ฮ่องเต้นำทัพออกรบเอง ปรากฏว่ารบแพ้ ซึ่งจริงๆ ถึงฮ่องเต้จะตัดสินใจเองแต่นางก็ถือว่ามีส่วนผิดด้วยแหละ แต่เชื่อปะว่าถ้าฮ่องเต้กลับมาก็คงไม่ทำไรนางคือเก่า ดีนะที่มีคนตัดหน้าลงมือก่อน ไม่งั้นนางคงอยู่เป็นหายนะให้กับพระนางและคนอื่นๆ ต่อไปนั่นแหละ 

แย่ทั้งผัวทั้งเมีย คนหนึ่งก็ดอกบัวขาวส่วนอีกคนก็หูเบาหลงผู้หญิง ยิ่งหลังจากที่พ่อพระเอกไปรบกลับมาคือโคตรจะแย่ แต่ก่อนยังพอทน หลังรบกลับมาคือไม่ไหวอะ ผลงานไม่มีสร้างแต่เรื่อง สงสารคนติดตามไปออกรบด้วยจริงๆ เสาหลักของบ้านเมืองทั้งนั้น พอกลับมาก็ยิ่งหูเบา ขี้ระแวง เชื่อทุกคนเว้นพระเอก ทำดีแค่ไหนก็มองไม่เห็น ยิ่งดียิ่งระแวง ขุนนางในราชสำนักคืออยากให้พระเอกขึ้นครองราชย์ใจจะขาด เพราะพ่อพระเอกไม่ค่อยเอางานเอาการ ไม่ขยัน ไม่หนักแน่นเด็ดขาดเหมือนคนลูก อยู่รอดมาได้ไงก็ไม่รู้ โชคดีแค่ไหนที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครก่อกบฏยึดบัลลังก์

แนวการเมือง การต่อสู้ชิงดีชิงเด่นของสตรีทั้งในเรือนหลังและวังหลัง ผ่านชีวิตของเด็กสาวที่ถูกอุ้มสลับตัวไปตั้งแต่เกิด จากหงส์กลายเป็นห่าน กระทั่งผ่านไป 13 ปีจึงได้คืนสู่ฐานะเดิม และกลายเป็นหงส์อีกครั้ง...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจากเด็กสาวชนบทที่อ่านไม่ออกเขียนไม่เป็น ถูกญาติพี่น้องดูถูกเหยียดหยาม มารดาไม่ยอมรับ เป็นเสมือนคนนอกครอบครัว แต่เพราะได้กำลังใจและการสอน+ชี้แนะจากวิญญาณในจี้หยก จากเด็กสาวที่ทุกคนดูถูกดูแคลนก็ค่อยๆ มีสง่าราศีเหมือนกับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ ค่อยๆ เจิดจรัศกลายเป็นคนที่ทุกคนต้องจับตามองและอิจฉาริษยา ค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าจนทิ้งห่างทุกคน และจากคุณหนูก็เปลี่ยนเป็นหงส์อย่างสมบูรณ์ กลายเป็นสตรีที่ทุกคนไม่อาจก้าวล่วงทั้งยังต้องเคารพนบนอบ ได้แต่งกับบุรุษที่หญิงสาวมากมายใฝ่ฝันหมายปอง และได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับบุรุษที่มีอำนาจสูงสุดของแผ่นดิน...