วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

Social Outcast เมื่อผมตกหลุมรักคนที่เกลียดขี้หน้า

 

Social Outcast เมื่อผมตกหลุมรักคนที่เกลียดขี้หน้า (เล่มเดียวจบ)
ผู้แต่ง : ข่าปี่ชิว (卡比丘)
ผู้แปล : G.N Voyager
วาดปก : 
Kanapy
สำนักพิมพ์  Rose Publishing

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นายเอก ฟางเจามู่ นักศึกษาจีนที่ได้บินมาแลกเปลี่ยนที่มหาลัยแห่งหนึ่งในเมือง T
ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นคนเฟรนลี่คุยเก่ง เข้ากับคนง่าย ตอนอยู่ที่จีนก็เข้ากับเพื่อนได้ไม่มีปัญหา 
ครอบครัวก็อบอุ่นเติบโตมาด้วยความรัก ชีวิตราบรื่นมีความสุขดี ...
พอมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนก็นึกว่าจะได้เจอเพื่อนดีๆ เหมือนที่ผ่านมา แต่กลายเป็นว่าเพื่อนที่นี่กลับมีท่าทีเย็นชาเหมือนไม่อยากคบหาตนซะอย่างนั้น แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่นายเอกก็รับรู้ได้ จึงถอยออกมาและไม่ยุ่งกับใคร ทว่าก็ไม่วายโดนเหน็บโดนแซะและถูกหาเรื่อง...จากคนที่เคยคุยเก่งร่าเริงก็เปลี่ยนกลายเป็นคนพูดน้อยไม่สุงสิงกับใคร แต่ละวันผ่านไปอย่างน่าอึดอัดและเดียวดาย ด้วยความเหงาอยากหาคนคุยด้วย นายเอกเลยไปสมัครแอปหาคู่ แล้วก็บังเอิญไปแมตช์กับพระเอกเข้าพอดี

พระเอก ซ่งหย่วนสวิน หนุ่มหล่อบ้านรวย พูดน้อย มีแต่คนล้อมรอบอยากประจบ เพราะเข้าใจผิดคิดว่านายเอกได้โควตามาแลกเปลี่ยนด้วยวิธีการที่ไม่ชอบ บวกกับท่าทางตุ้งติ้งเหมือนเกย์ พระเอกจึงไม่ชอบนายเอกและมีท่าทีเย็นชาไม่สนใจ เพียงแค่ประโยคเดียวที่พูดโดยไม่คิด ก็ทำให้คนรอบข้างพลอยไม่ชอบและตีตัวออกหากไม่พูดคุยกับนายเอกแล้ว นายเอกเลยไม่ชอบพระเอกเหมือนกัน เพราะไอ้ท่าทางเย็นชาและคำพูดประโยคเดียวประโยคนั้นของพระเอกนั่นแหละ จึงทำให้นายเอกไม่มีเพื่อนและถูกบูลลี่โดยไม่ตั้งใจ...

ความจริงพระเอกถูกเพื่อนแกล้งเอามือถือไปติดตั้งแล้วสมัครเข้าแอปหาคู่ ทั้งยังปลอมชื่อ ปลอมอายุและอาชีพให้พี่แกเสร็จสรรพ แล้วแอปเจ้ากรรมก็ดันไปจับคู่พี่แกกับนายเอกที่เรียนอยู่มหาลัยเดียวกันเข้าพอดี ซึ่งพอได้ยินข้อความเสียงที่อีกฝ่ายส่งมา พระเอกก็รู้แล้วว่ากำลังคุยกับใครอยู่(แต่นายเอกไม่รู้) เลยคิดจะลบแอปทิ้ง เพราะไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับนายเอกอยู่แล้ว พอเพื่อนพระเอกรู้เลยขอ login เข้าไปเล่นกับนายเอกแทน พระเอกบังเอิญไปได้ยินตอนเขาคุยกัน ก็เลยรีบเข้าไปเบียดเพื่อนออกแล้วเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ ต่อจากนั้นก็กลับมาคุยกับนายเอกเอง...

หลังจากที่ได้คุยกัน พระเอกก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองและปฏิบัติกับนายเอกดีขึ้น เริ่มอ่อนโยน เริ่มขอเนียนไปส่ง หรือหาข้ออ้างไปหานายเอกเพื่ออวยพรวันเกิด แต่นายเอกกลับไม่ได้สนใจตัวตนพระเอกในชีวิตจริงที่อยู่ตรงหน้านี้เลย คิดถึงแต่ Andrew คนที่อยู่ในแอปเท่านั้น ส่วนพระเอกนับวันก็เริ่มอยากหอม อยากกอด อยากครอบครองนายเอกมากขึ้น พูดง่ายๆ คือชอบเขาแล้ว แต่น่าเสียดายเพราะท่าทีที่นายเอกมีต่อพระเอกในชีวิตจริงนั้นมันช่างแตกต่างกับท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมขี้เล่นที่มีให้ในโลกออนไลน์เหลือเกิน เพราะในชีวิตจริงเมื่อใดก็ตามที่นายเอกได้เจอหน้าหรือเห็นพระเอก รอยยิ้มก็จะหดหายและกลายเป็นคนนิ่งเงียบขึ้นมาทันที พอเป็นแบบนี้พระเอกก็ยิ่งกลัวไม่กล้านัดเจอ และไม่กล้าบอกความจริงว่าตัวเองคือใคร

แต่มาวันหนึ่งพระเอกก็ตัดสินใจนัดเจอและเปิดเผยความจริง... ตอนแรกก็นัวเนียกอดจูบกันอยู่ดีๆ ไม่ได้เปิดไฟยังไม่เห็นกัน แต่พอเปิดไฟปุ๊บเท่านั้นแหละ...นายเอกคือช็อกมาก รีบเดินเข้าห้องน้ำไปอ้วกออกทันที จากนั้นก็อาบน้ำขัดถูร่างกายจนตัวแดง เสร็จแล้วก็ไม่พูดไม่จาแต่รีบเก็บข้าวของกลับไปเลย พอกลับมาถึงมหา'ลัยก็หลบหน้าบล็อกเบอร์ พยายามไม่ใช้มือถือ เปลี่ยนไปใช้อีเมลแทน ส่วนพระเอกก็พยายามตามตื๊อตามง้อขอไปส่ง อะไรที่เคยคุยไว้กับนายเอกก่อนหน้านี้ว่าจะทำให้ก็ไม่เคยลืม พอมีโอกาสก็พานายเอกไปทำเลย ...ส่วนอิเพื่อนรอบตัวพระเอก พอเห็นพระเอกเริ่มดีกับนายเอกก็เปลี่ยนสี หันกลับมาสนใจและทำดีกับเขาทันทีเลยจ้า เหอๆ

อ่านจบแล้วก็โอเคนะ อ่านเพลินดี แต่ด้วยความที่เป็นเล่มเดียวจบและเล่มบาง(มาก) เลยรู้สึกว่ามันยังไม่สุดเท่าไร เนื้อเรื่องเดินไว บางจุดก็ดูง่ายไปหน่อย ยังไม่หนำใจเลยอ้าวจบและ

ป.ล. nc พอมีให้แซบอยู่ ไม่ถึงขนาดตัดเข้าโคมนะจ๊ะ ..อิอิ


📍Social Outcast เมื่อผมตกหลุมรักคนที่เกลียดขี้หน้า ➡️ https://s.shopee.co.th/3qFFhAJ3bW




วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

Dear Mr. MOF หวานละมุนคุณที่รัก

 

Dear Mr. MOF หวานละมุนคุณที่รัก (เล่มเดียวจบ)
ผู้แต่ง : ซูอี้
ผู้แปล : ซิงฉาย
สำนักพิมพ์ แจ่มใส (With Love)

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก จางซูอี้ สาวชาวจีนที่เรียนจบเอกภาษาญี่ปุ่นแต่กลับค้นพบว่าตนรักในการทำขนมหวาน จึงตัดสินใจบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนเป็นเชฟทำขนมหวานที่ประเทศฝรั่งเศส และด้วยอานุภาพของความรักที่มีต่อมิสเตอร์เอ็มโอเอฟ หรือเชฟขนมตาสีฟ้าสุดหล่อชาวฝรั่งเศสที่มีดีกรีเป็นถึงผู้ชนะการแข่งขันรายการ MOF หรือ Meilleur Ouvrier de France จากเดิมที่ว่าจะอยู่แค่ 9 เดือน เรียนจบแล้วกลับบ้านเกิด เธอก็ไปสมัครเป็นผู้ช่วยเชฟและพยายามหาทางอยู่ต่อเพื่อจีบเขา ถึงแม้จะต้องเผชิญความต่างทางเชื้อชาติ หรือความยากของภาษาและวัฒนธรรม แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับซูอี้แม้แต่น้อยที่จะทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

เป็นแนวความรักผสมการทำขนม หวานละมุนทั้งเรื่องอาหารและความรัก นางเอกไม่ได้จีบตรงๆ แบบขอเบอร์แล้วโทรหาหรือส่งข้อความไปให้ แต่อาศัยการเป็นผู้ช่วยสอนค่อยๆ แทรกซึมเข้าไป คอยดูแลเอาใจใส่ และหมั่นโผล่หน้าไปให้พระเอกคุ้นชิน พอถึงคราวที่ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเชฟ เธอก็จะไปเตรียมของไว้ก่อน ใส่ใจคอยสังเกตพระเอกเป็นพิเศษหรืออยู่ทำโอทีด้วย ทั้งยังมาถึงก่อนเวลาไม่เคยสาย ซึ่งต่างจากใครหลายๆ คน เพราะนอกจากจะมีเรื่องขนมเป็นแรงจูงใจ เธอก็ยังมีพระเอกเป็นแรงผลักดันอีกด้วยยังไงล่ะ..อิอิ  

จนพระเอกประทับใจค่อยๆ รู้สึกดีด้วย คุ้นเคยกับการมีอยู่ของเธอ จนบางทีก็เผลอเรียกชื่อผิด (เรียกชื่อนางเอกออกมา แต่ตอนนั้นสอนกับผู้ช่วยคนอื่นอยู่) จากที่ไม่เคยสนใจใครหรืออะไรนอกจากการทำขนม พี่ก็เริ่มจำชื่อของนางเอกได้(คนเดียว)
เริ่มอ่อนโยนคุยเก่ง(กับนางเอก) ไม่เย่อหยิ่งเย็นชาหรือดุเหมือนเวลาอยู่กับคนอื่นๆ หากวันไหนนางเอกมาสายก็ไม่ดุไม่ว่า แต่จะคอยเป็นห่วงกังวลแทน ห่วงว่านางเอกอาจจะเป็นอะไรหรือเกิดเหตุอะไรขึ้นรึเปล่า...อาการออกชัดมาก แบบคนรอบข้างก็ดูออกแต่พระเอกกลับไม่ทำให้สถานะมันชัดเจนสักที

มีดราม่านิดนึงงง คือพอมีคนเห็นพระเอกดีกับนางเอกก็อิจฉา เลยเอาเรื่องนางเอกไปพูดเสียๆ หายๆ ใส่ไฟกับเชฟอีกคน ทำให้นางเอกถูกเชฟคนนั้นต่อว่าและปฏิบัติด้วยไม่ค่อยดี แต่นางเอกก็ใจเย็นสู้ ชี้แจงอธิบายเหตุผลจนเชฟคนนั้นอึ้ง (อย่าคิดว่าจะรังแกกันได้ง่ายๆ นะ พอถึงคราวต้องสู้นางเอกก็สู้นะบอกเลย) แล้วก็มีเรื่องที่วีซ่ากำลังจะหมด นางเอกอยากอยู่ต่อ แต่คนที่ต้องเซ็นให้ก็ดันไม่เซ็นให้สักกะที แถมพระเอกที่ดูเหมือนจะชอบเธอเช่นกันก็ยังไม่ชัดเจนอีก จนวันหนึ่งด้วยความที่อะไรๆ มันถาโถมเข้ามาเยอะเหลือเกิน นางเอกเลยตัดสินใจสารภาพความรู้สึกออกไป...

เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเหมือนนิยาย แต่เหมือนกำลังอ่านไดอารี่หรือบันทึกชีวิตประจำวันของนางเอกมากกว่า อ่านง่าย เนื้อเรื่องฟีลกู้ด บางตอนอ่านแล้วก็ตลกกับความคิดนางเอก (เปรียบตัวเองเป็นห้องน้ำ ถ้าพระเอกชักช้าไม่ใช้ แล้วคนอื่นมาใช้ก่อนระวังจะเสียดายนะ 55) นางเอกเป็นลูกคนเล็กของบ้าน ที่บ้านห่วงแต่ไม่หวง ยินดีปล่อยให้ลูกไปทำตามฝันค้นหาเส้นทางชีวิตของตนเอง แม้สุดท้ายลูกจะตัดสินใจอยู่ต่อเพราะมีคนที่รักที่อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วย ต่อให้ในใจจะห่วงหามากขนาดไหนแต่ก็ยังพร้อมสนับสนุน เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก... จริงๆ มีบทไม่เยอะนะ แต่แค่สั้นๆ ก็ทำให้เราได้เห็นถึงความรักความห่วงใยที่พ่อแม่มีต่อลูก พี่มีต่อน้องได้แล้วอะ...

ส่วนพระเอกเวลาอยู่กับนางเอกก็เหมือนเด็กน้อยอายุ 3 ขวบมากกว่าผู้ใหญ่ 55 เปลี่ยนไปเป็นคนเอาแต่ใจ ขี้งอน แถมยังขี้หึงมาก แบบว่ามากกกกกกกจริงๆ เช่น...
1 เห็นนางเอกคุยกับหนุ่มเอเชียคนไหน พี่ก็คิดว่าเขาเป็นแฟนนางเอกหมด
2 นางเอกเรียกเพื่อนผู้ชายว่าพี่(แล้วตามด้วยชื่อ) พระเอกก็หึง ทำไมถึงเรียกว่าพี่ล่ะ เป็นพี่น้องกันเหรอ แล้วทำไมกับผมคุณถึงเรียกว่า เชฟ ..(แบบอยากให้เรียกหวานๆ อะ) (-_-“)
3 ถ้ากลับก่อนโดยไม่ได้บอกลาพี่ก็น้อยใจ พอวันถัดไปก็ต้องให้นางเอกพูดบอกลาสองรอบด้วยนะจ๊ะ (ชดเชย) ....
4 นางเอกเอาไอติมที่พี่ทำ(จนล้นตู้) ไปให้คนอื่นกินก็ไม่ได้ จะชายหรือหญิงก็ห้าม เพราะผมทำให้คุณกินคนเดียวเท่านั้น 55....ยังมีอีกเยอะต้องลองไปอ่าน เล่มเดียวจบบางๆ ย่อยง่าย อ่านแล้วต้องเผลอยิ้ม(กันบ้างแหละ) ...

ป.ล. อ่านจบแล้วสรุปก็ยังไม่รู้เลยว่าตกลงพระเอกชื่อจริงชื่ออะไร อายุจริงเท่าไร เรียกแต่มิสเตอร์เอ็มโอเอฟกันทั้งเรื่อง ส่วนเชฟคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน เรียกแต่ฉายา ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าชื่อจริงๆ ชื่ออะไร?

ป.ล. เพิ่งสังเกตเห็นว่านักเขียนก็ชื่อเดียวกับนางเอกของเรื่องด้วย 55 ..


📍Dear Mr. MOF หวานละมุนคุณที่รัก ➡️ https://s.shopee.co.th/7V8Y4AOtdP





วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เกิดใหม่เพื่อคืนฐานะเดิม 5 เล่มจบ


เกิดใหม่เพื่อคืนฐานะเดิม 5 เล่มจบ
ผู้แต่ง : ขวงซั่งจยาขวง
ผู้แปล : ถังเจวียน
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก ฉยงเหนียงหรือชุยเจียงฉยง บุตรสาวพ่อค้าขนมที่ถูกแม่นมสกุลหลิ่วอุ้มผิดตัวไป
จึงทำให้นางกลายมาเป็นบุตรสาวภรรยาเอกของตระกูลขุนนาง และถูกสกุลหลิ่วเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ เป็นสตรีที่อยู่ในกรอบจารีตประเพณี เคร่งครัดในขนบธรรมเนียม เพียบพร้อมด้วยสติปัญญาและกิริยาวาจา ดังนั้นในชาติก่อนตอนที่เรื่องฐานะชาติกำเนิดเปิดเผย จึงไม่แปลกที่นางเอกซึ่งถูกสอนสั่งมาเช่นนั้นจะดูถูกและรังเกียจครอบครัวเดิมของตน ไม่ยอมกลับบ้านหรือไปมาหาสู่กับครอบครัวที่แท้จริง และตัดสินใจแต่งงานกับ ซั่งอวิ๋นเทียน บัณฑิตหนุ่มยากจนที่มาจากครอบครัวธรรมดาซึ่งมีฐานะไม่ดี  แต่ไม่ว่าจะลำบากเพียงใดนางก็ยังเพียรพยายามเป็นลูกสะใภ้และภรรยาที่ดี คอยให้การสนับสนุนช่วยเหลือสามีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน ดูแลบ้าน แม้แต่คอยสร้างสายสัมพันธ์เพื่อปูทางสู่อนาคตในวันข้างหน้าให้เขา

ด้วยเหตุนี้นางเอกจึงจำเป็นต้องออกไปทำงานการกุศล และไปออกงานสังคมกับพวกฮูหยินสตรีชนชั้นสูงอยู่บ่อยๆ เพื่อสร้างเส้นสายให้กับสามีและหาเงินมาเลี้ยงดูคนในบ้าน จนเป็นเหตุให้นางไม่มีเวลาและต้องละเลยคนในครอบครัวไปโดยไม่ตั้งใจ จนทำให้ถูกลูกๆ หมางเมิน ถูกน้องสาวกับสามีของตนสวมเขา และสุดท้ายตนเองก็ถูกคนผลักตกน้ำจนตายอย่างอนาถ พอได้โอกาสกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง นางจึงขอลาแล้วกับเส้นทางชีวิตลูกคุณหนูตระกูลขุนนางที่ต้องอยู่ในกรอบ ที่ชื่อเสียงและหน้าตาต้องมาก่อนอันดับหนึ่ง พอกันทีกับสามีห่วยๆ รวมถึงครอบครัวที่รักเพียงหน้าตาและให้ความสำคัญแต่เรื่องชื่อเสียงวงศ์ตระกูล...

พระเอก ฉู่เสียหรือหลางอ๋อง อ๋องต่างแซ่ที่มีชื่อเสียงย่ำแย่ แต่พี่ก็ไม่แคร์ ไม่เคยเห็นหัวใคร นิสัยเอาแต่ใจหยิ่งยโสสุดๆ และเพื่อให้สมกับชื่อเสียงที่เขาขนานนามว่า อ๋องโฉด 
ดังนั้นเมื่อพี่แกเห็นนางเอกตกอับกลายเป็นลูกพ่อค้า สิ่งแรกที่ทำก็คือ...บีบบังคับให้คนเขามาทำงานเป็นแม่ครัวในจวนตัวเองด้วยเงินเดือน 5 เฉียน เหอๆ ...
ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายขับรถม้ามาชนพี่ชายนางเอกแท้ๆ แต่ก็ยังไปข่มขู่เก็บค่าซ่อมรถจากเขา เมื่อบวกกับชื่อเสียงอันเลื่องลือรวมถึงจุดจบในชาติที่แล้ว ก็ไม่แปลกที่นางเอกจะไม่ชอบ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย ...

แต่พระเอกก็ยังหลงคิดว่านางเอกมีใจ ทั้งๆ ที่ก็บอกแล้วว่าไม่ชอบ ไม่แต่ง ไม่ต้องมาสู่ขอ แต่พี่ก็ยังมโนนึกว่าเขาจะยินดีมาเป็นชายารองของตน...คิดว่าชาติกำเนิดแบบนางได้เป็นชายารองก็ดีถมเถ แต่สุดท้ายแม้แต้ชายาเอกนางเอกก็ยังไม่สน พี่ถึงได้เก็ทว่าที่ผ่านมาเขาปฏิเสธเราจริงๆ นี่หว่า...OMG!! โกรธมาก เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยก เพราะนี่เป็นสตรีคนแรกที่พี่ชอบและตามจีบตามตื๊อ แต่พอจะให้เลิกชอบจริงๆ ก็ทำม่ายล่าย เพราะทันทีที่เขาเกิดเรื่องพี่ก็ใจอ่อนรีบมาหาอย่างไว...หึหึ

หลิ่วผิงชวนหรือชุยผิงเอ๋อร์ บุตรสาวสกุลหลิ่วตัวจริงที่ต้องกลายมาเป็นบุตรสาวพ่อค้า
นิสัยเห็นแก่ตัว มักใหญ่ใฝ่สูง ขี้อิจฉา อยากได้อยากมีแต่ความสามารถไม่ถึง(ก็ไปทางลัด) เจ้าคิดเจ้าแค้น ชาติก่อนก็โทษนางเอก ได้มาเกิดใหม่ก็ยังแค้นไม่เลิก คิดว่านางเอกคือต้นเหตุที่ทำให้ตนต้องไปเป็นบุตรสาวพ่อค้า ต้องตกระกำลำบากจนกลายเป็นนางบำเรอและไม่อาจมีลูกได้ พอกลับเข้าตระกูลเดิม แม้ต่อหน้าจะยังยิ้มแย้มทำเป็นเข้าหาอยากผูกมิตร แต่ลับหลังกลับลอบเป็นชู้กับสามีของนางเอกและพยายามตีสนิทลูกเขา พอความแตกนางเอกตาย นางกลับได้เป็นเพียงอนุไม่ใช่ภรรยาเอกอย่างที่หวัง สามีหมางเมิน แถมลูกนางเอกจากที่เคยชอบก็กลายเป็นเกลียดนาง ต้องกลายเป็นหญิงหม้ายทั้งๆ ที่สามียังมีชีวิต ...

พอได้กลับมาเกิดใหม่ นางเลยตั้งใจว่าจะแย่งทุกสิ่งที่เป็นของนางเอกมาเป็นของตัวเอง ทั้งความรักของคนในครอบครัวใหม่และเก่า ทั้งสามีในชาติที่แล้ว รวมไปถึงทุกสิ่งที่นางเอกเคยทำเคยสร้างเอาไว้ นางก็จะสวมรอยเอามาเป็นของตนให้หมด...
แต่ความจริงก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ต่อให้ชาติกำเนิดจะสูงส่งเพียงใด รู้มากกว่าเดิมแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่เปลี่ยนหรือปรับปรุงนิสัย ท้ายที่สุดก็ต้องพลาดพลั้งและเดินซ้ำรอยเดิมอยู่ดี ...
เพราะทุกเรื่องที่นางสรรหาทำ สุดท้ายก็ความแตกถูกจับได้หมด แค้นเขาจนไม่ลืมหูลืมตา แม้แต่ครอบครัวที่เลี้ยงดูมาก็ยังทำได้ลง ..ทำแต่เรื่องโง่ๆ ตอนแรกก็ดูเหมือนจะซูและได้เปรียบกว่า แต่ไปๆ มาๆ ก็สู้นางเอกไม่ได้คือเก่าอยู่ดี 

... ส่วนฝั่งพ่อแม่สกุลหลิ่วก็สนแต่หน้าตาตัวเองกับชื่อเสียงวงศ์ตระกูล บวกกับเจอนางร้ายยุเลยรีบส่งนางเอกกลับบ้านเดิมทันที แต่นางร้ายก็ยังไม่พอใจ ยังคิดจะตามไปแย่งชิงความรักความสนใจจากพ่อแม่ที่แท้จริงของนางเอกด้วย แต่คราวนี้นางเอกมีบทเรียนแล้ว ชาตินี้พอเสแสร้งมานางก็เสแสร้งกลับสิ แถมยังขยันช่วยพ่อแม่ทำงานและเอาใจใส่ครอบครัวเป็นอย่างดี จนฐานะทางบ้านค่อยๆ มั่นคงและดีขึ้น
ส่วนพี่ชายสกุลกลิ่ว หลิ่วเจียงจวี พอรู้ว่าน้องสาวถูกส่งกลับบ้านเดิมตอนที่ตัวเองไม่อยู่บ้าน
ก็ไม่พอใจ  พอนางร้ายหรือน้องสาวตัวจริงอยากจะย้ายไปอยู่ห้องเดิมของนางเอก อิพี่ก็ไม่ยอม ไปจัดการล็อกห้องไว้เลย พอรู้ว่านางเอกต้องไปเป็นแม่ครัวให้พระเอกเพราะเรื่องเงิน 
อิพี่ก็ไปหายืมตังค์มาไถ่ตัวให้ เป็นคนเดียวในบ้านสกุลหลิ่วที่รักและห่วงนางเอกจากใจจริง ..
ส่วนพ่อแม่หลิ่วก็ไม่ได้สนใจหรือรักนางเอกจริง แม้จะเลี้ยงดูมาถึง 15 ปีก็ตาม แต่พอเห็นเขาได้ดีเจริญรุ่งเรืองก็อยากให้กลับมา เพราะลูกที่แท้จริงหรือนางร้ายนั้นไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง 

เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่นางเอกไม่ได้กลับมาเกิดใหม่คนเดียว แต่ยังมีคนอื่นๆ อีกที่ได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ด้วย แถมอีกฝ่ายยังได้เปรียบตรงที่รู้เหตุการณ์ข้างหน้ามากกว่า และได้กลับมาเกิดก่อน แต่นางเอกก็ไม่ได้ซีเรียส ควรใช้ชีวิตอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ตั้งใจแล้วว่าชาตินี้จะขออยู่กับครอบครัวที่แท้จริง จะสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัวใหม่ ก็ใช้ทักษะจากชาติก่อนบวกกับความสามารถที่มีอยู่แล้วมองหาช่องทางทำเงิน ต้องทำยังไงขนมธรรมดาจึงจะขายได้ราคาดี พอเริ่มมีเงินก็ชวนที่บ้านไปหาทำเลเปิดร้านขายอาหารเจ ...ก็อาศัยเรื่องที่รู้มาจากในชาติก่อนแหละ เลยรู้ว่าต้องไปขายหรือซื้อร้านทำเลตรงไหน แล้วพวกฮูหยินที่มากินชอบอาหารแบบใด เมื่อบวกกับฝีมือทำอาหารที่ติดตัวมาก็เลยยิ่งขายดิบขายดี ...

พอกิจการอันนี้เริ่มคงที่นางเอกก็ไปขายแป้งทาหน้า ทำกิจการขนส่งสินค้าทางเรือต่อ
หัวการค้าสุดๆ เพราะเดิมชาติก่อนก็หาตังค์เก่งอยู่แล้ว มาชาตินี้เลยยิ่งโคตรรุ่ง ผิดกับฝั่งตัวร้ายที่นอกจากเลียนแบบนางเอกแล้วก็ไม่มีอะไรอีกเลย ได้แต่เดินตามรอยเท้าของนางเอกในชาติที่แล้ว เช่นเอาแบบเสื้อผ้าที่เขาออกแบบมาตัดใส่ก่อน เอาบทกลอนที่เขาแต่งมาสวมรอยว่าแต่งเอง สรุปเอาแต่สิ่งที่นางเอกเคยทำแล้วปังมาลอกเลียนทำใหม่อีกครั้ง ไม่มีการคิดเพิ่มเติมแต่อย่างใด ต่างจากนางเอกที่คอยมองหาเส้นทางใหม่ๆ อยู่ตลอด ไม่หยุดอยู่ที่เดิม 

พอเป็นแบบนี้เรื่องราวบางอย่างในชาติก่อนจึงค่อยๆ คลาดเคลื่อนและแตกต่างไปจากเดิม เช่นบางเรื่องที่ควรจะเกิดกับคนนี้ก็อาจไปเกิดกับคนนั้นแทน อย่างเรื่องทุจริตการสอบที่ชาติก่อนเคยเกิดกับพระเอกแต่ชาตินี้ความซวยก็ไปตกอยู่ที่รัชทายาทแทน หรือบางคนที่ต้องตายในชาติที่แล้ว แต่มาชาตินี้ก็อยู่รอดปลอดภัยมีชีวิตที่สุขสบาย แต่บางคนที่ชาติก่อนเคยสุขสบาย มาชาตินี้ก็กลับตกต่ำลงเรื่อยๆ หรือไม่ได้ตายดี และก็มีบางเรื่องที่เกิดเร็วกว่าชาติก่อนเพราะมีคนไปปั่นเร่งให้มันเกิดขึ้น ...

จะว่าไปพระ-นางเรื่องนี้ก็อยู่ของตัวเองดีๆ นะ พระเอกก็แค่อยากสร้างครอบครัวกับคนที่รักแล้วพากันกลับเจียงตง(บ้านเกิดพี่แก) ไม่ได้ทะเยอทะยานอยากเป็นฮ่องเต้หรือวางแผนคิดทำร้ายใครก่อนเลย แต่ด้วยความที่ฮ่องเต้รักมากกกก ลำเอียงเข้าข้างพี่แกสุดๆ ก็เลยทำให้พวกองค์ชายหวาดระแวงอยากจะกำจัด...คือถ้าฮ่องเต้ทำตัวปกติไม่ออกอาการขนาดนี้ ก็คงไม่มีใครสนใจอ๋องต่างแซ่ที่มาจากบ้านนอกอย่างพี่แกเท่าไรหรอก...
ทว่าเพราะความโปรดปรานและการเข้าข้างพระเอกที่มันมากจนเกินไป ก็ไม่แปลกที่จะทำให้คนระแวงคิดไปไกลและสงสัยมาถึงเรื่องชาติกำเนิดของพี่แก...ความจริงถ้าฮ่องเต้เรื่องนี้เป็นคนธรรมดาและมีพระเอกเป็นลูกคนเดียวก็คงจะดี (ถือว่าเป็นพ่อที่ดีมากเลยนะ) แต่พอมีฐานะเป็นฮ่องเต้แล้วรักพระเอกมากขนาดนี้ เราอ่านแล้วยังรู้สึกไม่ค่อยโอเลย (แม้คนที่ได้รับความรักจะเป็นพระเอกก็ตาม) โคตรลำเอียง น่าสงสารลูกคนอื่นๆ เพียงเพราะไม่ได้เกิดจากสตรีที่พ่อรัก พ่อเลยไม่สนไม่แคร์เท่าไร สนใจ+ถามถึงแต่เรื่องของพระเอกก่อน
เราว่าไอ้เรื่องร้ายๆ ที่พระเอกต้องเจอหลักๆ มันก็มาจากตัวฮ่องเต้เองนี่แหละ..เหอๆ
(ถึงจะทำเรื่องไม่ดี แต่พอได้ยินว่าพ่อไม่ถามถึงไม่ห่วงตัวเองเลย แม้จะเป็นบุรุษที่โตแล้ว แต่ก็มีอารมณ์น้อยใจและหลั่งน้ำตาได้เหมือนกันนะ
T^T)

ผลงานของผู้เขียนเรื่องวาสนาคนเขลา ปมเยอะแต่พอเดาได้ ไม่ซับซ้อนเท่าไร(นะเราว่า)
นางเอกโคตรสู้ชีวิต ทำอาหาร+ทำ
การค้าเก่งเวอร์ ไหนจะมีคนสละโชคลาภวาสนาให้ แถมยังมีเซนส์เรื่องแฟชั่นเป็นผู้นำเทรนด์อีกด้วยนะจ๊ะ มองการณ์ไกล หยิบจับอะไรก็ต่อยอดเป็นเงินทองได้หมด ไม่ต้องง้อผู้ ไม่ต้องแต่งงานก็อยู่ได้จ้า อยู่แบบสวยๆ รวยๆ ให้คนอิจฉาเล่น แต่น่าเสียดายที่นางดันไปเข้าตาพระเอกหรือท่านอ๋องต่างแซ่ที่มีชื่อเสียงและวีรกรรมย่ำแย่เข้า จะหนีจะปฏิเสธเท่าไรพี่ก็ยังตามตื๊อตามติดไม่เลิก ทั้งเปย์ทั้งหยอด ความมั่นสูงมาก แต่พอได้เห็นความทุ่มเท 
การกระทำ และการปกป้องที่พระเอกมีให้ สุดท้ายกำแพงหัวใจของนางเอกก็เริ่มสั่นคลอน จากที่ว่าจะไม่รักจะอยู่คนเดียวแบบสวยๆ ก็ต้องขอเปลี่ยนใจ...

ชาติก่อนพระเอกมีชะตาเดียวดาย ทั้งโดนใส่ร้ายถูกวางยาพิษ ทั้งตกหลุมพรางจนต้องก่อกบฏ ชีวิตไม่มีความสุขเลย ดังนั้นชาติที่แล้วพี่จึงขอสละโชคลาภวาสนาที่มีทั้งหมดเพื่อแลกกับการได้ครองคู่อยู่กับนางเอกในภพหน้าแทน ...พอได้คนเขามาเป็นภรรยา แม้จะเจอปัญหาและมีอุปสรรคมากมาย แต่พระเอกก็ไม่ได้ตกหลุมพรางใครหรือทำเรื่องใดผิดพลาดอีก ชาตินี้แฮปปี้สุขสมหวัง ได้มีทั้งลูกและภรรยาอยู่กันพร้อมหน้าครอบครัวอบอุ่นก็พอใจแล้ว ...

ป.ล. เราไม่ค่อยชอบพระเอกตรงที่ไปเอาตัวสามีเก่าของนางเอกมาฆ่าเพื่อใช้เป็นเครื่องสังเวยให้นางเอกมาเกิดใหม่เลยอะ เข้าใจว่าต้องเอาคนที่นางเอกแค้นที่สุดก่อนตายมาใช้เป็นเครื่องสังเวย ก็คือตัวนางร้ายกับสามีเก่า ซึ่งตอนนั้นนางร้ายตายไปแล้ว แต่สามีเก่าอะยังไม่ตายนะ ถึงเขาจะคบชู้ทำให้นางเอกเสียใจแค้นจริง แต่มันก็ไม่สมควรไปจับเขามาฆ่าโดยที่เขาไม่ยินยอมรึเปล่า แล้วลูกของเขากับนางเอกอีก 2 คนใครจะเลี้ยงอะ
คือเขาเป็นสามีที่ไม่ดีจริง ถึงจะมาสำนึกผิดได้หลังจากที่นางเอกตายไปแล้ว แต่โทษมันคงไม่ถึงขนาดต้องตายแบบนี้หรอกมั้ง?... 


📍เกิดใหม่เพื่อคืนฐานะเดิม 5 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/8Khf3K0lZp






วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

แม่ทัพใหญ่ผู้นี้คือสามีข้า 3 เล่มจบ

 

แม่ทัพใหญ่ผู้นี้คือสามีข้า 3 เล่มจบ
ผู้แต่ง : เทียนหรูอวี้
ผู้แปล : พวงหยก
สำนักพิมพ์ แจ่มใส

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก หลี่ซีฉือ เซี่ยนจู่แห่งวังกวงอ๋อง ฉากหน้านางคือเชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์ แต่ฉากหลังนางคือเถ้าแก่ใหญ่ที่ทำการค้าจนมีกิจการใหญ่โตไปทั่วแผ่นดิน
เหตุเพราะค่าสินบรรณาการที่ฮ่องเต้เรียกเก็บจากอ๋องศักดินาทั้งหลาย จึงทำให้นางเอกต้องอาศัยการเดินทางท่องเที่ยวบังหน้า เพื่อไปทำการค้าและหาเงินมาช่วยพี่ชายจ่ายค่าสินบรรณาการ...แต่ต่อมาพี่ชายกลับประสบอุบัติเหตุจนป่วยหนักติดเตียง จวนอ๋องเริ่มตกต่ำลง ทำให้นางถูกบ้านคู่หมั้นขอยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย พอพี่ชายรู้ข่าวก็โมโหหนักจนอาการทรุด แต่ก็ยังพยายามเขียนฎีกาขอให้ฮ่องเต้หาคู่แต่งงานใหม่ให้น้องสาว

ฮ่องเต้จึงพระราชทานสมรสให้นางแต่งกับ ฝูถิง ผู้บัญชาการกองทัพพิทักษ์อุดร สามัญชนธรรมดาที่ใต้เต้าจนกลายมาเป็นแม่ทัพใหญ่แดนเหนือ
ทว่าในคืนวันแต่งงานทั้งสองคนกลับมีเหตุให้ต้องแยกจากกันไปก่อน โดยที่ยังไม่ทันได้เข้าห้องหอให้เสร็จสิ้น...จนเวลาผ่านไปเมื่อหลานชายของนางเอกผู้เป็นซื่อจื่อแห่งวังกวงอ๋องถูกคนรังแก นางเอกถึงได้ตัดสินใจพาหลานและข้ารับใช้เดินทางขึ้นสู่แดนเหนือ เพื่อไปพึ่งพิงอำนาจบารมีของสามีที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน

พระเอกเป็นแม่ทัพใหญ่แดนเหนือที่เก่งกาจและมีฝีมือในการรบ เป็นที่เคารพยำเกรงของผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นที่ขยาดหวาดกลัวของศัตรู และเป็นวีรบุรุษที่สาวน้อยใหญ่ในดินแดนเหนือต่างชื่นชมหมายปอง แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังท่านแม่ทัพผู้นี้กลับยากจนและขาดแคลนเงินมากกก เพราะพี่แกเอาเงินไปทุ่มกับกองทัพ ทุ่มกับการดูแลดินแดนในปกครองของตนหมดแว้ววว...เข้าไปในจวนแม่ทัพนี่นึกว่าทะลุมาอยู่ตำหนักเย็น 55 ...
แต่สวรรค์ก็เหมือนจะรู้ว่าพี่ขาดอะไร ถึงได้ส่งสตรีที่ร่ำรวยที่สุดในแผ่นดินมาเป็นภรรยา..
พอได้มาเห็นสภาพจวนของสามี นางเอกก็เฮ้ออ เข้าผิดบ้านหริอเปล่านะ..ไม่ใช่ๆ 55
นางก็รีบสั่งให้คนไปหาซื้อเครื่องเรือนและดูแลจัดการจนบ้านน่าอยู่ขึ้นมา พอรู้ว่าสามีบาดเจ็บแต่ไม่มีตังค์ซื้อยาราคาแพงมารักษา นางก็ไปจัดการสั่งซื้อยา(ที่ร้านตัวเอง) แบบดีและแพงที่สุดมาให้  พอรู้ว่าสามีไม่มีตังค์จ่ายเบี้ยทหารหรืออยากได้ม้าก็อะจัดไป
มิติใหม่แห่งวงการนิยายจริงๆ นางเอกเรื่องนี้ ปกติเจอแต่พระเอกสายเปย์แต่อันนี้กลับกันเลย อยากได้หรือขาดเหลืออะไรน้องพร้อมเปย์ให้หมด ใจกว้าง
สายเปย์ที่แท้ทรู...

ทว่าพระเอกก็ไม่ได้มีความสุขเลยสักนิดที่ต้องใช้ตังค์เมีย ชายชาติทหารผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างพี่ รับไม่ได้ที่ต้องให้สตรีมาเลี้ยงดูหรือออกตังค์ให้ ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นภรรยาของตนก็เถอะ แรกๆ ทั้งสองคนจึงมีปัญหากันด้วยเรื่องนี้บ่อยมาก (หมายถึงฝ่ายพระเอกนะ) นางเอกก็อยากช่วย อยากได้ตัวและหัวใจเขา พูดง่ายๆ คืออยากให้พระเอกหลงรักอะ เพราะอยากอาศัยอำนาจความแข็งแกร่งของสามีมาช่วยค้ำจุนหลานและฟื้นฟูจวนอ๋องให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยวิธีไหน เพราะพระเอกก็ขาดอยู่เรื่องเดียวคือ เงิน ..แล้วนางก็มีแต่เงินพอดี หลังๆ พระเอกเลยต้องจำใจยอม แล้วสั่งให้ลูกน้องคอยจดจำนวนเงินที่นางเอกจ่ายออกไป วันหน้าเก็บภาษีได้เมื่อไรจะได้เอามาชดใช้คืน

แต่นอกจากจะขยันเปย์แล้ว นางเอกก็ยังอึดถึกสุดๆ อีกด้วย จะไม่อึดก็ไม่ได้เพราะต้องปกป้องหลานชายและจวนอ๋อง ต้องระหกระเหินเดินทางไปนู่นมานี่อยู่บ่อยๆ เดี๋ยวก็ถูกจับ เดี๋ยวก็ถูกข้าศึกลักพาตัว เดี๋ยวก็ต้องตามสามีไปรบ แล้วไหนจะต้องเดินทางไปทำการค้าของตัวเองอีก พระเอกก็ใจแข็งพูดน้อย สไตล์ท่านแม่ทัพใหญ่แข็งกระด้าง พูดจาอ่อนหวานไม่เป็น แต่ก็ต้องการเป็นท้องฟ้าเป็นที่พึ่งให้เมีย หวังว่าเกิดปัญหาอะไรเมียจะบอกไม่ปิดบังแล้วเห็นตนเป็นคนในครอบครัวจริงๆ สักที ส่วนเรื่องที่นางเอกจะไปทำการค้าหรือทำอะไรพี่ไม่เคยห้าม เพียงแต่อยากให้บอกกันบ้างเท่านั้นเอง .....แต่นางเอกก็ไม่กล้า เพราะไม่อยากให้คนมองว่าตนอาศัยอำนาจของสามีมาเอื้อการค้าตัวเอง กลัวพระเอกจะถูกคนใช้จุดนี้มาเล่นงาน บวกกับในสมัยโบราณคนทำการค้าถือเป็นชนชั้นต่ำมีแต่คนดูถูก แถมตัวเองยังเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ฮ่องเต้ก็ยิ่งระแวงหาทางจับผิดอยู่ หากเรื่องนี้หลุดออกไปนี่ตายทั้งบ้าน...

จริงๆ เราเข้าใจนางเอกนะ เพราะตอนแรกพระเอกก็ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า ปุบปับจะให้มาเผยความจริงพูดทุกอย่างเลยมันก็ไม่ใช่ ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอ ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางกันเลย นางเอกก็ต้องกลัวและระวังไปสารพัดแหละ ทั้งกลัว ทั้งห่วงว่าตนจะนำความเดือดร้อนมาให้ เพราะถ้าทำให้พระเอกเดือดร้อน มันก็ไม่ใช่แค่พระเอกไง แต่มันจะลามไปทั้งแดนเหนืออีกกี่พันกี่หมื่นชีวิต...ก็รู้แหละว่าอยากให้บอก แต่มันก็ต้องใช้เวลาอะเนอะ ...
ในช่วงเล่ม 1 กับครึ่งเล่ม 2 เราถึงได้แอบหมั่นไส้พระเอก ที่ไม่ยอมใจอ่อนกับเมียสักที
ขนาดนางเอกเปย์และยอมลงให้ก่อนขนาดนี้ พี่ก็ยังใจแข็งเป็นก้อนหินอยู่ได้...
ทว่าพออ่านไปเรื่อยๆ เราก็ชักไม่แน่ใจและว่าใครกันแน่ที่ใจแข็งกว่ากัน ...หรือจะแข็งเป็นก้อนหินด้วยกันทั้งคู่หว่า
55

ผลงานของผู้เขียน อาจารย์หญิง, ตื่นเสียทีจะไม่มีทายาทแล้ว และอีกมากมายหลายเรื่อง
ส่วนตัวคือชอบงานของนักเขียนท่านนี้อยู่แล้ว(มีครบ) เพราะนอกจากจะเขียนเรื่องของตัวพระ-นางได้สนุกแล้ว ตัวละครอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างก็ยังมีสีสันน่าสนใจ เกลี่ยบทได้ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวหลานชาย หรือลูกน้องคนสนิทของพระเอก

เป็นอีกเรื่องที่สนุก เป็น 3 เล่มที่อ่านแล้วไม่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศึกสงครามการเมืองและความรัก เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เกี่ยวกับสงครามการสู้รบระหว่างแดนเหนือกับชนเผ่านอกด่านชาวทูเจวี๋ย ที่เป็นไม้เบือไม้เมากันมานาน พระเอกเป็นแม่ทัพที่พวกชาวทูเจวี๋ยทั้งเกลียดทั้งกลัว เพราะล้มไม่ได้สักที เมื่อล้มพระเอกไม่ได้แดนเหนือที่เป็นปราการก็ไม่อาจพังทลาย จงหยวนก็ยังคงอยู่...แต่ทั้งที่ทำเพื่อแผ่นดินขนาดนี้ ฝั่งราชสำนักกลับไม่เคยมาสนใจหรือเหลียวแลเลย...เพราะขอแค่ยังป้องกันศัตรูเอาไว้ได้ ต่อให้แดนเหนือจะยากจนข้นแค้นลำบากแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ยังดีกว่าปล่อยให้แข็งแกร่งมั่งคั่งแล้วกลายมาเป็นภัยต่อราชสำนักในวันข้างหน้า...พออ่านเจอประโยคนี้แล้วเจ็บจี๊ดเลยอะ แบบนี้สินะพระเอกถึงได้ไม่มีตังค์ เพราะพี่ต้องออกเงินเอง หากอยากให้แดนเหนือกลับมาเจริญรุ่งเรืองและชาวบ้านไม่อดอยากอีกต่อไป

ทว่านอกจากศึกนอกก็ยังมีศึกใน ที่เป็นสาเหตุให้นางเอกตัดสินใจตัดขาดกับพระเอกและลูก เพราะฝ่ายตรงข้ามอยู่สูงเหลือเกินนน เลยไม่อยากทำให้พระเอกเดือดร้อน
แต่พอพระเอกรู้ว่าเมียคิดจะตัดขาดก็ไม่ยอม รีบขี่ม้าตามไปคาดคั้นทันที ...
ทีแรกก็นึกว่าพระเอกจะต้องไม่ปล่อยให้นางเอกไป แต่ผิดคาด
!!...พี่แกปล่อยจ้า
พระเอกเรื่องนี้ไม่ได้คลั่งรักแบบไม่ลืมหูลืมตา อย่างรอบแรกที่นางเอกถอดใจเพราะพยายามเท่าไรพระเอกก็ไม่อ่อนลงสักที เลยตัดสินใจเก็บของเตรียมกับบ้านเดิม พอพระเอกรู้ก็ตามมาพูดคุยและ
xx*&*%#  แล้วสุดท้ายก็ปล่อยให้นางเอกเลือกเองว่าจะอยู่หรือไป
เหมือนพอพูดในส่วนของตัวเองจบ พี่ก็จะปล่อยให้อีกฝ่ายไปคิดทบทวนเอาเองอะ
ไม่บังคับ ไม่ฝืน แต่ถามว่ารักไหม รักนะ รักมากกก แต่ไม่ได้รักแบบไม่ลืมหูลืมตาไม่สนใจอะไร  พี่เขารักแบบมีสติอะ แบบข้าก็มีศักดิ์ศรีนะ ทำถึงขนาดนี้แล้วที่เหลือเจ้าก็เอาไปคิดเองแล้วกัน...

ยิ่งเล่มสามนี่มีทั้งศึกนอกศึกใน เพราะมีคนด้านในประสานพาศัตรูเข้ามา พระเอกเลยต้องลงมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองในราชสำนักอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลานชายของนางเอกก็ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อเลือกทางเดินในชีวิตของตนเอง..
นักเขียนคือเขียนเก่งอะ ผูกปมดี ไม่หนักมากแต่ก็ไม่เบา ทั้งเบื้องหลังและอดีตของตัวละคร ทั้งเรื่องแผนการต่างๆ รวมถึงฉากการสู้รบ ที่มาที่ไปของแต่ละเรื่องซึ่งสุดท้ายก็มาบรรจบอยู่ที่สาเหตุเดียวกันคือ..เพื่อปกป้องราชอำนาจ ..ซึ่งสุดท้ายคนต้นเรื่องก็ได้รับผลกรรมอย่างสาสมล่ะนะ (รึเปล่า)
 

ส่วนพาร์ทความรักก็มีอยู่เรื่อยๆ ทั้งความรักของพระ-นาง ความรักความผูกพันระหว่างอา-หลาน แต่ช่วงแรกก็อาจจะหวานๆ ขมๆ หน่อย เพราะในตอนต้นดูเหมือนจะมีแต่นางเอกที่เป็นฝ่ายทุ่มและตามรุกอยู่คนเดียว แต่พอเอาเข้าจริง...สุดท้ายคนที่ยังไม่ยอดเปิดใจอย่างแท้จริงกลับไม่ใช่พระเอกเลยนะ 55 'เจ้าอยากได้สิ่งนี้มิใช่หรือ ฝูถิงคนนี้เหมือนหลอมจากเหล็กทั้งตัว มีแต่หัวใจเท่านั้นที่อ่อน อยากได้ก็มาเอาไปสิ'
และก็มี nc ที่ถึงจะบรรยายแบบตัดเข้าโคมแต่ก็ทำให้ใจเต้นได้ ภาษาสวยแปลดี  
ไม่ต้องชัดเจนแต่ก็ทำให้เรารู้สึกใจเต้นตาม...โดยเฉพาะหุ่นพระเอกนี่ต้องแซบแน่นอนชิมิ
เห็นนางเอกชอบลูบแถมยังบรรยายบ่อยๆ ว่าหนั่นแน่น...อิอิ


📍แม่ทัพใหญ่ผู้นี้คือสามีข้า 3 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/8Khf3t80Ys




วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เทพธิดาขนมหวาน 4 เล่มจบ

 


เทพธิดาขนมหวาน 4 เล่มจบ
ผู้แต่ง : 
米可麻
ผู้แปล : อวี้หลันฮัว
สำนักพิมพ์ หอมหมื่นลี้

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นางเอก เถียนนี เป็นเชฟขนมหวานที่กำลังจะมีร้านเป็นของตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้เปิดก็ดันสะดุดล้มแล้วทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ เถียนเอ้อร์ยา  เด็กสาวสมองเลอะเลือนของบ้านสกุลเถียนที่แสนจะยากจนข้นแค้นเข้าซะก่อน เหตุเพราะบิดาผู้แสนเก่งกาจของร่างนี้มาด่วนจากไป อีกทั้งมารดาก็ยังอ่อนแอไม่สู้คน จึงทำให้สองแม่ลูกถูกญาติพี่น้องรังแก ถูกเอารัดเอาเปรียบและถูกหลอกเอาที่ดินทำกินไป...แต่เมื่อหญิงสาวสมัยใหม่จากโลกอนาคตได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้ อะไรๆ ก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะเธอจะไม่มีวันยอมอยู่เฉยๆ ให้ใครมารังแกหรือต้องทนกัดก้อนเกลือกินเป็นอันขาด ทุกสิ่งที่ถูกแย่งชิงไปเธอจะเป็นคนเอามันกลับคืนมาเอง...

พระเอกเป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กที่โตมาด้วยกันกับเจ้าของร่างเก่า เป็นเด็กกำพร้าที่บ้านสกุลอู๋รับเลี้ยงมา แต่เพราะพูดไม่ได้ จึงทำให้ถูกส่งตัวมาอยู่ที่ชนบทแทน เป็นคนที่คอยช่วยเหลือแนะนำนางเอก เวลาไปไหนหรือไปทำอะไรพี่ก็ตามไปช่วย คอยอยู่ข้างๆ ถึงจะพูดไม่ได้แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการสื่อสารระหว่างทั้งสองคนแต่อย่างใด

เป็นแนวปลูกผักทำสวน ทำอาหาร ทำขนม ทำชา ทำสบู่ บลาๆ มากมายสารพัด
นางเอกหัวการค้ามีความคิดใหม่ๆ ผุดออกมาอยู่ตลอดเวลา เป็นคนใจกล้า สู้คน แม้ชีวิตใหม่จะลำบากยากจนแต่นางก็สู้ สู้เพื่อตัวเอง เพื่อแม่ของเจ้าของร่างนี้จะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ต้องอดอยากหรือถูกใครรังแกอีกต่อไป
เริ่มตั้งแต่ไปไฟท์ทวงที่ดินทำกินของบ้านคืน
ต่อจากนั้นก็ปลูกพืชสมุนไพร ปลูกผัก ทำสวนท้อต่อจากพ่อ(เจ้าของร่างนี้)ที่ตายจากไป

แล้วก็เริ่มขยับขยายมองหาช่องทางทำธุรกิจใหม่ๆ อย่างเช่นขายน้ำชา ขณะที่ขายก็โฆษณาประชาสัมพันธ์งานเฉลิมฉลองลูกท้อที่สวนของตัวเองไปด้วย เอาแนวคิดจากยุคปัจจุบันมาปรับใช้ แทนที่จะจ้างรถขนไปขายในเมืองเหมือนคนอื่นๆ ก็จัดงานเทศกาลลูกท้อของตัวเองให้คนมาเยี่ยมมากินที่สวนมันซะเลย จะได้ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง ไม่ต้องกังวลว่าผลไม้จะเสียหายระหว่างทาง ได้ทั้งค่าเข้างาน-ค่ากิน วินวิน

แต่ๆๆ ยังไม่พอ เพราะนางเอกคือเชฟขนมหวานที่มาจากโลกอนาคต ดังนั้นความฝันของเธอจึงไม่อาจหยุดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะด้วยฝีมือในการทำอาหาร ทำขนมและความรู้ต่างๆ ที่ติดตัวมา จึงทำให้นางดึงดูดผู้คนและยังสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปเจรจาทำการค้ากับคนอื่นได้
ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาขอเช่าที่ปลูกสมุนไพร ขอซื้อเนื้อสัตว์ และขอส่งขนมไปวางขายในร้านขนม
ชื่อดังอันดับหนึ่งของเมือง ไม่ว่าอะไรก็ล้วนสำเร็จ จากเด็กสาวสติเลอะเลือนในวันวานที่ใครๆ ต่างดูถูกรังแก ก็เปลี่ยนกลายมาเป็นฉลาดเฉลียว เฉียบคม เต็มไปด้วยความคิดแปลกๆ ใหม่ๆ (ก็เอามาจากยุคปัจจุบันนั่นแหละ) ได้ผูกสัมพันธ์รู้จักกับผู้คนมากมาย ค่อยๆ มีชื่อเสียงและทำให้ผู้คนต้องจดจำ

ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้นางเอกเด่น ดังนั้นบทของพระเอกจึงอาจจะแลดูจืดจางไปบ้าง
ทั้งยังต้องอยู่ในกรอบของท่านอาที่เลี้ยงดูมาบวกกับเรื่องชาติกำเนิดที่ดูมีซัมติง จึงทำให้พระเอกทำอะไรตามใจชอบไม่ค่อยได้ จะไปไหนก็ต้องกลับมากินข้าวที่บ้านให้ตรงเวลา
ต้องยึดท่านอาเป็นหลัก พระเอกจึงไม่มีอิสระเท่าที่ควร ส่วนใหญ่เวลามีปัญหานางเอกก็จะจัดการลุยเอง พึ่งลำแข้งของตัวเองเลย ส่วนพระเอกก็คล้ายกับเป็นผู้ช่วยที่คอยให้การชี้แนะสนับสนุนมากกว่า หรือไม่ก็โผล่มาในตอนที่สถานการณ์วิกฤต กว่าพี่แกจะได้ปล่อยของแสดงพลังออกมาจริงๆ ก็เล่มสุดท้ายเลย พอไม่ต้องทนปิดบังอะไรแล้ว พระเอกถึงสามารถแสดงความเป็นตัวเองและปกป้องนางเอกได้อย่างแท้จริงสักที....
จะว่าไปพระเอกก็น่าสงสารนะ ทั้งต้องปกปิดชาติกำเนิด มีบ้านแต่ไม่อาจกลับ ต้องแสร้งทำเป็นใบ้ ต้องใช้ชีวิตตามใจคนอื่น เขาอยากให้สอบเป็นขุนนางก็ต้องสอบ ต้องเรียนต้องอ่านหนังสือ แต่จู่ๆ มาวันหนึ่งบอกไม่ต้องสอบแล้ว ก็แค่เนี่ยง่ายๆ ...อยากให้กลับเข้าตระกูลก็ต้องไป ...ดีนะที่โตมาไม่เก็บกดยังเป็นคนจิตใจดีอยู่

อุปสรรคความวุ่นวายในเรื่องและปัญหาของนางเอกส่วนใหญ่ก็มาจากคนรอบข้าง หรือไม่ก็ญาติตัวเองนี่แหละ เป็นมาตั้งแต่รุ่นพ่อและ แบบเห็นบ้านนางเอกได้ดีกว่าไม่ได้
พอเห็นเขาได้ดีก็อิจฉาริษยาอยากกำจัด จะทำอะไรก็ต้องหาทางเอารัดเอาเปรียบ โลภมากอยากได้ของเขา คนรอบข้างก็กลัวไม่มีใครกล้าพูดหรือช่วย คือถ้านางเอกไม่ทะลุมิติมานะ
จบสิ้นแน่นอนบ้านเจ้าของร่างเดิมเนี่ย
พอพ่อนางเอกตายก็มาหลอกฮุบเอาที่ดินไป พอเห็นนางเอกหายดีกลายเป็นคนฉลาดก็คิดจะใช้ความเป็นผู้อาวุโสส่งนางแต่งงานไปอยู่ที่อื่น
เพื่อจะได้เอากิจการทุกอย่างของนางเอกมาเป็นของตน แต่มีหรือนางเอกจะยอม..

จริงๆ เรื่องนี้สเกลเล็กนะ แต่พออ่านแล้วกลับมีเรื่องราวอะไรไม่รู้เยอะมาก 55
ทั้งที่เรื่องก็ดำเนินอยู่แค่ในชนบทกับในตัวเมืองเล็กๆ พระ-นางก็เป็นคนธรรมดา
พระเอกเป็นลูกของตระกูลที่รวยที่สุดของเมืองนี้ เป็นตระกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำหมึก (เป็นหมึกที่ฮ่องเต้ใช้) นายหญิงของตระกูลก็เป็นลูกสาวขุนนางจากเมืองหลวง จึงทำให้ตระกูลนี้ยิ่งเป็นที่นับหน้าถือตา ผู้คนในเมืองรวมถึงนายอำเภอล้วนให้ความเคารพยำเกรง...
ซึ่งบอสใหญ่ของเรื่องก็คือนายหญิงใหญ่ของตระกูลนี้แหละ ใหญ่จริงๆ ไม่มีใครกล้าหือ ขนาดนายอำเภอยังต้องเกรงใจ
พระเอกยังต้องถูกส่งไปอยู่ที่อื่นเนื่องจากเกรงว่าจะถูกนาง(ซึ่งเป็นเมียเอกพ่อ) ฆ่าเหมือนลูกอนุคนอื่นๆ เพราะนางเล่นกำจัดลูกอนุของสามีในบ้านซะเกลี้ยง จนสุดท้ายตระกูลไม่มีผู้สืบทอดแล้วถึงได้ยอมให้คนพาพระเอกกลับมา... เหอๆ ๆ

นางเอกก็งานเข้าเยอะ มีแต่คนมาหาเรื่องจนแทบจะจบเล่มเลย กิจการก็ต้องสร้าง งานอย่างอื่นก็ต้องทำ เราก็รอดูว่าเมื่อไรนางจะเปิดร้านสำเร็จ ลุ้นว่าเมื่อไรจะได้เปิดร้านสักที
รอมาตั้งแต่เริ่มแสดงฝีมือทำของกิน เริ่มไปติดต่อเจรจาทำนั่นนู่นนี่ แล้วก็วนเวียนแบบนี้ สรุปได้เปิดท้ายเล่มเกือบจบเลยจ้า..
หลักๆ ก็วนๆ กับการทำอาหาร คิดสร้างธุรกิจใหม่ แล้วเดี๋ยวก็มีคนมาหาเรื่อง แล้วก็ทำอาหาร วนลูปอยู่แบบนี้แหละจนจบเรื่อง
ส่วนอาหารก็มีทั้งของคาวของหวาน อย่างเช่นสเต็ก แซนวิช เค้ก ขนมปังและอีกมากมาย
ทั้งชื่ออาหาร ส่วนผสม ขั้นตอนการทำ วิธีดูแลพืชผักสมุนไพร จัดเต็มประหนึ่งคู่มือ
 ...
เสียดายตั้ง 4 เล่มแต่เนื้อเรื่องเหมือนวนไปวนมาไม่มีจุดพีคอะไรเลย กิจการร้านของนางเอกกว่าจะได้เปิดจริงก็ท้ายๆ แล้ว สรุปรวบยอดภายในไม่กี่หน้าว่าต่อมานางได้เปิดร้านอะไรแล้วร่วมมือกับใครอีกบ้าง ....

พาร์ทความรักก็เรื่อยๆ น่ารักดี พระ-นางมีใจให้กันมาตั้งแต่ต้นๆ แล้ว พระเอกสายอบอุ่นอ่อนโยน พูดน้อย (ที่พูดไม่ได้...เพราะเหตุผลบางอย่าง) ทว่าถึงจะพูดไม่ได้แต่ทั้งสองคนก็คุยกันรู้เรื่องนะ เขาสื่อสารกันด้วยภาษามือ ภาษาใจและใช้สายตาบอกกล่าว..อิอิ  
พระ-นางต่างก็มีปัญหา(ทางบ้าน) ของตัวเองที่ต้องไปจัดการแก้ไข แต่ทั้งคู่ก็เป็นเซฟโซนคอยให้กำลังใจกันและกัน เชื่อใจกัน ถึงบางครั้งจะมีเหตุให้ต้องแยกจากโดยไม่ได้บอกก็ไม่มีใครโกรธใคร ไม่มีปัญหาอะไรเพราะต่างเข้าใจกันดีว่าอีกฝ่ายกำลังเผชิญกับสิ่งใด

แม้ตอนแรกท่านอาของพระเอกจะไม่เห็นด้วยถ้านางเอกจะมาเป็นลูกสะใภ้ คอยบอกเป็นนัยๆ ว่านางเอกคุณสมบัติฐานะไม่เหมาะสมนะ แต่นางเอกก็ชิวๆ ไม่สน เพราะเรื่องหาเงินต้องมาก่อนความรัก ที่เหลือก็แล้วแต่โชคชะตาละกัน สมกับที่เป็นสาวแกร่งที่มาจากยุคสมัยใหม่จริงๆ ส่วนแม่นางเอกจากที่กลัวไปซะทุกเรื่องแต่พอเป็นเรื่องความรักของลูก คุณแม่ก็สู้ตาย ให้การสนับสนุนเต็มที่ เชียร์สุดใจ.....ส่วน nc ไม่มีจ้า ใสมากกก แค่จับมือสบตากันก็หน้าแดงแว้วว 

ป.ล. การแปลส่วนตัวอ่านแล้วรู้สึกว่ายังไม่ค่อยลื่น ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆ ของสนพ.นี้ที่เคยอ่านมาก่อนหน้า เราว่าเรื่องนี้ดรอปลงนะ แล้วก็มีคำผิดอยู่นิดหน่อยประมาณ 2-3 จุด ...(แต่ก็สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้เน้อ)


📍เทพธิดาขนมหวาน 4 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/2B71ikHuEd



วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

เล่ห์รักประมุขพรรคมาร 3 เล่มจบ

 

เล่ห์รักประมุขพรรคมาร 3 เล่มจบ 
ผู้แต่ง : หนานเฟิงเกอ
ผู้แปล : เจ้าเจิน
วาดปก : 
山魂 (Shan Hun)
สำนักพิมพ์  Rose Publishing

ความรู้สึกหลังอ่านจบ (อาจมีสปอยล์)

นายเอก จวินซูอิ่ง ทูตฝ่ายซ้ายของพรรคมาร นิสัยเย็นชา โหดเหี้ยมอำมหิต ไม่เคยเชื่อใจผู้ใด มีความทะเยอทะยานสูงและหลงใหลในวิชายุทธ์ อยากเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้า ได้ตำแหน่งประมุขพรรคมารมาด้วยการสังหารประมุขคนเก่า

พระเอก ฉู่เฟยหยาง ศิษย์ดีเด่นแห่งสำนักกระบี่ชิงเฟิง ขวัญใจชาวยุทธ์ฝ่ายธรรมะ เก่งกาจ หล่อเหลา มากความสามารถ วรยุทธ์สูงเป็นอันดับหนึ่งในยุทธภพ เป็นคนดีศรีสังคม และเป็นบุรุษที่ทำให้หัวใจของสาวน้อยใหญ่ต้องสั่นไหว...

หลังจากที่นายเอกขึ้นเป็นประมุขพรรคมารได้ไม่นาน พระเอกก็ส่งสารมาท้าประลอง (แบบเป็นคนดีอะเนาะ ไม่ชอบการลอบทำร้าย จะไปจัดการใครพี่ก็ต้องส่งจดมายไปแจ้งขอท้าดวลก่อน) พอสู้กันปรากฏว่านายเอกแพ้ได้รับบาดเจ็บกลับมา แต่ขณะที่รักษาตัวก็ดันเจอคนบุกมาที่พรรคและถูกอดีตทูตฝ่ายขวาของพรรคมารยัดยาอะไรไม่รู้เข้าปาก ...นายเอกก็เลยต้องหลบไปพักรักษาตัวที่บ่อน้ำพุร้อนของพรรคที่มีสรรพคุณในการรักษา ...แต่บทคนมันจะซวยขนาดกินน้ำเย็นก็ยังติดฟัน เพราะขนาดหลบมาถึงสถานที่ไกลหูไกลตาก็ยังไม่วายมาเจอกับพระเอกที่ถูกพิษ(ยากำหนัด)เข้าพอดีอีก...เวงงงง
พระเอกที่ไม่ได้สติ
Xนายเอกที่ได้รับบาดเจ็บ นายเอกก็พยายามขัดขืนสูดสุดใจแล้วนะ
แต่ยังไงก็สู้พระเอกไม่ไหวเลยต้องกล้ำกลืนฝืนใจปล่อยเลยตามเลย หลังจากนั้นทั้งสองคนก็
xxx%%##**~~ ...

ชีวิตนายเอกในเล่มแรกนี่ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ พอมีอะไรกันถึงได้รู้ว่ายาที่ตนกินเข้าไปมันก็คือยาที่ช่วยทำให้บุรุษตั้งครรภ์ได้...OMG! นอกจากจะถูกหยามเกียรติ ต้องตั้งครรภ์โดยไม่เต็มใจ กำลังภายในที่ฝึกฝนมานานหลายปีก็ยังถูกทารกในท้องสูบเอาๆ ไปจนเกือบหมดอีกด้วย...แถมยังถูกคนฉวยโอกาสบุกมาชิงตำแหน่งประมุขพรรคไปในตอนที่กำลังบาดเจ็บ จนต้องหนีตายและถูกคุมขัง พอถูกปล่อยตัวก็ถูกวางยาพิษ ต้องไปทำงานให้อีกฝ่ายเพื่อแลกกับยาถอน นายเอกก็แบกท้องโตๆ แบบที่กำลังภายในเดี๋ยวมีเดี๋ยวหายไปหาของทั้งๆ แบบนั้น...แล้วก็บังเอิญไปเจอกับอิตาพระเอกที่มาทำงานที่นั่นพอดี....พระเอกก็ไม่รู้ว่านายเอกตั้งท้องลูกตัวเอง มารู้ตอนที่นายเอกบุกเข้ามาหาของในบ้านที่ตนกำลังคุ้มกัน แล้วนายเอกก็บอกเรื่องนี้เพื่อแลกกับการให้พระเอกปล่อยตัว...
จากนั้นพี่ก็ตามติดคอยตามดูแลไม่ห่าง จากที่คิดว่าทำไปเพื่อรับผิดชอบจะรอให้เด็กคลอด ก็เริ่มคาดหวังว่าอยากอยู่ด้วยกันแบบเป็นครอบครัวจริงๆ แต่ปัญหาคือพระ-นายอยู่คนละฝั่ง แล้วนายเอกก็สนแต่เรื่องกำลังภายในกับวรยุทธ์ และอยากควบคุมยุทธภพเท่านั้นนี่สิ ...

พอคลอดเสร็จอยู่ด้วยกันไม่นาน นายเอกก็หอบลูกหนีไปทำตามฝัน (ครอบครองยุทธภพจงหยวน) พระเอกก็เดาออกว่านายเอกจะไปไหน พี่ก็ตามไปรอดักที่งาน ไปถึงก็เจอกับอาจารย์ตัวเอง อาจารย์ก็โกรธที่พระเอกทรยศไม่ยอมฆ่านายเอก จะตัดขาดและไล่พระเอกออกจากสำนัก แต่พระเอกก็ไม่โกรธรู้ว่าตัวเองผิด แต่ไม่อาจบอกเหตุผลจริงๆ ได้ (ว่าเขาเป็นภรรยาผม55) จึงได้แต่ทำหน้าหนาเกาะติดอาจารย์...แล้วนายเอกก็โผล่มาตามคาด ทั้งยังวางยาคนที่มาร่วมงาน แล้วสั่งให้ลูกน้องจับทุกคนไปคุมขังเพื่อบีบให้ยอมสยบ...
เล่มแรกส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องความสัมพันธ์ของพระ-นาย การไล่ตามจีบพิชิตใจเมียของพระเอก ว่าต้องทำอย่างไรคนเขาถึงจะยอมอยู่ข้างกายแต่โดยดีและโดยสมัครใจ...

เล่ม 2-3 เป็นเหมือนการผจญภัยครั้งใหม่ หลังจากที่พระ-นายมีลูกและอยู่ด้วยกันแล้ว ล่ม 2 เป็นการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังเกาะเพื่อหาสมบัติ เริ่มจากมีคนจากสำนักหนึ่งมาตามหาอาวุธของพรรคที่ถูกขโมยไป แล้วพระเอกก็ถูกไหว้วานให้เดินทางไปหาสมบัติตามแผนที่กับเขา ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยปริศนาและข้อสงสัยมากมาย

ซึ่งเล่มนี้จะบอกความลับและที่มาที่ไปของสำนักของอาจารย์พระเอก ว่าเหตุใดสำนักเก่าของอาจารย์ถึงล่มสลายในชั่วข้ามคืน และทำไมพระเอกถึงถูกอาจารย์อาหญิง (ศิษย์น้องของอาจารย์) ตามไล่ล่าในช่วงท้ายเล่มแรก ...และเราจะได้เห็นว่านายเอกก็รักพระเอกมากขนาดไหน ถึงจะปากร้าย เย็นชา โมโหง่าย แต่ยามที่พระเอกเกิดเรื่อง คนแรกที่พุ่งออกไปโดยไม่สนใจความเป็นความตายก็คือนายเอกนี่แหละ...

ส่วนเล่ม 3 เรื่องมันเกิดเพราะจู่ๆ ก็มีสำนักหนึ่งที่ชื่อว่าหมู่ตึกอู๋จี๋ สำนักอะไรไม่รู้แต่จู่ๆ ก็เฟื่องฟูขึ้นมาภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี แล้วก็เที่ยวไปบีบให้สำนักอื่นเข้ามาเป็นพวก โดยคนที่เข้าไปก็จะได้เคล็ดวิชายุทธ์ที่หายสาบสูญเป็นของตอบแทน พร้อมกับกำลังภายในที่เพิ่มขึ้นสูงในชั่วข้ามคืน แต่เพราะมีวิธีการที่แปลกประหลาดและโหดเหี้ยมเกินไป ยุทธภพจึงไม่อาจนิ่งดูดาย พระ-นายและคนอื่นๆ จึงต้องเดินทางไปตรวจสอบ

เล่มนี้บุกป่าฝ่าดงข้ามเขา ฝ่ากลไกเจอค่ายกล เพื่อไปถอนรากถอนโคนหมู่ตึกอู๋จี๋และช่วยชนเผ่าพิเศษที่ปรมาจารย์อดีตประมุขพรรคของพระเอกเคยทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อปกป้อง ในเล่มสองตอนเฉลยปมที่กระทำเรายังมีความรู้สึกสงสารคนที่ทำผิด เพราะอีกฝ่ายยังมีสำนึกกลับตัวกลับใจ มีเหตุผลที่รับได้โอเค แต่เล่มสุดท้ายนี่สงสารไม่ค่อยจะลง บ้ามากก เพราะความเข้าใจผิดตัวเดียว แต่เข้าใจผิดแล้วทำไมถึงเอาไปลงกับคนอื่นล่ะป้าาาาา  สงสารเผ่าเหลียนซานมาก จิตใจดีชอบช่วยเหลือคนแต่ได้อะไรตอบแทนเนี่ย อ่านแล้วปวดใจ....

คือชนเผ่าเหลียนซานเนี่ย เป็นชนเผ่าที่มีร่างกายพิเศษแต่กลับจิตใจดี ใสซื่อบริสุทธิ์ และไม่มีความสามารถในการปกป้องตัวเอง มีแต่ความสามารถในการรักษา เลยมีคนมาสร้างค่ายกลเพื่อปกป้องชนเผ่านี้จากคนภายนอกเอาไว้ ...แต่สุดท้ายด้วยความใจดีของคนในเผ่าจึงทำให้ภัยมาเยือน  คนในเผ่าต้องกลายเป็นทาสและถูกวางยาพิษ แต่โดนถึงขนาดนี้แล้วก็ยังไม่มีใจโกรธแค้น ได้แต่ยอมรับชะตากรรมเท่านั้นเอง น่าสงสารมากกก
ชอบที่พระเอกพูดว่า ....ถึงอดีตตัวเองจะเคยลำบากหรือถูกทำร้ายยังไง แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะไปทำร้ายคนอื่นนะจ๊ะ...ข่อยก็นึกว่าจะสำนึกผิดกลับใจได้บ้าง นี่แม่งไปให้สุดจริงๆ ยันนาทีสุดท้าย เป็นเล่มที่มันมาก ครบรสจริงๆ....

ความจริงพระเอกนี่เป็นความหวังของหมู่บ้านเลยนะ เจอเรื่องหนักๆ สถานการณ์เสี่ยงตายแค่ไหน ขอแค่พกพระเอกไว้ก็อุ่นใจค่ะ สมกับที่เป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าทั้งยังสามารถกำราบอดีตประมุขพรรคมารอย่างนายเอกได้จริงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนตัวซวยที่คอยนำแต่เรื่องมาให้อะิ 55 หากไม่เป็นเพราะเรื่องที่มีวรยุทธ+กำลังภายในสูง มีความเฟรนลี่เป็นคนดีของสังคม (คนต้องมาขอให้ช่วย) ก็เป็นเพราะเสน่ห์ของพี่แกที่โปรยออกไปแบบไม่รู้ตัวนี่แหละ ที่เป็นตัวเรียกปัญหาเข้ามา จริงๆ ก็เสน่ห์แรงทั้งพระ-นายแหละ ตกได้หมดทั้งชาย-หญิง เพียงแต่ฝั่งพระเอกนี่จะแรงกว่าหน่อย เพราะฝั่งที่มาแอบชอบจะเปิดตัวแรง ตามรักตามแค้นแสดงออกแบบไม่ปิดบัง ส่วนของนายเอกจะมาแนวแอบรักเงียบๆ อยากปกป้อง ไม่กระโตกกระตาก ไม่ทำอะไรวุ่นวาย เลยไม่มีปัญหาอะไรไง....

อ่านจบแล้วส่วนตัวชอบเล่ม 3 ที่สุด ครบรสดี ถ้าเรียงลำดับความชอบคือ 3>2>1
เราว่ามันจะค่อยๆ สนุกและลุ้นขึ้นเรื่อยๆ อะนะ เล่มสุดท้ายอะพีคสุดและ
มีหลายเรื่องให้ลุ้น ทั้งเรื่องค่ายกล พิษประหลาด ชนเผ่าพิเศษ และใดๆ คือเล่มนี้ตัวละครเก่าๆ ออกมามีบทกันเกือบครบ ทั้งชิงหลาง-เยียนฉี ซิ่นอวิ๋นเซิน-เกาฟั่ง และก็บรรดาลูกๆ ของพระ-นายกับคู่อื่นๆ ก็มา ได้เห็นความน่ารักและพัฒนาการของก้อนหินน้อยฉีเอ๋อร์-หลินเอ๋อร์ ว่าโตแล้วเป็นยังไงกันบ้าง (คนโตเจ้าเล่ห์+แสบ คนเล็กสุขุม+เชื่อถือได้ (นิสัยเหมือนพ่อ)...)

ส่วนพาร์ตความรักก็คือหวานเรียกพี่แหละจ้า เล่มแรกนี่ตีกันเกือบตาย หลังจากพระเอกรู้ใจตัวเองก็ต้องเป็นฝ่ายหาทางพิชิตใจยอดเขาเอเวอเรสต์ เอ้ย! นายเอกก่อน พอเล่ม 2-3 พระเอกก็สามีแห่งชาติเลยจ้า ระดับความคลั่งรักสูงมาก ทั้งๆ ที่นายเอกนี่เย็นชา หยิ่งๆ เชิดๆ ฉุนเฉียวง่าย พูดจาไม่ไว้หน้าใคร แต่พระเอกก็รับไหวได้หมด ไม่เคยโมโห มีแต่ความใจกว้างแบบไม่มีที่สิ้นสุดมอบให้เสมอ ว่าอะไรมาก็ยิ้มตอบหยอกกลับ ส่วนนายเอกนานวันก็เริ่มชินกับความหน้าไม่อายและหน้าหนาของสามี จนค่อยๆ ตกหล่มความเอาใจใส่ และยอมอยู่ภายใต้ปีกของพระเอกโดยไม่รู้ตัว พระเอกก็กระเทาะเปลือกนายเอกไปเรื่อยๆ จนทำให้คนเขาวางใจและคุ้นเคยจนขาดตัวเองไม่ได้ จากที่ไม่เคยหลบอยู่หลังใคร ก็ยอมหลบอยู่ข้างหลังพระเอกคนเดียว

ป.ล. nc ไม่ตัดเข้าโคม มีทั้งในห้องและนอกสถานที่ ในถ้ำและในน้ำ55
ป.ล. สรุปได้กินยามีลูกกันหมดทั้งคู่หลัก-คู่รอง เห็นว่าคู่ศิษย์น้องพระเอกก็มีเล่มแยกเหมือนกันนะ แอบสนใจ เพราะตอนแรกเปิดมาเห็นใสซื่อเหมือนน้องจะไม่ค่อยเก่ง แต่ตอนเล่ม 1 มีช่วงนึงที่ลูกน้องนายเอกค้นพบว่ากำลังภายในศิษย์น้องของพระเอกไม่ธรรมดา เราเลยเริ่มเอ๊ะๆ อยากเห็นเส้นทางรักคู่นี้เหมือนกันนะ แบบจะฝ่าด่านพ่อสามียังไง เพราะเห็นในเล่ม 2 โผล่มาอีกทีคือสมหวังได้อยู่ด้วยกันแล้ว ...


📍เล่ห์รักประมุขพรรคมาร 3 เล่มจบ ➡️ https://s.shopee.co.th/9pXRX90tQw